ปล่อย 4 นศ.ไทยที่ถูกรวบในปากีฯกลับบ้าน
นักศึกษาไทยในปากีสถาน 4 จาก 5 คนได้รับการปล่อยตัวจากหน่วยสืบราชการลับปากีฯแล้ว หลังถูกจับพร้อมเพื่อนอีก 1 คนในข้อหาพยายามนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินที่สนามบินลาฮอร์ โดยทั้งหมดจะกลับถึงบ้านเกิดในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน
นักศึกษาไทย 4 จาก 5 รายได้รับการปล่อยตัวจากทางการปากีสถานแล้ว หลังสอบปากคำพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ขึ้นเครื่องบิน เมื่อกลางดึกวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทั้งหมดจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 06.10 น.วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน ด้วยเที่ยวบินของสายการบินไทยที่ ทีจี 346 ลาฮอร์-กรุงเทพฯ
ส่วนนักศึกษาจากจังหวัดปัตตานียังคงถูกควบคุมตัวต่อไป โดยเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอิสลามาบัด ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่
นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานนักศึกษา 4 คนส่งตัวกลับประเทศไทยแล้ว ส่วนอีก 1 คนที่เป็นเจ้าของอาวุธปืนยังอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของทางการปากีสถานเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ความล่าช้าในการส่งตัวกลับเนื่องจากสายการบินมีความเป็นห่วงในมาตรการรักษาความปลอดภัย ยืนยันว่าทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส และกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ต้องติดตามการสอบสวนต่อไป
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบประวัติครอบครัวของนักศึกษาไทยทั้ง 5 คนแล้ว พบว่าครอบครัวมีฐานะยากจนและเรียบร้อยดี ครอบครัวกลัวว่าจะมีเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ จึงได้ส่งไปเรียนหนังสือ โดยเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,000 บาท ไปเรียนในเรื่องของศาสนา แต่ยังไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร จากการสอบสวนเบื้องต้น 5 นักศึกษาได้บอกว่าไม่ได้เอาปืนไปแสดงความยิ่งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นเพียงปืนกระบอกเดียว ขนาด 9 มิลลิเมตร ส่วนจะเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือไม่ ยังไม่ทราบ ต้องรอผลการสอบสวนก่อน ขณะนี้ยังยืนยันอะไรไม่ได้ทั้งหมด ส่วนตัวยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนำปืนขึ้นเครื่อง ทั้งๆ ที่มีการห้ามนำอาวุธปืนขึ้นเครื่อง
พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้ช่วยทูตทหารติดตามการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ปากีสถานแล้ว