ไฟเขียวใต้จำนำข้าวได้เลย เกษตรกรโวยใบรับรองช้า
กขช.ปรับเงื่อนไขรับจำนำข้าว ให้พื้นที่ภาคใต้เริ่มได้เลย ไม่ต้องรอ ก.พ. เหตุนโยบายไม่แบ่งช่วงเพาะปลูก รับได้ตลอดทั้งปี
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่าที่ประชุมมีมติเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการรับจำนำข้าวในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ในการรับจำนำข้าวครั้งนี้ จากเดิมต้องรอจำนำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็ไม่จำเป็นต้องรอแล้ว โดยให้เกษตรกรเริ่มปลูกข้าวและสามารถนำข้าวมาจำนำได้ทันที เพราะการจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการแบ่งช่วงการเพาะปลูกว่า เป็นนาปี หรือนาปรัง แต่จะรับจำนำตลอดทั้งปี เพื่อเป้าหมายที่ทำให้ได้ราคาสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนขั้นตอนการรับจำนำมีการยืนยันชัดเจนว่า ข้อมูลในใบรับรองการขึ้นทะเบียนพื้นที่และปริมาณข้าวของเกษตรกรจะเป็นเพียงข้อมูลประกอบการพิจารณาเท่านั้น หากเกษตรกรรายใดนำข้าวมาจำนำเกินกว่าข้อมูลที่รับรองในจำนวนที่ไม่สูงจนผิดสังเกต ก็สามารถออกใบประทวนและจ่ายเงินภายใน 3 วัน ได้เลย แต่หากเกษตรกรรายใดจำนำข้าวสูงจนผิดสังเกต ก็จะส่งข้อมูลให้ทีมงานตรวจสอบ
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้จะเปิดรับจำนำข้าวมาแล้วเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่ก็ยังไม่ได้รับรายงานหรือเบาะแสว่า มีการทุจริตสวมสิทธิหรือปลอมปนข้าวในโครงการ แม้แต่ในพื้นที่ที่ตกเป็นข่าว ซึ่งก็ได้มีการกำชับให้หน่วยตรวจสอบเฉพาะกิจเฝ้าติดตามสถานการณ์ และให้เข้มงวดกับการตรวจสอบการขนย้ายข้าวภายในจังหวัดและข้ามจังหวัด รวมทั้งให้มีการคุมการห้ามขนย้ายข้าวเปลือกในจังหวัดติดชายแดน
นายภูมิกล่าวต่อว่า ได้มีการรายงานความคืบหน้าการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย โดยพบว่ายังมีปริมาณค่อนข้างน้อย เพราะผลผลิตข้าวนาปีจะออกมากตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และบางส่วนได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม จึงทำให้ 4 วันแรกของการรับจำนำยังมีปริมาณ 1 หมื่นกว่าตันเท่านั้น ส่วนปัญหาการรับจำนำ ส่วนใหญ่เกิดจากเกษตรกรยังไม่เข้าใจขั้นตอนแสดงหลักฐานประกอบการจำนำข้าวว่า ต้องนำใบรับรองสิทธิเกษตรกรมาแสดง พร้อมข้าวเปลือกที่จะนำมาจำนำ จึงได้ให้ทุกฝ่ายเร่งประชาสัมพันธ์แล้ว
วันเดียวกัน นายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร ปลัดจังหวัดพิจิตร ในฐานะเลขาฯอนุกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัดพิจิตร ในโครงการรับจำนำข้าวประจำปี 2554/55 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พิจิตร กรมการค้าภายใน และตัวแทนเกษตรกร ชาวนา โดยที่ประชุมมีการเน็นย้ำเรื่องระเบียบในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ อีกทั้งมีการกำชับเจ้าหน้าที่ห้ามมีการทุจริตในโครงการเด็ดขาด
นายนพรัตน์กล่าวในที่ประชุมว่า ขณะนี้มีโรงสีที่เปิดจุดรับจำนำข้าวแล้ว 18 แห่ง แต่ที่ผ่านมาปริมาณการรับจำนำข้าวเปลือกของชาวนายังไม่มากนัก เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมนาข้าวเสียหายมากกว่า 5 แสนไร่ จึงต้องเร่งทำการชี้แจงและกำชับผู้เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและจับตาเป็นพิเศษ ในเรื่องการสวมสิทธิของข้าวที่จะเข้าสู่โครงการ ซึ่งเกรงว่าจะมีโรงสีฉวยโอกาสนำข้าวเปลือกจากพื้นที่อื่นๆ หรือจากประเทศใกล้เคียง หรือข้าวเปลือกเก่ามาสวมสิทธิ อีกทั้งได้สั่งตรวจสอบข้อมูลตัวเลขอัตราการผลิตเพาะปลูกข้าวของชาวนาในพื้นที่จริง และการแจ้งพื้นที่ความเสียหายจากน้ำท่วมว่า แตกต่างหรือสมจริงหรือไม่ โดยต้องอยู่ในเกณฑ์แตกต่างไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์
จ.ส.ต.สะท้าน อิ่มอยู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของพิจิตรขณะนี้มีปัญหาการออกใบรับรองให้เกษตรกรชาวนาล่าช้าเกินไป และสิ่งที่ชาวบ้านตำหนิรัฐบาลในเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว คือการเปิดโครงการรับจำนำล่าช้า เนื่องจากข้าวของชาวนาพิจิตรขณะนี้แทบไม่มีข้าวจำนำ บางคนเกี่ยวข้าวหนีน้ำไปขายราคาถูก โดยถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง อีกทั้งที่ผ่านมาข้าวชาวนาน้ำท่วมทุกพื้นที่ เงินประกันรายได้ที่เป็นค่าส่วนต่างก็ยังไม่ได้รับการชดเชยจากรัฐบาล จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้ดูแลโครงการให้มีความชัดเจนในเรื่องของการออกใบรับรอง ชาวนาจะได้นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการได้เร็วขึ้น