เปิดที่ตั้งแห่ง 2 ‘บ.เซ็ทอัพ’คว้ากรมพลฯ 329 ล. -‘หุ้นใหญ่’แจง ไม่ยุ่งนักการเมือง
'ศักดิ์สิทธิ์ สุภาพรพงษ์'ผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.เซ็ทอัพ กรุ๊ป เปิดสนง.แห่ง 2 ย่านเมืองนนท์ แจงปมคว้าอีเวนท์ กรมพลฯ 29 สัญญา 329 ล. ยันรับงานถูกต้อง เหนือคู่แข่ง ไม่เกี่ยวข้องนักการเมือง จุดยืนชัดเจน
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranewws.org ได้เปิดเผยข้อมูลงบแปรญัตติปี 2556-2557 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งตรวจสอบพบว่า ในส่วนของงบประมาณของกรมพลศึกษา ใช้งบไปทั้งสิ้นมากกว่า 3.3 พันล้านบาท ในจำนวนนี้ บริษัท เซ็ทอัพ กรุ๊ป จำกัด 2 ปี (56 - 57) จำนวน 4 รายการเกือบ 90 ล้านบาท ต่อมาพบว่า เอกชนรายดังกล่าวได้รับว่าจ้างถึง 29 สัญญา วงเงินกว่า 329 ล้านบาท
(อ่านประกอบ : ‘ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น’ที่ตั้ง บ.จัดอีเวนต์กรมพลฯ 29 สัญญา 325 ล.-ใช้เป็น สนง. 3 แห่ง)
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง ห้างหุ้นส่วนจำกัด เซ็ทอัพ แมนเนจเมนท์ ซึ่งมีนายศักดิ์สิทธิ์ สุภาพรพงษ์ เป็นเจ้าของอีกแห่ง ระบุที่ตั้งเลขที่ 114/189 ถ.กรุงเทพ – นนทบุรี ตำบลบางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จากการตรวจสอบพบว่า เลขที่ตั้งดังกล่าวตั้งอยู่ใน ซ.กรุงเทพ – นนทบุรี 12 พบว่า มีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ติดป้ายชื่อบริษัทชัดเจน และโกดังอีก 1 หลัง(ฝั่งตรงข้ามบ้าน) ภายในเป็นโกดังเก็บของ ต่อเติมส่วนหนึ่งเป็นบริษัท แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องประชุม ห้องนั่งเล่น และห้องออกกำลังกาย ชั้นบนเป็นออฟฟิศ สำหรับทำงานเกี่ยวกับเอกสาร ด้านหน้ามีรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อจอดอยู่ 3 คัน รถกระบะ 1 คัน (ดูรูปประกอบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ของที่เก็บอยู่ในโกดังเก็บของ ปรากฏเป็นชื่อ “กรมพลศึกษา” ชัดเจน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพนักงาน เพื่อขอสัมภาษณ์ นายศักดิ์สิทธิ์ สุภาพรพงษ์ กรรมการบริษัทฯ
นายศักดิ์สิทธิ์ เผยว่า บริษัทฯทำงานมานานมาก เกี่ยวกับทางด้านงานออแกไนซ์ รับจัดงานอะไรพวกนี้ ตอนนั้นเราก็มานั่งมองว่า เรามาใหม่ๆ เราจะมาสู้กับตลาดพวกที่เขาชำนาญอยู่แล้วได้อย่างไร และทีมงานเราทั้งหมด ส่วนใหญ่ก็ชอบกีฬา จนมาคิดได้ว่า กีฬาเขามีจัดกันแทบจะเรียกว่าทุกชั่วโมงเลยในโลก เพราะชอบกีฬา จึงเลือกที่จะทำให้เป็นมืออาชีพเลย เพราะยังไม่มีบริษัทไหนทำเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าสังเกตจริงๆ ออร์แกไนซ์ส่วนใหญ่จะรับงานแค่พิธีเปิด-ปิด เขาไม่ได้ลงลึกในเนื้อหาของกีฬาเลยว่า การบริหารจัดการกีฬานั้นเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า บริษัทฯรับงานประเภทนี้มากี่ปีแล้ว และใช้วิธีการประกวดราคาหรือวิธีพิเศษ นายศักดิ์สิทธ์ เผยว่า อยู่ในวงการนี้มาประมาณ 10 ปี รับงานครั้งแรกกับกรมพลศึกษา ในช่วงปี 2548 - 2549 เป็นงานกีฬานักเรียนนักศึกษา
ยืนยันว่า สาเหตุที่บริษัทได้รับงานจากกรมพลฯจำนวนหลายสัญญา เพราะ ยังไม่มีบริษัทออร์แกไนซ์รายไหน มีวีธีการบริหารงานในเชิงลึกเหมือนบริษัทของตนเอง
“เราเน้นเรื่องคุณภาพของงานเป็นหลัก กำไรเราไม่เอามาเยอะแยะหรอก ก็แค่พอสมควร ตามหลักการของมัน จุดหนึ่งที่บริษัทอื่นเขาไม่กล้าทำคือ การหาผู้ตัดสิน ต้องเข้าใจว่าที่มาของกีฬามันคืออะไรก่อน ถ้าเรารับงานในนามหน่วยงานรัฐบาล ในนามกรมพลฯ เครดิตมันมีอยู่แล้ว กรรมการเขาก็ยินดีมา คือเราจัดการแทนผู้จ้างได้เลยไง นี่ล่ะคือเหตุผลว่าทำไมมีงานเขาถึงบอกเรา แต่ไม่ใช่ว่าเขาบอกเราคนเดียวนะ บริษัทอื่นๆเขาก็เข้ามาร่วมประกวดราคาด้วย บางงานเราก็ได้ บางงานเราก็ไม่ได้”
นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯรับงานออร์แกไนซ์ทุกประเภทกีฬา ไม่เจาะจง และนอกจากกรมพลฯแล้ว ยังมีหน่วยงานรัฐฯอื่นๆ ที่เข้ามาจ้างงานทางบริษัทอีกมาก อาทิ กรมอุทยาน ฯลฯ เป็นต้น
“ถ้าถามว่าหน่วยงานอื่นเราทำไหม เราก็รับทำหมดแหละ ทุกหน่วยงานสามารถจ้างเราได้ แต่เนื่องจากว่าเราเก่งกีฬาไง ที่มันตรงกับแนวทางของเราก็คือ กรมพลฯ” นายศักดิ์สิทธิ์ ยืนยัน
เมื่อถามว่าระหว่างบริษัท เซ็ทอัพ กรุ๊ป จำกัด กับ หจก.เซ็ทอัพ แมนเนจเมนท์ ทั้ง 2 แห่ง บริษัทไหนได้รับงานมากกว่ากัน?
นายศักดิ์สิทธิ์ อธิบายว่า สาเหตุที่จัดตั้งบริษัท เซ็ทอัพ กรุ๊ป ขึ้นมา เนื่องจากเดิมที หจก.เซ็ทอัพ แมนเนจเมนท์ เป็นบริษัทที่ตนจัดตั้งขึ้นเพื่อรับงานประเภทนี้อยู่ก่อนแล้ว โดยต่อมามีปัญหาทางด้านการเงิน จึงเริ่มมองหาแหล่งเงินทุน ต่อมาได้รู้จักกับนางสาวจิราภรณ์ ซึ่งเป็นคนชอบเล่นกีฬาเหมือนกัน จึงชักชวนกันมาร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท เซ็ทอัพ กรุ๊ป จำกัดขึ้นมา โดยมีพันธะสัญญาซึ่งกันและกัน
“รู้จักกับคุณจิราภรณ์ได้ประมาณ 2-3 ปี จึงชวนมาร่วมลงทุนด้วย เขาเองเป็นคนชอบตีแบดฯ แล้วงานประเภทนี้ต้องสำรองเงินทุนออกไปก่อน หลังจากเสร็จงานแล้ว ต้องรอเงินอีก 30-60 วัน มันเป็นระบบการทำงานของราชการ ทำให้ไม่มีเงินสำรองมารับงานต่อ โดยเมื่อจัดตั้งเซ็ทอัพ กรุ๊ปขึ้นมาแล้ว จึงทำพันธะสัญญาว่า เซ็ทอัพ กรุ๊ป มีหน้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานต่างๆ แต่เมื่อได้งานแล้ว ทุกสัญญาต้องจ่ายงานมาให้เซ็ทอัพ แมนเนจเมนท์ รับมาทำต่อทุกงาน” นายศักดิ์สิทธิ์ ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สิทธ์เรียกนางสาวจิราภรณ์ว่า “จูน” รวมถึงนายศักดิ์สิทธิ์ ได้ยืนยันอีกว่า ที่ตั้งบริษัทย่านลาดปลาเค้า ที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปมาก่อนหน้านี้ เป็นบ้านแม่ของนางสาวจิราภรณ์ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งบริษัทจริง ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ตั้งเดียวกับ หจก.เซ็ทอัพ แมนเนจเมนท์ เนื่องจากต้องการใช้พื้นที่เก็บของจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าสังเกตดีๆ ไม่ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัยมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง บริษัทฯยังได้งานอยู่ตลอด เพราะไม่ได้ผูกกับการเมืองเลย ไม่รู้จัก ไม่เคยไปยุ่งกับนักการเมืองเลยด้วยซ้ำ รู้แต่ว่างานออร์แกไนซ์เป็นงานที่ท้าทาย เป็นงานที่ตรงกับวิชาชีพ หลังจากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวเดินเก็บภาพภายในบริษัทฯ
อ่านประกอบ:เปิด‘หุ้นใหญ่’ บ.เซ็ทอัพฯ ผู้คว้างบแปรญัตติจัดอีเวนท์ กรมพลฯ 87 ล้าน