เเจ๋วร้อง สปส.ขอเข้าประกันสังคมมาตรา 33
เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านฯ ร้อง สปส.ขอเข้าประกันสังคมมาตรา 33 หลังมีกระเเสข่าวกีดกัน ยันมีนายจ้างชัดเจน ช่วยสร้างหลักประกันในชีวิตกรณีคลอดบุตร-ตกงาน
เร็ว ๆ นี้ เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาชีวิต เเรงงาน เเละอาชีพ เข้ายื่นหนังสือถึงนางปราณิน มุตตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงเเรงงาน เพื่อให้ลูกจ้างทำงานบ้านเข้าสู่ระบบประกันสังคม มาตรา 33 โดยมีนายรักษ์ศักดิ์ โชติชัยสถิตย์ รองเลขาธิการ สปส. รับหนังสือเเทน
นางสมร พาสมบูรณ์ ประธานเครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย กล่าวถึงพระราชบัญญัติประกันสังคม ปี 2558 ว่า ขณะนี้กำลังรอประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้กำหนดนิยามคำว่า “ลูกจ้าง” หมายความว่า ผู้ซึ่งทำงานให้นายจ้างโดยได้รับค่าจ้าง ซึ่งครอบคลุมไปถึงกลุ่มคนทำงานบ้านที่เป็นแรงงานทำงานโดยได้รับค่าจ้างและมีนายจ้างชัดเจน
แต่ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า คณะอนุกรรมการจัดทำร่างกฎหมายลูกของพ.ร.บ.ประกันสังคมจะไม่ให้ลูกจ้างทำงานบ้านเข้าสู่ประกันสังคมมาตรา 33 แต่จะให้เข้ามาตรา40 แทน ซึ่งลูกจ้างทำงานบ้านไม่ต้องการ
ประธานเครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านฯ กล่าวถึงสาเหตุที่ลูกจ้างทำงานบ้านต้องการเข้าประกันสังคมมาตรา 33 ว่า เรามีนายจ้างชัดเจนและลูกจ้างส่วนมากเป็นผู้หญิงเวลาตั้งครรภ์ไปหาหมอ บางคนถูกนายจ้างหักเงินเดือนหรือถึงขั้นไล่ออก และไม่สะดวกในการใช้สิทธิบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพราะส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดต้องไปตรวจขั้นต้นที่ภูมิลำเนา
"หากได้เข้ามาตรา 33 ใช้สิทธิรักษาพยาบาลสะดวกกว่าและได้รับสิทธิคลอดบุตรได้ หากตั้งครรภ์ถูกนายจ้างไล่ออกก็ยังมีเงินพอประทังชีพก่อนได้งานใหม่" นางสมร กล่าว เเละว่าถ้าเข้ามาตรา 40 ไปหาหมอนอนพักรักษาตัวได้เงินชดเชยขาดรายได้เพียง 600 บาท ซึ่งมีหลักประกันในชีวิตต่างกันมาก
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีลูกจ้างทำงานบ้านทั่วประเทศทั้งคนไทยและคนต่างชาติรวมประมาณ 2 ล้านคน เคยไปสำรวจหมู่บ้านจัดสรรบางแห่งมีลูกจ้างทำงานบ้าน 300-400 คน แต่ขณะนี้เข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายฯ 500 คน และจากการหารือกับสมาชิกต่างแจ้งว่า นายจ้างพร้อมจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม .
ภาพประกอบ:PPK'S Blog