หนึ่งเดือนหลังแผ่นดินไหวในเนปาล: ยูนิเซฟชี้เด็กเสี่ยงขาดสารอาหารเพิ่มขึ้น
หนึ่งเดือนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเนปาล องค์การยูนิเซฟออกมาระบุวันนี้ว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวน 70,000 คน ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านโภชนาการอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร
ขณะนี้ มีเด็กประมาณ 15,000 คนใน 14 เขตที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด กำลังต้องการอาหารเพื่อการบำบัด อาทิ ถั่วลิสงบดพร้อมใช้ที่อุดมด้วยสารอาหาร เพื่อรักษาภาวะขาดสารอาหารรุนแรงเฉียบพลัน นอกจากนี้เด็กอีก 55,000 คนที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหารระดับปานกลางยังต้องการอาหารเสริมและการดูแลเพื่อให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง
“ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว เด็กกว่าหนึ่งในสิบคนทั่วประเทศเนปาลอยู่ในภาวะขาดสารอาหารเฉียบพลัน ขณะเดียวกันเด็กเกือบสี่ในสิบคนมีภาวะเตี้ยแคระแกร็นเนื่องจากขาดสารอาหารอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน” นายโทโมโอะ โฮซูมิ ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำประเทศเนปาลกล่าว
“ตอนนี้เรากังวลอย่างยิ่งว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง ซึ่งจะทำให้ความก้าวหน้าด้านโภชนาการที่ประเทศเนปาลได้บรรลุไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลับถดถอยลงไป”
“ขณะนี้ยูนิเซฟกับภาคีพันธมิตรกำลังเร่งส่งหาอาหารและจัดการดูแลอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องชีวิตของเด็กๆ ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยไข้เจ็บให้แก่พวกเขา โดยเฉพาะโรคติดต่อจากน้ำในช่วงฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึง” นายโฮซูมิกล่าว
องค์การยูนิเซฟทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับชาติและระหว่างประเทศ และรัฐบาลเนปาล เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านโภชนาการอย่างครอบคลุม ซึ่งได้แก่ 1.ปกป้องและส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นการช่วยชีวิตเด็กและลดการใช้ขวดนม 2.จัดหาอาหารเสริมที่จำเป็นแก่เด็กกว่า 120,000 คน และให้คำปรึกษาแก่มารดาและครอบครัวเกี่ยวกับวิธีการให้อาหารเด็กเล็กด้วยอาหารที่มีในครัวเรือน
3.สนับสนุนการคัดกรองเด็กในชุมชนที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรงในเขตที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 4.จัดหาอาหารบำบัดพิเศษแบบพร้อมใช้ เพื่อรักษาเด็กที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหารรุนแรงกว่า 3,000 คนในชุมชน 5.ทำงานร่วมกับสถานีวิทยุเนปาล และสถานีวิทยุเอกชนและท้องถิ่นอีก 111 แห่งเพื่อเผยแพร่ข้อมูลสำคัญด้านโภชนาการของแม่และเด็กให้แก่ประชาชน 380,000 ครอบครัว และ6.ทำแคมเปญรณรงค์ตลอดหนึ่งสัปดาห์ภายในช่วงกลางเดือนมิถุนายนก่อนเข้าฤดูมรสุม เพื่อให้เด็กกว่า 350,000 คน ได้รับการช่วยเหลือด้านโภชนาการที่สำคัญ 6 อย่าง รวมทั้งการเสริมวิตามินเอและยาถ่ายพยาธิ
นอกจากปัญหาด้านโภชนาการแล้ว ยูนิเซฟยังชี้ว่าเด็กจำนวน 1.7 ล้านคนในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเกือบ 24 เขตยังคงต้องการความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน โดยเด็กๆ มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อปัญหาทางสุขภาพและทางจิตใจในระยะยาว
“เราได้เห็นถึงภาวะสุขภาพเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น เช่น เด็กติดเชื้อทางเดินหายใจอย่างรุนแรง เพราะถูกกระตุ้นจากฝุ่นละอองของซากปรักหักพังในเมืองและหมู่บ้าน” นายโฮซูมิกล่าว “เด็กยังต้องมีชีวิตอยู่กับความพิการเพราะได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว และยังมีปัญหาทางจิตใจจากความวิตกกังวล”
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา องค์การยูนิเซฟได้ระดมความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อช่วยเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ เช่น จัดหาน้ำสะอาดให้กับประชาชนกว่า 305,109 คน และจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยแก่ประชาชนกว่า 45,201 คน, จัด “พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก” ให้แก่เด็ก 10,000 คน, ให้การดูแลด้านจิตใจเบื้องต้นแก่เด็กเกือบ 9,000 คน และผู้ปกครองกว่า 2,000 คน และจัดการฉีดวัคซีนโรคหัดและโรคหัดเยอรมันให้แก่เด็กอายุระหว่าง 6-59 เดือน กว่า 3,000 คน
“เราได้ทำสิ่งต่างๆ ไปเยอะมาก แต่ยังมีอีกสิ่งที่จำเป็นอีกหลายอย่างที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน” นายโฮซูมิกล่าว “หนทางการฟื้นฟูประเทศเนปาลยังอยู่อีกไกลและเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ยูนิเซฟก็พร้อมทำงานต่อไปไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน เพื่อช่วยให้เด็กๆ ชาวเนปาลได้มีอนาคตที่ดีและสดใสกว่าเดิม และเราต้องการการสนับสนุนในทุกๆ ด้าน เพราะความช่วยเหลือที่เราได้มอบให้ในตอนนี้จะส่งผลระยะยาวแก่คนรุ่นต่อๆ ไป”