นายกฯฟุ้งสมาชิกสวัสดิการชุมชนเหยียบล้าน
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบงบประมาณสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนครั้งที่สองจำนวน 820 กองทุนจาก 75 จังหวัด และมอบนโยบายการปฏิรูประบบสวัสดิการสังคมเพื่อชุมชนเข้มแข็ง และปิดการประชุมสมัชชาสวัสดิการชุมชน
ในงาน "สมัชชาสวัสดิการชุมชน ปฏิรูปสังคมจากฐานราก" จัดโดยคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ ซึ่งมีคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ เป็นประธานคณะกรรมการ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และกระทรวงมหาดไทย ที่ห้องประชุมพระปกเกล้า อาคารอเนกนิทัศน์ มหาวิทยา ลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยมีผู้แทนองค์กรสวัสดิการชุมชน และสมาชิกเครือข่ายสวัสดิการชุมชนทั่วประเทศร่วมงานกว่า 1,500 คน
นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมอบงบประมาณว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับทราบถึงความก้าวหน้าของการดำเนินงานด้านสวัสดิการชุมชน ทั้งที่เป็นส่วนขยายจำนวนกองทุนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งขณะนี้สามารถครอบคลุมไปได้กว่า 1,000 องค์กร และจำนวนประชาชนเป็นสมาชิกหรือได้ประโยชน์จากระบบสวัสดิการชุมชนก็ขยับเข้า ใกล้ตัวเลข 1 ล้านคน จากเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ และในบางจังหวัดสามารถดำเนินการเรียกได้ว่าจะแทบครอบคลุมทั้งพื้นที่ด้วย
"เราเดินทางมาไกลพอสมควร ตัวเลขที่เป็นความสำเร็จในแง่ของความเติบโตขององค์กรสวัสดิการชุมชนเป็นเครื่องยืนยันได้ แต่คุณค่าของประโยชน์ของโครงการนี้ไม่ได้อยู่ที่เพียงจำนวน แต่อยู่ที่การนำเอาพลังของชุมชนทุนของสังคมมาใช้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่ทำเพียงในเรื่องของหลักประกันที่มั่นคงแล้ว แต่จะถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญของการสร้างสังคมที่ดี ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของการปฏิรูปประเทศไทย" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า 1 ปีข้างหน้าสิ่งที่จะขยายตัวในนโยบายเรื่องนี้คือรัฐบาลกำลังจะเสนอกองทุนเงินออมแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ยืนยันว่าการผลักดันกฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถออมเงิน และได้รับการสมทบเงินจากรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างระบบประกันความมั่นคงให้ประชาชน .