เภสัชจับมือแรงงานช่วยน้ำท่วมหนัก“สมอคอน”ชบ.อัดรัฐไร้เงา!!
ชาวบ้านเขาสมอคอน ลพบุรี โอดน้ำท่วมตัดขาดโลกภายนอก-เซ่นแล้ว1ศพ ไร้รัฐเหลียวแล หวั่นจมบาดาลอีกกว่า 60 วัน หมอยา-แรงงาน-นักสิทธิ์ ลงพื้นที่ช่วยเยียวยา
จากสภาพปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่รับผลกระทบอย่างหนักชาวบ้านกว่า 2,000 รายใน 400 กว่าครัวเรือนจาก 2 หมู่บ้านต้องอาศัยพื้นที่วัดเขาสมอคอนที่ตั้งอยู่บนภูเขาเป็นที่พักอาศัย ขณะที่พื้นที่การเกษตรกว่า 7,000 ไร่ถูกน้ำท่วมเสียหายกลายเป็นทะเลสาบ หมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ขณะที่การขาดแคลนเรือที่ใช้ติดต่อกับโลกภายนอกทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเจ็บป่วยไม่สามารถออกมารักษาได้ทันท่วงทีทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
ทั้งนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้น มีหน่วยงานเอกชนหลายแห่ง รวมทั้งองค์ท้องถิ่นยื่นมือให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งองค์การเภสัชกรรมนำโดย นางอารายา แก้วประดับ รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม นางสุนี ไชยรส กรรมการปฏิรูปกฎหมาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่และพนักงาน ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมทั้งยาเวชภัณฑ์และเรือพร้อมเครื่องยนต์มามอบให้เพี่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น
นางอารายา แก้วประดับ รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชซึ่งจะมีการทำงานในส่วนของCSR หรือการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งตรงนี้เราไม่ได้มองว่า เราจะผลิตยาอย่างเดียว การช่วยเหลือสังคมก็เป็นนโยบายอย่างหนึ่งขององค์กร ซึ่งตอนนี้ยิ่งเกิดปัญหาใหญ่กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งสหภาพและองค์การก็จะมีการจัดถุงยังชีพ ยาและเวชภัณฑ์นำไปมอบให้หลายพื้นที่เป็นประจำทุกวัน โดยการแบ่งสายการทำงานออกเป็นหลายทีมรวมทั้งที่เขาสมอคอนด้วย
“วันนี้เรานำยาชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นจำนวน 500 ชุด ข้าวสาร 314 ถุง และเรือพร้อมเครื่องยนต์จำนวน 2 ลำ เนื่องจากเรามามอบถึงยังชีพที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็พบว่าชาวบ้านเดือดร้อนมากเรื่องการสัญจรไปมา โดยเฉพาะเวลามีคนเจ็บป่วยก็เป็นไปด้วยความลำบาก เราทราบมาว่ามีพี่น้องป่วยด้วยโรคความดันเสียชีวิต เนื่องจากว่าไม่มีเรือที่จะนำพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ทางองค์การเภสัชมอบเรือมาให้2ลำโดยส่งผ่านทางสหภาพแรงงานฯนำมามอบให้ คิดว่าคงช่วยแบ่งเบาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง” รองประธานสหภาพองค์การเภสัช กล่าว
ด้านนายโสภณ สุขสะอาด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี กล่าวว่า กระแสน้ำเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านและไร่นาตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา หมู่บ้านนี้ตั้งมากว่า 100 ปีไม่เคยมีปรากฏการณ์อย่างนี้ เมื่อปี2538 น้ำก็ท่วมแต่ไม่มาก วันนี้ความเดือดร้อนของชาวบ้านคือขาดแคลนเรื่องอาหารการกินขาดแคลนน้ำดื่ม ยารักษาโรค เพราะตอนนี้น้ำในบ้านใช้ไม่ได้แล้ว มันสกปรกและดำไม่สามารถนำไปอาบได้เพราะเอาไปอาบก็จะเกิดอาการคันและที่สำคัญคือยานพาหนะที่จะพาชาวบ้านออกจากหมู่บ้านออกมาข้างนอกได้เพราะตอนนี้เราถูกตัดขาดหมดมีทางสัญจรได้ทางเดียวคือทางเรือ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่ในเขาสมอคอนยังไม่มีหน่วยงานของรัฐบาลโดยตรงเข้ามาเหลียวแล จะมีก็แต่องค์กรท้องถิ่นและภาคเอกชนเท่านั้นที่ดูแลกันตามมีตามเกิด
“เรื่องเรือเป็นเรื่องจำเป็นมาก เมื่อก่อนนี้มีคนป่วยและชาวบ้านจะช่วยกันเพื่อนำไปหาหมอ แต่การเดินทางเป็นไปด้วยความลำบากกว่าจะประสานเรือได้ต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 7 ชาวโมงทำให้คนป่วยต้องตายลง เพราะว่าเราไม่มีเรือไม่มียานพาหนะมาประจำที่หมู่บ้าน แต่วันนี้หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก ถ้าจะให้ดีอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูด้วยตัวเองจะเห็นความเดือดร้อนของเราชาวบ้านว่าเป็นยังไง” นายโสภณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายโสภณ กล่าวอีกว่า การที่องค์การเภสัชนำเรือมามอบให้เป็นสิ่งที่ชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดมีความดีใจมากเพราะต่อไปการเดินทางจะได้สะดวกขึ้น ซึ่งเราจะนำเรือ 2 ลำนี้แสตนบายด์ไว้เวลามีคนไข้คนป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาลก็จะใช้เรือ2ลำนี้เป็นพาหนะลำเลียงคนป่วยออกมาจากหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวบ้านอุ่นใจขึ้นว่าการเดินทางจะมีความรวดเร็ว เพราะอย่างน้อยคาดว่าคงไม่น้อยกว่า 2 เดือนน้ำที่นี่จึงจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ
นางอารมณ์ รวบรวม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี กล่าวว่า เรื่องความเดือดร้อนเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสมากตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเห็นน้ำท่วมหนักขนาดนี้ เป็นห่วงแต่ก็คนเฒ่าคนแก่ ไปมาลำบาก เรื่องอาหารข้าวสารอาหารแห้งก็คงพอประทังไปได้แต่เรื่องเรือใช้เดินทางเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ต้องขอบคุณหน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ป้าสุดาพร ทองธุลี ชาวบ้านต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี กล่าวว่า ตนสูญเสียข้าวในนาไปประมาณ 28 ไร่ ซึ่งเป็นความสูญเสียที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นรุนแรงขนาดนี้ ตนอยากให้รัฐบาลเร่งเข้ามาเยียวยาแก้ไขโดยเร็วเพราะเท่าที่ดูนอกจากเอกชนและองค์กรท้องถิ่นตนยังไม่เคยเห็นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้ามาดูแลที่นี่เลย.