ภาคประชาสังคม ในคสป.เสนอโรดแมป 3 ปี สันติภาพชายแดนใต้
กก.สมัชชาปฏิรูป ประชุมนัดที่ 4 เตรียมตั้งคณะศึกษายก “ร่างพ.ร.บ.ปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสร้างสวัสดิการสังคม” เครือข่ายประชาสังคมเสนอรบ.ทดลองหยุดใช้กม.มั่นคงใน 3 จว.ใต้ 3 เดือน ขณะที่เครือข่ายจังหวัด เข็น “ขอนแก่นโมเดล” ปั้น “จังหวัดนำร่องการปฏิรูป”
วันนี้ (25 ส.ค.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายวิชาการปฏิรูป แถลงถึงผลการประชุม คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป(คสป.) ครั้งที่ 4/2553 ซึ่งมีศ.นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน ที่บ้านพิษณุโลก ว่า การประชุมครั้งนี้มีการพูดกันใน 5 ประเด็น ดังนี้ 1.สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีให้สอดคล้องกับการจัดระบบสวัสดิการสังคม ซึ่ง คสป.มีแผนจะตั้งคณะทำงานเพื่อยกร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับโครงสร้างภาษีของ ประเทศเพื่อนำไปสร้างสวัสดิการสังคม คาดว่า ภายใน 6 เดือนจะไปศึกษาว่าจะต้องปรับโครงสร้าง ฐานภาษี อัตราภาษี และประเภทภาษีด้านใดบ้างเพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการจัดระบบสวัสดิการ เช่น ประเด็นการยกเว้น การส่งเสริมการลงทุน หรือให้ BOI , ภาษีรายได้นิติบุคคล ฯลฯ
ประธานคณะทำงานเครือข่ายวิชาการปฏิรูป กล่าวว่า เรื่องที่ 2.ความก้าวหน้าการทำงานของคสป. หลังจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการย่อย 14 ชุดไปแล้ว การประชุมครั้งนี้คณะทำงานเชิงพื้นที่ได้นำเสนอโรดแมปการพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำหนดภายใน 3 ปีจะลดปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ลง และจะดำเนินการสรุปข้อเสนอในการพัฒนาการแก้ปัญหาในพื้นที่ให้สำเร็จ โดยจะร่วมกับประชาคมในพื้นที่ทำงานแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น กลางและระยะยาว ซึ่งถือเป็นโอกาสร่วมในการปฏิรูปประเทศ ทั้งนี้ทางเครือข่ายพื้นที่มีข้อเสนอให้รัฐบาลลองหยุดการใช้เรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประมาณ 3 เดือน เพื่อให้ประชาชนได้มาร่วมกันปฏิรูป ซึ่งส่วนนี้มีผศ.ชิดชนก ราฮิมมูลา รับผิดชอบ
“เรื่องที่ 3 การทดลองทำจังหวัดนำร่องเพื่อการปฏิรูป โดยต้องการให้เครือข่ายประชาคมจังหวัดต่างๆ มาร่วมกันสร้างกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชน ภาคธุรกิจ ภาคราชการ ร่วมสร้างกำหนดวิสัยทัศน์จังหวัด และทำให้การทำงานของอปท. ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถปฏิรูปสนองตอบความต้องการของคนในพื้นที่ได้ ซึ่งขณะนี้จ.ขอนแก่นจะเป็นจังหวัดนำร่อง โดยสภาหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว โดยพยายามจะเข้าไปช่วยเกษตรกรสร้างมูลค่าผลผลิต 1 ไร่ ทำรายได้ 1 แสนบาท และคณะทำงานด้านประชาคมจังหวัดจะลงไปร่วมประสานงานด้วย มีนพ.พลเดช ปิ่นประทีป เป็นประธานคณะกรรมการประชาคมเพื่อการปฏิรูป และอนาคตจะทำให้เกิดจังหวัดนำร่องการปฏิรูปภาคละอย่างน้อย 1 จังหวัด”
นพ.สม ศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ 4 เครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป กำลังจะทำแผนพัฒนาศิลปะและพัฒนาเครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูปจิตสำนึกคนใน สังคม เพื่อให้สังคมมีแรงบันดาลใจในการปฏิรูปและทำให้คนรู้สึกว่าสังคมน่าอยู่ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของประเทศร่วมกันในการปฏิรูป รวมถึงพัฒนาศิลปะท้องถิ่น ศิลปะพื้นบ้านที่ถูกละเลยไป โดยมีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานเครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป และนพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธานฯ จะรับไปดำเนินการ
“สำหรับเรื่องสุดท้าย เรื่องที่ 5 เครือข่ายมหาวิทยาลัยจะสนับสนุน สร้างการทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่น จะมีการปรับหลักสูตรเพื่อส่งเสริมด้านนี้ให้มากขึ้น โดยเครือข่ายอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ตกลงว่าจะกลับไปร่วมวางแผนและวางงบประมาณด้านนี้ ซึ่งเรื่องนี้มีศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบ”
ที่มา http://www.thaireform.in.th/news-national-strategy/1811--3-.html