รวบแล้ว4ผู้ต้องหาเอี่ยวค้ามนุษย์โรฮิงญา เด้งผู้การสตูล – 5 เสือปาดังฯ
ศาลอนุมัติหมายจับ 8 ผู้ต้องหาเอี่ยวค้ามนุษย์โรฮิงญา ตำรวจตามรวบได้ทันควัน 3 คน อยู่ในเรือนจำแล้ว 1 คน ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และผู้มีอิทธิพลในปาดังเบซาร์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งย้ายผู้การสตูล – 5 เสือโรงพักปาดังฯ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันจันทร์ที่ 4 พ.ค.2558 เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพบแคมป์และสุสานฝังศพชาวโรฮิงญาบนเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งพบศพที่คาดว่าเป็นชาวโรฮิงญาทั้งหมดจำนวน 26 ศพ จากการขุดหลุมศพ 32 หลุมเมื่อวันที่ 1 และ 2 พ.ค.
วันเดียวกันได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 8 คน ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันเรียกค่าไถ่ และต่อมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน โดยมี 1 คนถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
ผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวแล้ว 4 คน คือ นายอ่าสัน หรือบังสัน อินทธนู อายุ 42 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์, นายร่อเอน สนยาแหละ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ทั้งสองคนทำหน้าที่จัดหาเสบียง, นายอาหลี ล่าเม๊าะ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ทำหน้าที่ควบคุมแคมป์ และ นายซอ เนียง อานู หรืออันวา อายุ 40 ปี ชาวพม่า ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ยังยึดอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตรได้อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุน 8 นัดและซองปืน 1 ซอง จึงแจ้งข้อหาในอ่าสัน ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1 ข้อหา พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนมาแถลงต่อสื่อมวลชน แต่ทั้งสามคนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับผู้ต้องหาอีก 4 รายที่ศาลจังหวัดนาทวี จ.สงขลา ออกหมายจับในคราวเดียวกัน คือ นายประสิทธิ์ เหล็มแหล๊ะ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ นายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ นายพรรคพล เบ็ญล่าเต๊ะ อายุ 47 ปี และ นายเจริญ ทองแดง อายุ 45 ปี
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จะมีการออกหมายจับเพิ่มอีกหลายคน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองท้องถิ่น หากพบว่าเกี่ยวข้องก็จะจับกุมทั้งหมด
ส่วนผลการตรวจพิสูจน์และเก็บหลักฐานภายในแคมป์พักชาวโรฮิงญา เจ้าหน้าที่พบศพทั้งหมด 26 ศพ เป็นชาย 25 ศพ และหญิง 1 ศพ มีทั้งที่เสียชีวิตมาแล้วเป็นปีและเพิ่งเสียชีวิต เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าแคมป์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมานาน สำหรับสาเหตุการตายนั้น ต้องรอผลการชันสูตรจากเจ้าหน้าที่ แต่เบื้องต้นคาดว่าตายเพราะป่วยและขาดอาหาร
ขบวนการค้ามนุษย์ที่ดำเนินการเรื่องนี้ เป็นอาชญากรข้ามชาติ มีทั้งคนไทย พม่า และมาเลเซีย ทำมาแล้วอย่างน้อย 3-4 ปี มีรายงานจากชุดสืบสวนว่านอกเหนือจากผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 8 คนแล้ว เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 คน ในจำนวนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองซึ่งเป็นเจ้าของแคมป์ใหญ่บนเทือกเขาแก้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ปาดังเบซาร์ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำท้องถิ่น ทั้งยังมีชาวโรฮิงญาด้วยกันเองรวมอยู่ด้วย จากการสืบสวนพบว่าทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
เด้งตำรวจกราวรูด – ผู้การสตูลโดนด้วย
หลังเกิดคดีพบแคมป์และหลุมฝังศพในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ปาดังเบซาร์ ล่าสุดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้มีคำสั่งด่วนให้ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ 2 นาย คือ ร.ต.ต.อารีย์ หมัดสมัคร รองสารวัตรป้องกันปราบปราม (รองสวป.) และ ด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาโดยไม่มีกำหนด เพราะสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดีนี้
ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ ได้มีคำสั่ง ตร.259/2558 ลงวันที่ 4 พ.ค.2558 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทนอีก 3 นาย คือ
1.พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล (ผบก.ภ.จว.สตูล) ไปปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) และให้ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไปรักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.สตูล
2.พ.ต.อ.ภาสกร ภักดีวานิช ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ควนโดน จ.สตูล ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. และ พ.ต.อ.อาซาน จันทร์ศิริ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล ไปรักษาราชการแทน
3.พ.ต.อ.วีระสัณห์ ธารเปี่ยม ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. และให้ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ไปรักษาราชการแทน
นอกจากนั้นยังมีข่าวย้าย 5 เสือโรงพักปาดังเบซาร์ด้วย นอกเหนือจาก พ.ต.อ.วีระสัณห์แล้ว ยังมี พ.ต.ท.กติกา จิตบรรจง รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน พ.ต.ท.ภูวรา แก้วพารัตน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ซาการียา มรรคาเขต สารวัตรปราบปราม (สวป.) ร.ต.อ.เกริกชัย ฉันทจิต สารวัตรสืบสวนสอบสวน (สว.สส) รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) อีก 1 นายคือ ร.ต.ท.มงคล สุโร ผู้บังคับหมวด ตชด.437 เนื่องจากบกพร่องต่อหน้าที่จากกรณีปล่อยปละละเลยให้มีการค้ามนุษย์ในพื้นที่
คาดโทษกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านละเลย
ขณะเดียวกัน นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกท้องที่ว่า หากมีการตั้งแหล่งคุมขังกักกันหรือที่พักเหยื่อค้ามนุษย์ในพื้นที่ปกครองของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบตำบลนั้น แล้วผู้รับผิดชอบประจำตำบล หมู่บ้านไม่ทราบ หรือไม่รายงานนายอำเภอ จนกระทั่งมีหน่วยงานอื่นเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือหรือจับกุม ให้นายอำเภอพิจารณาถึงประสิทธิภาพความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่และพนักงานฝ่ายปกครองท้องที่ของตำบลและหมู่บ้านนั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้ขอให้ปลัดจังหวัดทุกจังหวัดไปกำกับอำนวยการติดตามข้อสั่งการของกรมการปกครองในเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์โดยใกล้ชิดด้วย และหากพบว่าปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่เกิดขึ้นจากการปล่อยปละละเลยของฝ่ายปกครองแล้ว กรมการปกครองจะพิจารณาดำเนินการตามมาตรการทางปกครองหรือระเบียบวินัยด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชุดแรก 3 คนในคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา หลังพบศพ 26 ศพฝังอยู่บนภูเขาในพื้นที่ปาดังเบซาร์