โชว์หนังสือป.ป.ช.! ปูด"นักการเมือง"ตั้งบ.ผูกขาดธุรกิจจัดหางาน "รับสินบน"
"..มีนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัทจัดหางาน หรือมีตัวแทนเชิดเป็นเจ้าของแทน โดยใช้อิทธิพล อำนาจหน้าที่ ผูกขาดธุรกิจจัดหาแรงงาน นอกจากนี้ นักการเมืองและข้าราชการระดับสูง มีการรับเงินจากบริษัทจัดหางาน ตลอดจนข้าราชการระดับปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทจัดหางาน โดยได้รับผลประโยชน์ตอบแทน.."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ อาทิ การเร่งรัดการปฏิบัติงานของคณะกรรมการพัฒนาการจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน จัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับการไปทำงานต่างประเทศของแรงงานไทยให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันการห้ามมิให้ข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำของกระทรวงแรงงานที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจจัดหางาน เข้ามาดำเนินงานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดหางานทั้งทางตรงและทางอ้อม
พร้อมระบุว่า ป.ป.ช.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ โดยกล่าวหาเจ้าหน้าของรัฐมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต รู้เห็นเป็นใจ และเปิดช่องให้บริษัทจัดหางานหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ ปล่อยให้มีการทุจริตเรียกเก็บค่าบริหารและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศเกินความความจริง
มีนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัทจัดหางาน หรือมีตัวแทนเชิดเป็นเจ้าของแทน โดยใช้อิทธิพล อำนาจหน้าที่ ผูกขาดธุรกิจจัดหาแรงงาน
---------
ขณะที่กระทรวงแรงงาน ได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาเรื่องนี้ ของที่ประชุม ครม. ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมาเช่นกัน
โดยระบุว่าได้กำหนดมาตรการป้องกันปัญหาตามที่ ป.ป.ช.เสนอมาแล้ว โดยการดำเนินการและลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในกระบวนการจัดหางานโดยเคร่งครัด ตามที่ ป.ป.ช.เสนอมานั้น กระทรวงแรงงาน ระบุว่า ได้กำหนดมาตรฐานการดำเนินการกรณีเกิดการร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ทุจริต เช่น ย้ายจากตำแหน่งที่ปฏิบัติอยู่ทันที นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มช่องทางการร้องเรียนข้าราชการ อาทิ กล่องรับความเห็น เว็บไซต์ ดำเนินการกับผู้ทุจริตตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
ส่วนข้อเสนอป.ป.ช. ที่ให้คณะกรรมการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีหลอกลวงแรงงานไทยและการค้ามนุษย์ เนื่องจากผู้กระทำผิดมีอิทธิพลโยงใยเป็นเครือข่ายซับซ้อนเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่จะดำเนินการได้ นั้น กระทรวงแรงงาน ระบุว่า ได้ร่วมกับดีเอสไอในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ และสอบสวนเจ้าหน้าทีที่ถูกร้องเรียนว่าทุจริต
แต่กระทรวงแรงงานมิได้มีการระบุถึงการแก้ไขปัญหาบริษัทจัดหางานที่ถูกป.ป.ช. ระบุว่า มีนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัทจัดหางาน หรือมีตัวแทนเชิดเป็นเจ้าของแทน โดยใช้อิทธิพล อำนาจหน้าที่ ผูกขาดธุรกิจจัดหาแรงงาน ให้ที่ประชุมครม.รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด
(ดูมาตรการของกระทรวงแรงงาน เปรียบเทียบกับข้อเสนอ ป.ป.ช. ฉบับเต็มได้ที่นี่ http://www.cabinet.soc.go.th/doc_image/2558/993129616.pdf)