พบ 33 ศพโรฮิงญากลางป่าปาดังฯ
เกิดเหตุสลดในวันแรงงานแห่งชาติ เมื่อพบศพและหลุมฝังศพชาวโรฮิงญาจำนวนมากกลางป่าในพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ใกล้กับพรมแดนไทย-มาเลเซีย คาดว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์และแรงงานเถื่อน
มุสลิมโรฮิงญาจากรัฐอาระกัน หรือยะไข่ ของเมียนมาร์ ทะลักเข้าไทยล็อตใหญ่กว่า 1,000 คนเมื่อต้นปี 2556 จากนั้นก็มีการพบและจับกุมได้อย่างต่อเนื่องฐานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่มีขบวนการค้ามนุษย์และแรงงานข้ามชาติอยู่เบื้องหลัง โดยพื้นที่ป่าเขาตามตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นแหล่งพักใหญ่ก่อนส่งชาวโรฮิงญาข้ามไปขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับการพบศพและหลุมฝังศพชาวโรฮิงญาครั้งนี้ พันตำรวจเอกวีรสันต์ ธารเปี่ยม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ รับแจ้งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยมีศพชาวโรฮิงญาถูกฝังอยู่ในแคมป์คนงานกลางป่าบนภูเขาใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ พร้อมตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และชุดกู้ชีพกู้ภัยไม้ขม อำเภอสะเดา ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ ซึ่งต้องเดินเท้าจากถนนใหญ่เข้าไปบนภูเขาระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
บริเวณที่พบศพเป็นแคมป์คนงานชั่วคราวที่มีการลักลอบนำชาวโรฮิงญามาหลบซ่อนไว้ สภาพเป็นเพิงพักก่อสร้างจากเศษไม้และเศษพลาสติกรวม 39 หลัง แยกเป็นเรือนนอน 26 หลัง ที่เหลือเป็นห้องน้ำ พบเสื้อผ้าของชาวโรฮิงญาอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าถูกเคลื่อนย้ายก่อนเจ้าหน้าที่เข้าไปถึง โดยตลอดเส้นทางมีบ้านที่ปลูกคล้ายๆ เพิงพักอีกหลายหลัง ร่องรอยมีคนเฝ้าอยู่ คาดว่าเป็นจุดที่ใช้กักขังชาวโรฮิงญา
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากศูนย์กู้ชีพกู้ภัยไม้ขมว่า ในแคมป์คนงานดังกล่าว พบผู้รอดชีวิต 1 ราย เป็นชาวโรฮิงญา อยู่ในสภาพอิดโรยและมีอาการป่วย เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาล ส่วนบริเวณโดยรอบพบศพซึ่งคาดว่าเป็นชาวโรฮิงญาทั้งหมด อยู่บนพื้น 1 ศพ ที่เหลือถูกฝั่งเอาไว้ในหลุมรวม 32 ศพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบแคมป์คนงานว่ายังมีศพถูกฝังไว้อีกหรือไม่
หลังจบภารกิจวันแรก เจ้าหน้าที่สามารถขุดศพขึ้นมาจากหลุมได้ 5 ศพ รวมกับศพที่พบยังไม่ฟังอีก 1 ศพเป็น 6 ศพ นำส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนอีก 27 หลุมที่เหลือ จะขุดต่อในวันพรุ่งนี้ โดยศพในหลุมส่วนใหญ่เป็นโครงกระดูก คาดว่าเสียชีวิตมานานแล้ว
การพบศพและแคมป์พักพิงชาวโรฮิงญาครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีชาวโรฮิงญาหนีออกมาจากแคมป์ไปขอความช่วยเหลือที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์เพราะถูกทำร้าย จากนั้นได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่จนนำมาสู่การตรวจค้นดังกล่าว ข้อมูลจากชาวโรฮิงญาที่หนีออกมา บอกว่าหลุมศพบางหลุมมีศพเด็กถูกฝังอยู่ด้วย
พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมลงพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ในวันพรุ่งนี้ ภายหลัง พลเอกประวิตร จันทร์โอชา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สั่งให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพบศพชาวโรฮิงญาเพื่อขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้อง และตรวจสอบพื้นที่อื่นที่คาดว่ายังมีค่ายกักกันชาวโรฮิงญาตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ คาดว่าจุดเกิดเหตุเป็นที่พักชั่วคราวเพื่อรอเคลื่อนย้ายแรงงานไปประเทศปลายทาง โดยเชื่อว่ามีคนไทย คนมาเลเชีย และคนพม่า ร่วมขบวนการ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ชาวโรฮิงญาหนึ่งเดียวที่รอดชีวิตในแคมป์กลางป่าพื้นที่ปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ขอบคุณ : ภาพจากมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี ท่งเซี่ยเซียงตึ่ง และทีมกู้ชีพไม้ขม อำเภอสะเดา