โฆษก กอ.รมน.เปิดห้อง พาทัวร์อาคารรื่นฤดี 41 ล. แจงปมค่าตกแต่งอีกรอบ
พ.อ.บรรพต โฆษก กอ.รมน.แจงหลังอิศราเผยแพร่ภาพใช้กระดาษ นสพ. ปิดกระจกหน้าต่างย้ายเฟอร์นิเจอร์ ยันอีกรอบปมค่าก่อสร้าง-ค่าตกแต่ง ก่อนพาทัวร์ภายในอาคารชั้น 1,2 ย้ำ เพื่อแสดงความโปร่งใส แต่ขอไม่ให้ชมชั้น 3 ที่ตั้งหอประชุม 150 ที่นั่งและห้อง ลธ.รมน.
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2558 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สวนรื่นฤดี พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ติดตาม พาผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเอนกประสงค์หรืออาคาร รื่นฤดี หลังจากที่สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวกรณีการสร้างอาคารเอนกประสงค์ของ กอ.รมน.สวนรื่นฤดี ถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการทำสัญญาว่าจ้างกับเอกชนโดยวิธีพิเศษคือบริษัท ยูซีไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และล่าสุดมีการนำเสนอข่าว ฮือฮากระดาษหนังสือพิมพ์พรึบ!ปิดกระจกตึก กอ.รมน.ขนเฟอร์นิเจอร์คืนผู้รับเหมา
โดยก่อนนำชมอาคาร พ.อ.บรรพตได้ขอชี้แจงในหลายประเด็น ดังนี้
ยัน ข่าวปิดหนังสือพิมพ์-ขนเฟอร์นิเจอร์ ข้อมูลเก่า
พ.อ.บรรพตกล่าวว่ากรณีข่าวระบุการปิดหนังสือพิมพ์นั้น ข้อมูลที่ปรากฏในย่อหน้าแรกยังคงเป็นข้อมูลเก่า อย่างไรก็ตามเพื่อแสดงความโปร่งใส จึงเห็นว่าควรให้สำนักข่าวได้มาชมอาคารดังกล่าวด้วย ส่วนภาพเฟอร์นิเจอร์ที่ปรากฏในข่าวนั้น ก็ทยอยส่งคืนไปหลังจากเสร็จสิ้นพิธีวันสถาปนาเมื่อวันที่ 19 ก.พ.58 แล้ว และเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นในวันสถาปนา ก็โยกย้ายยืมมาจากหน่วยงานภายใน กอ.รมน.เองด้วย
นอกจากนี้ พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ในข้อมูลข่าวชิ้นนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากงบประมาณในการก่อสร้างคือประมาณ 41 ล้านและค่าตกแต่งคือวงเงิน 31 ล้านบาท และกล่าวด้วยว่า สตง.ไม่ได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องค่าตกแต่งและค่าก่อสร้างที่ยังไม่ยุติ แต่ สตง.ตั้งข้อสังเกต เรื่องการแก้ไขสัญญาตามที่ได้เคยชี้แจงสำนักข่าวอิศราไปแล้ว ( อ่านประกอบ : โฆษก กอ.รมน.แจงยิบปมก่อสร้างตึกเอนกประสงค์-อ้างของตกแต่ง"แค่ยืมมา" )
“มีการปรับเพิ่มลดวงเงินเดิม ค่าตกแต่งภายในตอนนี้ก็ได้ราคากลางมาแล้ว ส่วนวงเงินค่าตกแต่ง 31 ล้านบาทก็เป็นแค่วงเงิน และที่เป็นวิธีพิเศษนั้น แม้จะเป็นวิธีพิเศษแต่ก็มีการแข่งขันราคา แต่ไม่ใช่การประกวดราคานะ ซึ่งเราขอยังไม่ให้มีการเปิดเผยว่ามีการกำหนดราคากลางเท่าไหร่ แต่ละอย่างมี ราคาใดบ้าง แต่เราจะเชิญบริษัทเอกชนที่เขาสามารถประกอบการได้ ไว้วางใจได้มาแข่งขัน เชิญบริษัทที่เหมาะสมสัก 2-3 เจ้า มารับทีโออาร์ไป อาจจะบอกวงเงิน แต่ไม่บอกรายการ เมื่อแต่ละบริษัทที่เราเชิญมารับซองทีโออาร์ ในซองจะบอกว่าต้องการคุรุภัณฑ์ใด คุณสมบัติใด แต่ไม่บอกราคา ซึ่งบริษัทที่แข่งขันก็มีหน้าที่ไปทำใบเสนอราคา จากนั้นจะคัดเลือก บริษัทที่เสนอราคาที่เหมาะสม ดังนั้น วงเงินค่าตกแต่งนี้ก็อาจจะลดลงไปได้อีก เพราะแต่ละบริษัท ก็อาจต้องลดราคาเพื่อให้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการแข่งขันราคา แต่ขั้นตอนเหล่านี้ ตอนนี้ยังไปไม่ถึงเลย" พ.อ.บรรพตระบุ
ผู้สื่อข่าวกล่าวว่าการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ของ พ.อ.บรรพต เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวได้เสนอข้อมูลงบประมาณการก่อสร้างและการตกแต่ง ตาม พ.อ.บรรพต ได้ชี้แจงไปแล้ว พ.อ.บรรพตทราบหรือไม่
พ.อ.บรรพต กล่าวว่า เห็นข่าวดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีการมอนิเตอร์ข่าวจากสำนักข่าวอิศราโดยตลอด พ.อ.บรรพตกล่าวด้วยว่า ในกรณีที่ข่าวระบุว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปเอกสารนั้น เนื่องจาก
“เอกสารข้อมูลราคากลางเราก็ยังเปิดเผยไม่ได้ แม้จะเป็นวิธีพิเศษก็ยังให้ดูไม่ได้ เพราะอาจมีส่วนได้เสียสำหรับผู้ที่จะแข่งขันราคา เรื่องที่เราไม่ให้เอกสาร ถ่ายรูปไม่ได้ เพราะว่ามันควรจะปกปิดก่อน เนื่องจากถ้ารู้ราคากลางแต่ละรายการ จะทำให้การแข่งขันราคา ไม่เป็นธรรมกับผู้แข่งขัน”
พ.อ.บรรพตระบุ และกล่าวว่าข่าวล่าสุดเรื่องการปิดหนังสือพิมพ์ ที่สำนักข่าวเผยแพร่ไปนั้นเป็นข้อมูลเก่า
“ข้อมูลย่อหน้าสุดท้าย เรื่องที่ยืมเขามานี่ก็เป็นข้อมูลเก่า คือการปิดกระดาษหนังสือพิมพ์และเฟอร์นิเจอร์นั้น เป็นรูปเก่าตั้งแต่เมื่อวันสถาปนา วันที่ 19 ก.พ. ที่วันนี้ เราเชิญแขกชั้นผู้ใหญ่ เชิญรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการของ กอ.รมน. ที่มี 23 ท่าน มีการเชิญอธิบดีดีเอสไอ มีเชิญ ผบ.เหล่าทัพ เชิญปลัดกระทรวงฯ เชิญผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อัยการสูงสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีไอซีที รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เชิญมาในตอนนั้น เมื่อ 19 ก.พ. ในภาพนั่นเป็นเฟอร์นิเจอร์ในภาพเก่า ส่วนภาพใหม่นี่ยินดีให้มาดู ผู้ใหญ่ที่นี่ ท่านก็ย้ำว่า ถ้าอยากจะมาดู ก็มาบอก เราก็ยินดีอยู่แล้ว” พ.อ.บรรพตระบุ
พาทัวร์อาคาร ก่อนวันบวงสรวงพระนเรศวรฯ 22 เม.ย.
หลังจากชี้แจงในเบื้องต้น จากนั้น พ.อ.บรรพต พาผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราไปชมอาคารรื่นฤดี พร้อมทั้ง ให้ผู้ติดตามในสำนักงาน โฆษก กอ.รมน. ไปช่วยถ่ายรูป แม้ผู้สื่อข่าวจะยืนยันว่ามีกล้องถ่ายรูปมาเองก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปยังอาคารเอนกประสงค์ หรืออาคารรื่นฤดี พบว่ามีการนำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ปิดไว้ก่อนหน้านี้ออกไปแล้ว และทั้งภายในและภายนอกอาคารมีนายทหารรวมถึงเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.จำนวนมากกว่า 20 คน อยู่ระหว่างซักซ้อมการประกอบพิธีบวงสรวงที่จะมึขึ้นในวันที่ 22 เม.ย. นอกจากนี้ มีบุคคลที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบทหาร ร่วมช่วยงานประดับตกแต่งโต๊ะที่จะใช้ในพิธี และเคลื่อนย้ายเก้าอี้ที่ใช้จัดงาน
พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ในวันที่ 22 เม.ย.58 นี้ ที่อาคารเอนกประสงค์ กอ.รมน.จะมีการบวงสรวงพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณชั้น 1 ของอาคารรื่นฤดี ยินดีให้สำนักข่าวอิศราตรวจสอบว่าเฟอร์นิเจอร์ในภาพข่าวที่สำนักข่าวเผยแพร่นั้น ไม่มีอยู่แล้ว ส่วนอุปกรณ์ที่ในวันนี้ ( 21 เม.ย.58 ) มีการจัดเตรียมไว้ ก็เพื่อรองรับงานบวงสรวงในวันที่ 22 เม.ย.58 ซึ่งล้วนเป็นของที่ยืมมาเพื่องานวันบวงสรวงเท่านั้น ไม่ใช่ของตกแต่งที่มีความเกี่ยวข้องกับการตกแต่งภายในอาคารรื่นฤดีแต่อย่างใด
ระหว่างนำผู้สื่อข่าวชมอาคารบริเวณชั้น1 เมื่อถามว่าเก้าอี้ที่ใช้ในการจัดงาน รวมถึงอาสนะ โต๊ะหมู่บูชาเหล่านี้มาจากที่ใด พ.อ.บรรพต สอบถามจากนายทหารในบริเวณดังกล่าว นายทหารกล่าวว่า เก้าอี้มาจากสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนอาสนะสงฆ์ ยืมมาจากกรมสวัสดิการทหารบก
ผู้สื่อข่าวถามว่าโต๊ะที่ใช้ในพิธีเหล่านี้มาจากที่ใด พ.อ.บรรพต สอบถามจากคณะบุคคลที่กำลังจัดโต๊ะอยู่ บุคคลเหล่านั้น กล่าวว่าเป็นผู้ที่มาช่วยจัดงานบวงสรวงครั้งนี้ ชื่อร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์แสงแห่งศรัทธา ตัวแทนร้านแห่งนี้กล่าวว่าผ้า พรม เบาะรองอาสนะ ตาลปัตร การจัดโต๊ะ รวมถึงเครื่องถ้วยจานชามที่จะใช้ต้อนรับในวันพิธี ล้วนเป็นร้านสังฆภัณฑ์แสงแห่งศรัทธาจัดหามาเพื่อประกอบพิธีนี้
ด้าน พ.อ. บรรพต กล่าวว่าไม่ทราบรายละเอียดเรื่องการจ้างร้านดังกล่าวมาช่วยจัดงาน “คงมีวงเงินไว้เฉพาะจ้างบริษัทมาจัดเฉพาะงานบวงสรวงนี้ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับเรื่องการตกแต่ง” ทั้งนี้ พ.อ.บรรพตกล่าว่า การบวงสรวงในวันที่ 22 เม.ย.เป็นเพียงงานภายในเท่านั้น
ตะลุยชมชั้น 2 รื่นฤดี-ชั้น 3 ห้าม!
เมื่อชมบริเวณชั้น 1 แล้ว จากนั้น พ.อ.บรรพต นำผู้สื่อข่าวเยี่ยมชม บริเวณชั้น 2 ของอาคารรื่นฤดี
สภาพภายในอาคารมีลิฟท์ และทางเดินภายในถูกแบ่งเป็น 2 ฟาก ด้านซ้ายมือ เป็นกระจกใส มองเห็นภายในได้ ขณะที่ห้องด้านขวามือ เป็นห้องปิดทึบ ในห้องด้านซ้ายมือที่เป็นกระจกใสมีเครื่องปรับอากาศติดตั้งไว้แล้ว และมีร่องรอยการเดินสายไฟ ไม่พบว่ามีเก้าอี้สำนักงานหรือโต๊ะสำนักงาน แต่มีตู้บิลด์อิน และมีโต๊ะวางของ ขณะที่ห้องหนึ่งมีคณะผู้จัดงานขอใช้พื้นที่เพื่อจัดทำพานบายศรี ในวันบวงสรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้องที่เป็นประตูปิดทึบ มีป้ายหน้าห้องระบุ "ผอ.ศปป.6" และ "สง.ผอ.ศปป.6" ห้องอื่นๆ นอกจากนี้ มีป้ายระบุ "ส่วนบริหารจัดการ" "ส่วนแผนงานโครงการและวิเทศสัมพันธ์" และอีกห้องหนึ่งมีป้ายติดไว้ว่า "ส่วนศึกษาและขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ" ทั้งนี้ พ.อ.บรรพต ขอไม่ให้เปิดเผยภาพของป้ายที่ติดไว้หน้าห้อง
บริเวณเยื้องบันไดทางขึ้นลง จะมีทางแยกสู่ห้องน้ำสำหรับ ชาย-หญิง บริเวณใกล้เคียงกัน มีพื้นที่ว่าง มีอ่างล้างจาน และเลยจากบริเวณอ่างล้างจาน มีห้องว่างอีกห้องหนึ่ง ไม่มีป้ายติดไว้ด้านหน้า เมื่อสอบถามว่าใช้ทำอะไร พ.อ.บรรพต ยอมรับว่ายังไม่ทราบรายละเอียด ว่าเป็นห้องอะไร
เมื่อถามว่า ชั้น 3 มีห้องใดบ้าง
พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ชั้น 3 เป็น ห้องประชุม 150 ที่นั่ง ตามที่ได้เคยชี้แจงไป และเป็นห้องทำงาน ของเลขาธิการ กอ.รมน.
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวขอเยี่ยมชมชั้น 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องประชุม 150 ที่นั่ง และเป็นห้องทำงานของเลขาธิการ กอ.รมน. หรือ ลธ.รมน.แต่พ.อ.บรรพต กล่าวว่า ขออย่าเพิ่งชมเลย ขอให้ชมเพียงเท่านี้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้ว อาคารแห่งนี้จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อใด
พ.อ.บรรพตกล่าวว่า
“ในทางนิตินัย ยังรอเรื่องการชี้แจง สตง. หากชี้แจง สตง. เสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ หรือ ต้นเดือนหน้า อีกทั้งวงเงินก่อสร้าง 41 ล้านในการแก้ไขสัญญาได้รับการอนุมัติ เก็บรายละเอียดเรียบร้อย กระบวนการทั้งหมดก็ตรวจรับได้ ส่วนการแก้ไขสัญญาค่าตกแต่ง 31 ล้าน ถ้าได้รับอนุมัติก็จะมาลงรายละเอียดกัน ก็อาจจะส่งมอบงานภายในเดือน มิ.ย.นี้” พ.อ.บรรพตระบุ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความคืบหน้าในการสอบข้อเท็จจริง ตามข้อสังเกตของ สตง.
เจ้าหน้าที่ที่ชี้แจงร่วมกับ พ.อ.บรรพต กล่าวว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผอ.รมน. ได้อนุมัติแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบ กำหนดตัวบุคคลที่เป็นกรรมการแล้ว 3 คน เพื่อส่งรายงานให้ สตง.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขอทราบรายชื่อกรรมการสอบได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ทหารรายนี้กล่าวว่า ขั้นตอนยังอยู่ในกระบวนการภายในอยู่ ขอให้กระบวนนี้แล้วเสร็จก่อน
“รายงานผลสอบ น่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 1 เดือน เพราะ สตง.ขอไม่เกิน 30 วัน จากนั้น สตง.ไม่มีข้อสังเกตแล้ว และเมื่อการแก้ไขสัญญาแล้วเสร็จ ก็จะเริ่มงาน ในส่วนรายละเอียดที่ค้างอยู่ เมื่อมีการแก้ไขสัญญาเป็นวงเงิน 41 ล้านแล้ว ก็จะดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่องต่อไป คาดว่าจะตรวจรับงานได้ ในเดือน มิ.ย.” เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ
ด้าน พ.อ.บรรพต กล่าวว่าเท่าที่ฟังผู้ใหญ่หลายคนพูดๆ กัน เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จ และส่งผลสอบ ชี้แจงต่อ สตง. เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างหารือว่าอาจจะแถลงข่าวเรื่องการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์แก่สื่อมวลชนหรือไม่
“หากรายงาน สตง.เขาไม่มีอะไรขัดข้องแล้ว วงเงินเป็น 41 ล้านบาทแล้ว จะมีการแถลงข่าวสักทีดีไหม น่าจะมีการชี้แจง สื่อมวลชน พร้อมๆ กัน แต่ขอให้ มีการรายงานกับ สตง.เรียบร้อยก่อน คาดว่า เมื่อผลสอบออกมาแล้ว สตง. ไม่ขัดข้องอย่างไร และเราก็มั่นใจว่าไม่มีอุปสรคแล้ว ผู้ใหญ่หลายๆ คน พูดว่าก็อาจจะแถลงข่าว”พ.อ.บรรพตระบุ
พ.อ.บรรพต กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า หากสำนักข่าวมีประเด็นใดที่มีข้อสังสัย ขอให้สอบถามมา ยินดีและพร้อมให้ข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างชมบริเวณ ชั้น 1 ในอาคารรื่นฤดีและสัมภาษณ์ พ.อ.บรรพต เจ้าหน้าที่ผู้ติดตาม ของ พ.อ.บรรพต ได้ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนถ่ายรูปผู้สื่อข่าวไว้ ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่าขอความกรุณาอย่าถ่ายรูปและขอให้ช่วยลบภาพด้วย เจ้าหน้าที่รับปากผู้สื่อข่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวกับ พ.อ.บรรพต ในตอนท้ายว่าขอให้ พ.อ.บรรพต ช่วยบอกเจ้าหน้าที่ให้ลบภาพผู้สื่อข่าวด้วย พ.อ.บรรพตกล่าวทีเล่นทีจริงว่าไม่เป็นไรหรอก เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานว่าได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแล้ว
อ่านประกอบ :
"บิ๊กตู่"สั่งสอบสร้างตึก"กอ.รมน."ปัดตอบปมผู้รับเหมาคว้างานกองทัพ 500 ล.
พบ บ.สร้างตึก กอ.รมน. 34.7 ล. เป็นคู่ค้าจัดซื้อวิทยุสื่อสาร กองทัพ 50 ครั้ง 600 ล้าน
แง้มห้องบิ๊ก กอ.รมน.ดู‘เฟอร์นิเจอร์-ของตกแต่ง’ครบเซ็ต โต๊ะหมู่บูชา 5 หมื่น
สตง.ตามดมกลิ่นปมสร้างตึก กอ.รมน. 77.7 ล้าน -เฟอร์นิเจอร์พรึบห้องทำงานบิ๊ก