ผู้บริหารบ้านปู ชี้ไทยสุ่มเสี่ยงเรื่องคุณธรรม ฉุดประเทศเดินหน้าลำบาก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู ชี้ไทยสุ่มเสี่ยงเป็นประเทศล้มเหลว เพราะคนในชาติขาดคุณธรรม ระบุการศึกษาไทยไม่สร้างคนให้คิดเป็น คิดได้ ย้ำพัฒนาเศรษฐกิจลำบากหากภาคธุรกิจไม่คิดวิจัยพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดแสดงปาฐกถา 100 ปี ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เนื่องในวาระรำลึก 100 ปี ชาตกาลของ ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ โดยการแสดงปาฐกถาครั้งที่ 1 มีนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “การพัฒนาที่ยั่งยืน: จากแนวคิดอาจารย์ป๋วยสู่ประสบการณ์ภาคธุรกิจ” ณ ห้องประชุมชั้น 5 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
นายชนินท์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการบริหารงานที่ผ่านมานั้นได้นำแนวคิดอาจารย์ป๋วยมาสู่ประสบการณ์ภาคธุรกิจด้วยคุณธรรม 4 ประการ ทั้ง 1.ในเรื่องของหลักสมรรถภาพในการคัดคนเข้ามาทำงาน 2.หลักของความยุติธรรมในสังคม 3. หลักของความเสรีภาพ คือการให้อิสระภาพกับพนักงาน และ 4 หลักความมีเมตตากรุณา ที่สำคัญคือมีความเชื่อในเรื่องการสร้างคนและคัดคนที่มีคุณภาพรวมถึงวัฒนธรรมองค์กร การสร้างสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คนที่สร้างขึ้นมานั้นอยู่ได้อย่างยาวนานและเมื่อได้คนที่มีคุณภาพบริษัทย่อมเจริญเติบโตและเมื่อเจริญเติบโตก็จะสร้างสรรค์คุณค่าให้กับสังคมได้
“การสอนคนให้คิดได้ ทำได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากที่สุด การศึกษาไทยในวันนี้สอนไม่เพียงพอ ที่จะสร้างให้คนคิดได้และทำได้”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู กล่าวอีกว่า หากอ่านนิตยสารไทม์ฉบับล่าสุดที่กล่าวถึงเรื่องในตะวันออกกลาง อย่างประเทศ อิรัก ลิเบีย เยเมน ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีรัฐบาลดูแล โดยเฉพาะเยเมน ผู้ชาย 2 ใน 3 ของประเทศติดยาเสพติด ประเทศเดินหน้าไปไม่ได้ คุณธรรมของคนในประเทศหาย ซึ่งประเทศไทยในวันนี้สุ่มเสี่ยงในเรื่องคุณธรรมเช่นเดียวกัน และนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้การเดินหน้าของประเทศลำบาก หากมองปัญหาเศรษฐกิจไทยในวันนี้ที่จะก้าวไปสู่ความยั่งยืนก็พบว่ามีปัญหาอยู่ 2 ประการ ประการแรกคือมีการส่งออกมากเกินไป มากเกินความต้องการของตลาด 2.ภาคธุรกิจไม่มีการทำวิจัยในเรื่องการพัฒนาของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า คือไม่มีเลย หากไม่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ๆการแข่งขันทางเศรษฐกิจของเราก็จะลำบาก
หากถามถึงมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของบริษัทนั้น นายชนินท์ กล่าวว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมอย่างถูกต้องเพราะเราถือความสมดุลการปฏิบัติให้ถูกต้องทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่ และมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับระดับมาตรฐานของสิ่งแวดล้อมอยู่เรื่อยๆ ส่วนในเรื่องปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมพลังงานถ่านหินที่บมจ.บ้านปู ดำเนินธุรกิจนั้น บริษัทดำเนินการอย่างระมัดระวังก่อนจะดำเนินการว่ามีผลกระทบหรือไม่และจะมีการติดตั้งเทคโนโลยีทั้งก่อนและหลังว่าจุดใดที่ยังมีปัญหาและมีการแก้ไขอยู่ตลอด ส่วนแนวคิดในการจัดการขยะให้เหลือศูนย์ หรือ Zero West นั้นเราเน้นการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเป็นหลัก พลังงานถ่านหินก็ใช้ศาสตร์ญี่ปุ่นในการจัดการ มีการพัฒนาในเรื่องGPM เป็นต้น
“ในอนาคตหากจะพัฒนาระบบเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืนจะต้องส่งเสริมให้มีการแก้กฎระเบียบที่ติดตัวมาของระบบราชการในเรื่องขั้นตอนการดำเนินงานเวลาภาคธุรกิจไปขออนุญาต นอกจากนี้ตัวภาคเอกชนเองต้องฝึกฝีมือด้วยหากวันนี้ย้ำอยู่กับที่แข่งขันลำบากแน่”