ชำแหละคำชี้แจง"เนวิน" Vs. สตง. ปมเงินอุดหนุนอบจ.บุรีรัมย์ ตอบคนละเรื่อง!
"... จากข้อเท็จจริงแล้ว กิจกรรมหรือค่าใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวมิได้นำไปใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม แต่นำไปใช้จ่ายในลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลและเกิดประโยชน์เฉพาะตัว เช่น ค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะในการจ้างเหมาะรถยนต์ ให้กับผู้ร่วมโครงการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ฯลฯ ดังนั้น การสนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 20,000,000 บาท จึงถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น..."
"ในนามของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมต้องขอเรียนชี้แจงว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่เคยรับเงินอุดหนุนใดๆจาก อบจ.บุรีรัมย์ และไม่เคยได้รับเงินอุดหนุนใดๆจากสมาคมกีฬาจังหวัด"
นี่คือประโยคคำพูดของ "นายเนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองใหญ่ ที่เปิดแถลงข่าวด่วนจากเกาหลีใต้ ระหว่างนำ "ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" เดินทางไปแข่งขันศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2015 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 22 เม.ย.นี้
เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีปรากฎข่าวว่า "สตง.บุรีรัมย์" ตรวจสอบพบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ซึ่งถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง และกำลังได้รับความสนใจจากสาธารณชนอยู่ในขณะนี้
ในการเปิดแถลงข่าวดังกล่าว นายเนวิน ยังระบุด้วยว่า "ตั้งแต่เราก่อตั้งสโมสรมา รายได้หลักของเรามาจาก ค่าบัตรผ่านประตู สปอนเซอร์ ซึ่งตรวจสอบได้จาก งบดุลบัญชี ที่บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ส่งให้สรรพากรในทุกๆ ปี เราไม่เหมือนสโมสรอื่นๆ เราไม่เคยรับเงินใดๆ จากทางสมาคมกีฬา เราไม่เคยรับเงินอุดหนุนใดๆ จากอบจ.จังหวัด เรายืนอยู่บนลำแข้งของเราเอง"
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าได้มีการนำเงินจากอบจ.บุรีรัมย์แล้วนำไปใช้ในการเดินทางของกองเชียร์จริงหรือไม่ เนวิน ตอบว่า "สโมสรไม่เคยรับรู้และไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้เลย อย่างที่บอกว่ารายได้ทั้งหมดของเราสามารถตรวจสอบได้จากงบดุลที่นำเสนอต่อสรรพากรบุรีรัมย์"
ฟังดูแล้ว "มีน้ำหนักและน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก!"
(อ่านประกอบ: "เนวิน" ยัน"บุรีรัมย์ยูไนเต็ด"ไม่เคยรับเงิน"อบจ."ขนคนเดินสายเชียร์ 20 ล.)
แต่อย่างไรก็ตาม หากใครที่มีโอกาสได้อ่านข้อมูลข่าวการตรวจสอบงบการเงินของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไป (อ่านประกอบ: พบอบจ.บุรีรัมย์ควักเงิน20ล.ช่วย "ขนคน" เดินสายเชียร์ "บุรีรัมย์ยูไนเต็ด") ในช่วงเช้าวันที่ 20 เม.ย.58 ที่ผ่านมา และนำมาเทียบเคียงกับคำชี้แจงนายเนวิน ดังกล่าว จะพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจหลายประการดังนี้
หนึ่ง ผลการตรวจสอบ สตง.บุรีรัมย์ ระบุว่า หน่วยงานที่ได้รับงบอุดหนุนจาก อบจ.บุรีรัมย์ คือ สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ มิได้ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่อย่างใด
ดังนั้น เมื่อ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ปรากฎชื่อเป็นผู้รับเงินโดยตรง อบจ. จึงไม่มีความจำเป็นที่ใครจะต้องเข้าไปตรวจสอบงบดุลของบริษัทฯ ที่นำส่งให้กรมสรรพากรหรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามที่นายเนวินระบุไว้แต่อย่างใด (ยกเว้นกรณีอื่น?)
เพราะในทางปฏิบัติตรวจสอบไปก็ไม่มีวันเห็น?
สอง ผลการตรวจสอบ สตง.บุรีรัมย์ ยังระบุด้วยว่า การที่ อบจ.บุรีรัมย์ เบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน "ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง"
ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ เป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยงานรัฐ คือ "อบจ.บุรีรัมย์" ว่า มีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 20 ล้านบาท ให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน
ขณะที่ในผลการตรวจสอบของ สตง.บุรีรัมย์ ระบุชัดเจนว่า การใช้งบประมาณในการสนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นการสนับสนุนงบประมาณให้องค์กรเอกชนและภารกิจที่สนับสนุนไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 อีกทั้งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการนำเด็ก เยาวชน ประชาชน และบุคลากรกีฬา เดินทางไปชมและเชียร์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ไม่ได้เป็นการศึกษาหรือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ และไม่ถือเป็นการดูแลและจัดทำการบริหารสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ตามที่มาตรา 17 (18) แห่ง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง กำหนดอำนาจหน้าที่ ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2546 และลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 กำหนดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ในการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 มกราคม 2553 โครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับเงินอุดหนุนจะต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ โดยกรณีการจัดให้มีและบำรุงสถานที่สำหรับกีฬาหรือส่งเสริมกีฬา จะต้องเป็นการดำเนินการที่มีลักษณะเป็นการจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองเป็นส่วนรวม
ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว กิจกรรมหรือค่าใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวมิได้นำไปใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม แต่นำไปใช้จ่ายในลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลและเกิดประโยชน์เฉพาะตัว เช่น ค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะในการจ้างเหมาะรถยนต์ ให้กับผู้ร่วมโครงการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ฯลฯ ดังนั้น การสนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 20,000,000 บาท จึงถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
ดังนั้น คำถามสำคัญที่ ผู้เกี่ยวข้องต่อกรณี โดยเฉพาะ "นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน" ซึ่งจะดำรงตำแน่งเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์ จะต้องตอบคำถามแก่สังคม คือ
1. อบจ.บุรีรัมย์ ได้เบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ และสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ มีการนำเงินส่วนนี้ ไปใช้เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ตามที่ สตง.ตรวจสอบพบจริงหรือไม่
2. อบจ.บุรีรัมย์ ทราบหรือไม่ ว่า การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการให้เงินสนับสนุนแก่เอกชน ไม่ใช่การใช้เงินเพื่อดูแลและจัดทำบริการสาธารณเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45
และ 3.ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย จากการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้องครั้งนี้บ้าง
มิใช่ปล่อยให้ "นายเนวิน" ในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้เป็นสามี ออกมาพูดชี้แจงให้ความเห็นต่อสาธารณชนในมุมของตนเอง เพียงแค่ว่า "ไม่เคยได้รับเงินอุดหนุน"
ซึ่งถือเป็นการตอบคำตอบแบบ "ไม่ตรงประเด็น" หรือ "ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง" ที่เกิดขึ้น
หรือข้อเท็จจริงมันปรากฎชัดเจน จนไม่รู้จะตอบชี้แจงยังไงดี ?