วิเคราะห์บึ้ม-เผาสุราษฎร์-พังงา จังหวะเวลาลงตัว คาดไฟใต้-การเมือง
แม้จะยังไม่ชัดเจนในแง่หลักฐานอย่างเป็นทางการว่า เหตุรุนแรง 3 จุดในคืนเดียวกัน ทั้งเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังบนเกาะสมุย เหตุเผาสหกรณ์โคออป จ.สุราษฎร์ธานี และห้างแบรนด์ท้องถิ่นใน อ.โคกกลอย จ.พังงา เกี่ยวพันเป็นการก่อวินาศกรรมชุดเดียวกันหรือไม่
ทว่าในทางการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วยค่อนข้างเชื่อว่าจะเชื่อมโยงกัน โดยให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือการสร้างความปั่นป่วนของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองและเลือกใช้ความรุนแรงต่อต้านรัฐบาล
แต่ก็มีทฤษฎีที่สามว่าด้วยการผสมโรง คือ กลุ่มจุดไฟใต้ปีกการเมืองเป็นผู้สร้างสถานการณ์ โดยหวังผลทั้งเรื่องชายแดนใต้และการเมืองระดับประเทศ
เหตุปัจจัยที่นำไปสู่ข้อวิเคราะห์เช่นนั้น คือ
1.การเลือกจังหวะเวลาก่อเหตุ ที่ต้องบอกว่าสุดยอด คิดล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี และบรรลุผลในระดับสูงสุด คือ สร้างความสับสนให้กับฝ่ายความมั่นคงจนวิเคราะห์กันไม่ถูก เนื่องจากวันที่ 10 เมษายน เป็นวันครบรอบรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สี่แยกคอกวัว เมื่อปี 2553 จนก่อความสูญเสียทั้งทหารและประชาชน ซึ่งถ้าพิจารณาในแง่นี้ ก็ต้องให้น้ำหนักการก่อเหตุไปที่เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง
แต่ขณะเดียวกัน วันที่ 10 เมษายน ก็เป็นหนึ่งในวันสำคัญของขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งเชื่อกันเป็นขบวนการหลักที่ต่อสู้ด้วยอาวุธในพื้นที่ชายแดนใต้อยู่ในขณะนี้ โดยก่อนวันที่ 10 เมษายนเพียง 2 วัน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ประชุมและแจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยในพื้นที่ให้ระมัดระวัง โดยพุ่งเป้าคุมเข้มเป้าหมายชุมชนไทยพุทธ และจุดที่มีการคัดเลือกทหาร แต่การแจ้งเตือนจำกัดเฉพาะในพื้นที่ชายแดนใต้เท่านั้น
หากพิจารณาข้อมูลนี้ ก็ต้องบอกว่ามีน้ำหนักที่เหตุรุนแรงจะเกี่ยวโยงกับสถานการณ์ไฟใต้ แต่ก็น่าตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงเลือกก่อเหตุนอกพื้นที่ที่ตนเองคุมได้
นอกจากนั้นวันที่ 10 เมษายน ยังเป็นช่วงเริ่มต้นวันหยุดยาวสงกรานต์ การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ท่องเที่ยวเกรดเอจึงส่งผลสะเทือนต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งยังลดทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในห้วงของการเปลี่ยนผ่านจากกฎอัยการศึกเป็นการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ออกโดยอาศัยอำนาจของมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราวอีกด้วย
2.ช่วงก่อนวันที่ 10 เมษายน มีเหตุการณ์บางประการที่อาจเป็นเชื้อไฟนำมาสู่การก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้ ได้แก่ กรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม 4 ศพที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งปรากฏผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนร้าย และเจ้าหน้าที่ส่อว่ากระทำการเกินกว่าเหตุ ประเด็นนี้อาจทำให้เกิดกระแสการแก้แค้นขึ้นได้ และอาจโยงประเด็นการเมืองด้วย เนื่องจากผู้สูญเสียบางรายมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของบุคคลสำคัญของพื้นที่ซึ่งอยู่ตรงข้ามรัฐบาล
ขณะเดียวกัน วันที่ 10 เมษายน ก็เป็นวันที่คนเสื้อแดงถูก คสช.และรัฐบาลสั่งห้ามจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์เมื่อปี 2553
3.รถยนต์ที่ใช้ทำคาร์บอมบ์ในลานจอดรถห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล บนเกาะสมุย คาดว่าเป็นรถกระบะมาสด้า และน่าจะเป็นคันเดียวกับที่ถูกโจรกรรมจากองค์การบริหารส่วนตำบลละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ดี การใช้รถที่ถูกโจรกรรมจากสามจังหวัดใต้ ก็ไม่ได้หมายความว่าการก่อเหตุต้องเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเท่านั้น เพราะกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจวางแผนสวมรอยเพื่อสร้างความสับสนก็เป็นได้
พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ (ภาคใต้) ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กล่าวว่า เบื้องต้นตั้งสมมติฐานไว้ 2 ประเด็น คือ 1.อาจเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการรายในภาคใต้ที่เชื่อมโยงกับการเมือง โดยใช้ประเด็นวิสามัญฆาตกรรม 4 ศพที่ อ.ทุ่งยางแดง เป็นตัวจุดชนวน
และ 2.อาจเป็นการกระทำของกลุ่มเสียประโยชน์ในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการขั้วอำนาจเก่าที่มีแนวโน้มถูกเช็คบิลในเร็ววันนี้ หลังจากรัฐบาลเริ่มใช้อำนาจตามมาตรา 44 จัดการกับข้าราชการทุจริต เกียร์ว่าง และไม่ปฏิบัติตามนโยบายของ คสช.
"เป้าหมายของการก่อเหตุทั้ง 3 เป้าหมาย ล้วนเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มอำนาจเก่า ส่วนตัวจึงให้น้ำหนักในเรื่องการเมืองมากกว่า ฉะนั้นถ้าเรื่องนี้จะโยงไฟใต้ก็เป็นไฟใต้ปีกที่อิงการเมืองฝั่งตรงข้ามรัฐบาลชุดนี้" พลโทนันทเดช กล่าว
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เหตุคาร์บอมบ์ในห้างสรรพสินค้าบนเกาะสมุยนั้น บทสรุปที่ชัดเจนคงต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน แต่สิ่งที่พอมองเห็นภาพแล้วในตอนนี้ คือรถยนต์ที่ใช้ทำคาร์บอมบ์มีที่มาที่ไปอย่างไร รวมทั้งลักษณะของระเบิดที่ใช้ก็ค่อนข้างบอกได้ว่ามาจากกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จะเชื่อมโยงกันอย่างไรนั้นยังไม่ทราบ
ลักษณะของการก่อเหตุ ผู้กระทำได้กระทำกันเป็นขบวนการแน่นอน ไม่ใช่ทำคนเดียวโดดๆ มีการนำรถยนต์เข้าไปที่สมุยมากกว่า 1 คัน มีการวางแผนหลบหนีด้วยการตั้งเวลาระเบิดและหลบออกจากเกาะสมุยไปก่อนเกิดระเบิด ส่วนจะเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง เจ้าหน้าที่กำลังตามดู ซึ่งที่ผ่านมาก็มีร่องรอยในโซเชียลมีเดียมานานพอสมควร ทั้งตัวบุคคลและความเชื่อมโยง ถ้ามีหลักฐานยืนยันชัดเจนก็จะนำไปสู่การจับกุม เพราะเรามีข้อมูลทั้งของกลุ่มที่ทำระเบิด กลุ่มที่อยู่เบื้องหลัง และกลุ่มบงการหรือไหว้วาน
รศ.ดร.ปณิธาน บอกด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการปรับแผนป้องกันวินาศกรรมช่วงเทศกาลให้เข้มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมายที่มีการแจ้งเตือน ส่วนเกาะสมุยนั้นถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นเกาะ จึงมีการจัดระบบแตกต่างจากพื้นที่อื่น คาดว่าหลังเกิดเหตุการณ์ ภาคเอกชนจะเข้ามาร่วมมือกับรัฐมากขึ้นกว่าเดิม