กอ.รมน.แจงคุมตัวนักศึกษาโยงบึ้มนราฯ เปอร์มัสโวยคุกคาม!
ใต้ตึงเครียดต่อหลังฝ่ายความมั่นคงปูพรมค้น 4 จุดคุมตัวนักศึกษาและอดีตนักศึกษาที่ถูกกล่าวหาพัวพันวางระเบิดคาร์บอมบ์ป่วนเมืองนราธิวาสเมื่อเดือนที่แล้ว
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียด โดยมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่องหลังมีเหตุวิสามัญฆาตกรรม 4 ศพที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ขณะที่ล่าสุดยังมีการควบคุมตัวนักศึกษาและอดีตนักศึกษาถึง 22 คนใน จ.นราธิวาส เข้ากระบวนการซักถามเพราะต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับเหตุระเบิดคาร์บอมบ์และระเบิดจุดอื่นๆ รวม 3 จุดในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ก.พ.58
ข่าวการควบคุมตัวนักศึกษาและอดีตนักศึกษา 22 คนใน จ.นราธิวาส ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย และแอพพลิเคชั่นไลน์ ตั้งแต่ช่วงวันพฤหัสบดีที่ 2 เม.ย.และวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.58 แต่ไม่มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รัฐ
กระทั่ง พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวอิศรา" โดยยอมรับว่าได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้จริง 22 คน แต่ได้ปล่อยกลับบ้านไปแล้วจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ (เมื่อวันที่ 3 เม.ย.) อยู่ที่ศูนย์ซักถาม นราธิวาส 12 คน การควบคุมตัวดังกล่าวเป็นการขยายผลจากการตรวจสอบภาพในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ย่านคาราโอเกะ ถนน ณ นคร อ.เมืองนราธิวาส วันที่ 20 ก.พ.58
สำหรับบุคคลที่ถูกควบคุมตัวเป็นนักศึกษาและอดีตนักศึกษาจากหลายสถาบันในพื้นที่ชายแดนใต้ บางส่วนเป็นเพื่อนกัน
อย่างไรก็ดี มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงว่า บุคคลที่ถูกควบคุมตัวไปเข้ากระบวนการซักถามมีหลายกลุ่ม ทั้งนักศึกษา อดีตนักศึกษา และกลุ่มที่ไม่ใช่นักศึกษา จากนั้นได้แยกกันไปซักถาม ทั้งที่ สภ.เมืองนราธิวาส หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46, 48 และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธ แต่ก็มีบางคนรับสารภาพว่าเกี่ยวข้องจริง และซัดทอดว่ามีผู้ร่วมกันก่อเหตุ 11 คน อย่างไรก็ดี ไม่มีการยืนยันว่าบุคคลทีรับสารภาพเป็นนักศึกษาหรืออดีตนักศึกษาหรือไม่
แจงคนร้ายแฝงตัวในกลุ่มนักศึกษา
เมื่อวันศุกร์ที่ 3 เม.ย. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงกรณีมีการรายงานข่าวทางโลกออนไลน์เกี่ยวกับปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นแหล่งหอพักนักศึกษาต่างๆ รวม 4 แห่ง ใน จ.นราธิวาส ก่อนจะมีการควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยไปสอบปากคำ โดยมีนักศึกษาจำนวนหนึ่งรวมกับบุคคลอื่นๆ ทั้งสิ้น 22 คน
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นแหล่งต้องสงสัยทั้ง 4 จุด เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกและพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) หลังมีแหล่งข่าวแจ้งว่าพบบุคคลเป้าหมายมีส่วนร่วมในการก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส เข้าไปหลบซ่อนตัวโดยอาศัยรวมอยู่กับนักศึกษา โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เป็นภาพผู้ต้องสงสัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุและหลบหนีไปกบดานตามที่ต่างๆ จนล่าสุดได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารว่ามาหลบซ่อนตัวปะปนอยู่ในบ้านเช่านักศึกษา
"ผลการปฏิบัติสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้พร้อมเสื้อผ้า รถ และรถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ในวันก่อเหตุ รวมทั้งได้เชิญตัวผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันภายในบ้านพักไปซักถามขยายผล ขั้นต้นมีการเชิญตัวมาทั้งหมด 22 คน พร้อมยังได้เชิญตัวอาจารย์ของมหาวิทยาลัยต้นสังกัดของนักศึกษามาร่วมรับฟังคำชี้แจงและเหตุผลการเชิญตัวด้วย จากการซักถามขยายผลพบผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 11 คน จึงได้ให้กลับบ้าน คงเหลือที่ยังคงเข้าสู่กระบวนการซักถาม 11 คน" พ.อ.ปราโมทย์ ระบุ
ปล่อย 11 จับเพิ่ม 1 – เป็น นศ.9คน
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ยังได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามีหมายจับ ป.วิอาญา (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) อันเป็นผลจากการให้ข้อมูลเพิ่มอีก 1 คน รวมผู้ที่ถูกเชิญตัวจำนวน 12 คน แบ่งเป็นอดีตและนักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส รวม 7 คน นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา 2 คน ที่เหลือเป็นบุคคลทั่วไป
พ.อ.ปราโมทย์ ย้ำด้วยว่า ที่มีกระแสข่าวแอบอ้างว่าเจ้าหน้าที่บุกคุมตัวนักศึกษา เป็นการให้ข่าวเพื่อสร้างความแตกแยก ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เพราะเป็นการควบคุมตัวตามกฎหมาย หากพบผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งยังส่งกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย
เปอร์มัสโวยคุกคาม-จี้ปล่อย นศ.ทั้งหมด
ด้าน สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (เปอร์มัส ; PerMAS) ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชนและคุกคามเยาวชนนักศึกษา ระบุว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นและควบคุมตัวเยาวชนนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นนักกิจกรรมเพิ่อสันติภาพ จำนวน 22 คน เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้กฏอัยการศึกนั้น
เหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นหอพักนักศึกษากิจกรรม และควบคุมตัวนักศึกษา เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือปาตานี
สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.ขอให้มีการปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดโดยทันที หยุดคุกคามเยาวชน นักศึกษา และขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังเพื่อมิให้การละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนการซ้อมทรม่านเกิดขึ้นอีก
2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยที่กรุงเทพฯยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ในพื้นที่ปาตานี ซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นจำนวนมากจากการใช้กฎอัยการศึก และถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่หล่อเลี้ยงไฟความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่มาโดยตลอด
ทั้งนี้ ทางกลุ่มเปอร์มัสได้จัดกิจกรรมอ่านแถลงการณ์ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 เม.ย.58 โดยได้ร้องเพลงเรียกหาสันติภาพเป็นภาษายาวี และพร้อมใจตะโกนให้ปล่อยเพื่อนนักศึกษาที่ถูกจับกุมด้วย
บึ้ม 2 จุดนราธิวาสไร้เจ็บ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 4 เม.ย. มีระเบิดเกิดขึ้น 2 จุดใน จ.นราธิวาส จุดแรกเวลา 07.35 น.บริเวณซุ้มประตูขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช้างเผือก ทางเข้า ต.ช้างเผือก ถนนสายมะนังกาแยง-ช้างเผือก บ้านไอร์กำมาลา หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ซุ้มประตูและบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ๆ ได้รับความเสียหาย โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
จุดที่ 2 เวลา 10.30 น.คนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารชุดทหารช่างที่กำลังสร้างถนนภายในหมู่บ้าน บ้านลูโบ๊ะเยาะ หมู่ 7 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ขณะกำลังพลของทหารช่างนั่งรถกระบะเข้าไปทำงาน โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
กู้ระเบิดถังดับเพลิงกลางเมืองปัตตานี
ส่วนที่ จ.ปัตตานี เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 2 เม.ย. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่วางอยู่ตรงข้ามบ้านเลขที่ 3/42 ถนนพระยาเมือง ซอย 13 หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งบ้านดังกล่าวถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผารถรถจักรยานยนต์ในช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน
ผลการตรวจสอบพบว่า วัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังน้ำยาเคมีดับเพลิง ทาทับภายนอกด้วยสีเหลือง ทั้งตัวระเบิดและแผงวงจร จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายนำไปวางไว้บริเวณโคนต้นไม้ แล้วนำใบไม้มากลบเพื่ออำพราง เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ไว้ได้อย่างปลอดภัย
ยิง 2 หนุ่มสุคิรินดับหลังกลับจากหาของป่า
วันเดียวกัน เวลา 06.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายอนันต์ ขานโบ อายุ 33 ปี และ นายอภิชน ศรีไพล อายุ 32 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 8 ต.สุคิริน จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา บนถนนสายชนบท บ้านแฮ บ้านย่อยบ้านบองอ หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จจากหาของป่า กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงปืนลูกซองของผู้ตาย 2 กระบอกไปด้วย ก่อนหลบหนีไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เหตุระเบิดที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
ขอบคุณ : เจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ เอื้อเฟื้อภาพ