“ล้างส้วมทั่วไทย” รับวันสงกรานต์
เทศกาลสงกรานต์ทุกปี ผู้คนจะหลั่งไหลเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อมุ่งหน้าไปท่องเที่ยวและกลับบ้านต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาว “ส้วมสาธารณะ” ตามปั๊มน้ำมัน แหล่งท่องเที่ยว และสถานีขนส่งทางบก ทางอากาศ จึงนับได้ว่า เป็นแหล่งปลดทุกข์ ที่นักท่องเที่ยว และคนไทยนิยมเข้าไปใช้บริการมากที่สุด
เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชน ออกมารณรงค์ “ล้างส้วมทั่วไทย” ก่อน 1 สัปดาห์ รับวันสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ตั้งเป้าหมายให้ส้วมสาธารณะสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อโรค
โดยเฉพาะส้วมสาธารณะ 12 แห่ง ได้แก่ 1.สถานศึกษา 2.สถานที่ราชการ 3.โรงพยาบาล 4.ศาสนสถาน 5.สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 6.แหล่งท่องเที่ยว 7.สวนสาธารณะ 8.ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า 9.ร้านจำหน่ายอาหาร 10.ตลาดสด 11.สถานีขนส่งทางบก/ทางอากาศ และ12.ส้วมสาธารณะริมทาง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจของกรมอนามัยเรื่องส้วมสาธารณะ ก็พบว่า ประชาชนให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดมากเป็นอันดับ 1 ถึงร้อยละ 86 และยังพบ 7 จุดเสี่ยงในส้วมที่พบมีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด คือ สายฉีดน้ำชำระ ร้อยละ 85 รองลงมาคือพื้นห้องส้วม ร้อยละ 50 ที่รองนั่งโถส้วมชนิดนั่งราบ ร้อยละ31 ที่กดน้ำโถส้วม และโถปัสสาวะชาย พบร้อยละ 8 เท่ากัน ที่เปิดก๊อกอ่างล้างมือร้อยละ 7 และที่กลอนประตูหรือลูกบิดภายในร้อยละ 3
ดังนั้นการทำความสะอาดจะเป็นการตัดวงจรเชื้อโรค ช่วยให้ส้วมสาธารณะสะอาด ปลอดเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่ง
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลถึงเหตุที่ต้องออกมารณรงค์ล้างส้วมพร้อมกัน...รับวันสงกรานต์ว่า ปัจจุบันมีห้องน้ำสาธารณะผ่านมาตรฐาน HAS ร้อยละ 70.33
มาตรฐานแฮส (HAS) คือ 1.สะอาด (Health) ถูกหลักสุขาภิบาล ไม่มีกลิ่นเหม็น มีวัสดุอุปกรณ์บริการครบถ้วน เช่น น้ำสะอาด สบู่ล้างมือ กระดาษชำระ 2.เพียงพอ (Accessibility) ทั้งประชาชนทั่วไป และผู้พิการหรือผู้ด้อยโอกาส และ3.ปลอดภัย(Safety)
ประกอบกับรัฐบาลกำหนดให้ปี 2558 เป็นปีการท่องเที่ยววิถีไทย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งกทม.และต่างจังหวัดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายยกระดับความสะอาดระบบสุขาภิบาล โดยเฉพาะส้วมสาธารณะต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา กทม. รวมทั้งภาคีหน่วยงาน รัฐเอกชนรณรงค์ทุกจังหวัดทั่วประเทศล้างทำความสะอาดส้วมสาธารณะ
เช่นเดียวกับนางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความสำคัญ เรื่องมาตรฐานและความสะอาดของห้องน้ำสาธารณะที่พร้อมให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพราะถือว่า ห้องน้ำ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นหน้าตาของประเทศชาติ
“ การสร้างห้องน้ำนั้นสร้างง่ายแต่การรักษาห้องน้ำให้ดีสะอาดเป็นเรื่องยาก ถ้าขาดความร่วมมือจากทุกคนที่ใช้ห้องน้ำ หลายครั้งที่มีการขอให้สร้างห้องน้ำก็จะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี จะเกิดการชำรุด ทรุดโทรมใช้ไม่ได้ จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแลรักษา ไม่ใช่รอเจ้าหน้าอย่างเดียว” รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าว พร้อมกับหวังว่ าโครงการรณรงค์ “ล้างส้วมทั่วไทย” จะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกผู้ที่เกี่ยวข้องได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ในฐานะที่กรุงเทพฯได้รับรางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลกถึง 4 ปีซ้อน จึงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ ให้พร้อมสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวและการดำรงไว้ซึ่งการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาสุขลักษณะห้องน้ำสาธารณะในกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจต่อนักท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและผลการพัฒนามีแนวโน้มที่ดีขึ้น พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนร่วมกันสร้างกรุงเทพฯให้เป็นมหานครแห่งความสุข และทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันอย่าถือว่าเป็นภาระของใครคนใดคนหนึ่ง ผู้ใช้บริการก็ต้องช่วยกันดูแลความสะอาดหลังจากใช้ห้องน้ำ เพราะไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ แต่เพื่อสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกคนด้วย