เปิดบันทึกลับ!สภา มรภ.นครสวรรค์ สอบวินัยรองอธิการฯพัน“เงินค่าเช่าที่”มหาวิทยาลัย
เปิดบันทึกรายงานประชุมลับสภา มรภ.นครสวรรค์ ฉบับ“ภิญโญ นิโรจน์”ให้สอบวินัยรองอธิการฯ-ผู้เกี่ยวข้อง เก็บเงินค่าเช่าสถานที่ ไม่นำส่งมหาวิทยาลัย ก่อนถูกหยิบเป็นหลักฐานเด็ดร้อง ป.ป.ช.-ป.ป.ท.สอบอธิการบดี อุ้มผู้ใต้บังคับบัญชา
กรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ถูกร้องเรียนต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) กรณีไม่ดำเนินการเอาผิดทางวินัยต่อนายประยุทธ สุระเสนา รองอธิการบดีฯ อดีตผู้อำนวยการสำนักวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องมาจากไม่นำส่งเงินรายได้เก็บค่าเช่าสถานที่ตลาดกลาง (อี อ๊อกชั่น) ต่อมหาวิทยาลัยเป็นเวลาหลายปี เอกสารชิ้นสำคัญที่ผู้ร้องหยิบมาเป็นหลักฐานในการร้องเรียนดังกล่าวคือ รายงานการประชุมลับสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นครสวรรค์)ครั้ง 6/2557 มีนายภิญโญ นิโรจน์ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.57 นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานกรรมการ เห็นควรดำเนินการทางวินัยแก่บุคลากรผู้รับผิดชอบ
เนื้อหาของรายงานการประชุมในวันดังกล่าวปรากฏในเรื่องพิจารณาเรื่องที่ 2 ดังนี้
“2. เรื่องสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ไม่นำเงินค่าเช่าสถานที่เป็นตลาดกลาง (e - Auction) จำนวนหลายปีส่งเป็นรายได้มหาวิทยาลัย อธิการบดีก็ยังละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบเป็นหารปกป้องผลประโยชน์ของพวกพ้อง”
ประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมสรุปได้ดังนี้
ประเด็นที่ 1 สำนักวิทยาบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมีรายได้จากการเช่าสถานที่เป็นตลาดกลาง (e - Auction) ตั้งแต่เมื่อไร มีการเก็บรักษาไว้อย่างไร นำไปใช้จ่ายอย่างไรหรือไม่
นายประยุทธ สุระเสนา อดีตผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ชี้แจงว่า ได้รับเงินค่าเช่าบริการจากผู้ใช้บริการตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2550 เป็นจำนวนเงิน 30,500 บาท โดยนำฝากในบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาย่อย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จึงได้ปิดบัญชีนี้และไปเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ โดยใช้ชื่อบัญชีผู้ฝากและผู้ถอนชุดเดิม
การเบิกจ่ายจากบัญชีธนาคารจะเบิกจ่ายในส่วนของรายจ่ายจากการให้บริการแต่ละครั้ง และการบริหารงานภายในสำนักงาน เช่น เงินเดือน ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และการสนับสนุนกิจกรรมการดำเนินงานของสำนักงาน โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการฯ การลงนามเบิกจ่ายใช้ลงลายมือ 2 ใน 3 ของผู้มีรายชื่อในบัญชีธนาคาร เงินที่นำฝากในบัญชีเป็นเงินรายได้ร้อยละ 80 ของค่าเช่าสถานที่ที่เป็นตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ (e - Auction) รวมกับเงินที่ยกมาจากบัญชีเดิม
ประเด็นที่ 2 เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2556 นายประยุทธ สุระเสนา ได้ทำบันทึกโต้แย้งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ว่าการให้บริการเพื่อการประมูลทางอิเลคทรอนิกส์ สำนักวิทยการฯ เห็นว่าไม่น่าจะเข้าข่ายระเบียบมหาวิทยาลัย ว่าด้วย การรับจ่ายเงินรายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 แต่ควรจัดอยู่ในประเภทการให้บริการวิชาการมากกว่า และจากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยยังไม่ได้พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดแจ้งให้ นายประยุทธ สุระเสนา ทราบแต่อย่างใด
รายงานการประชุมระบุว่า
ทั้งสองประเด็นนี้ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางโดยมีความเห็นสรุปได้ดังนี้
1. สภามหาวิทยาลัยควรแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยขี้ขาดว่าเงินรายได้ที่ได้จากค่าเช่าบริการให้บริการตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ จะต้องถือปฏิบัติตามระเบียบสภาประจำสถาบันราชภัฏนครสวรรค์ ว่าด้วยการให้บริการทางวิชาการ พ.ศ. 2549
2. ควรมอบตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พบว่า สำนักงานวิทยบริการฯ ได้รับเงินและนำส่งเงินค่าเช่าบริการการให้บริการตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ จะต้องถือปฏิบัติตามระเบียบใด
3. จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พบว่า สำนักวิทยบริการฯ ได้รับเงินและนำส่งเงินค่าเช่าบริการให้บริการตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ ดังนี้
3.1 ได้รับเงินค่าเช่าบริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2550 เป็นเงิน 30,500 บาท โดยนำฝากในในบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาย่อย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (ตามบันทึกชี้แจงข้อเท็จจริงของนายประยุทธ ลงวันที่ 28 มีนาคม 2557)
3.2 มีการนำส่งเงินให้มหาวิทยาลัย 2 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ตามใบเสร็จรับเงินเล่มที่ 889 เลขที่ 5 นำส่งเงินตามรายการคือ “รายรับร้อยละ 20 ของการให้บริการห้องเช่าเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเลคทรอนิกส์ เป็นเงิน 18,300 บาท”
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ตามในเสร็จรับเงินเล่มที่ 910 เลขที่ 20 นำส่งเงินตามรายการ คือ “ค่าธรรมเนียมร้อยละ 20 ของการให้บริการเช่าห้องเสนอราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปี 2550 - 2556 เป็นเงิน 283,700 บาท”
4. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการเก็บเงินรายได้จากค่าเช่าบริการการให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วไม่นำส่งให้มหาวิทยาลัยตามระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งถือว่าไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
5. ควรดำเนินการทางวินัยแก่บุคลากรผู้รับผิดชอบ
มติที่ประชุม 1. ให้อธิการบดีในฐานะผู้รักษาการตามระเบียบมหาวิทยาลัยฯ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดว่า เงินรายได้จากค่าเช่าบริการการให้บริการตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ จะต้องถือปฏิบัติตามระเบียบประจำสถาบันราชภัฏนครสวรรค์ ว่าด้วย การรับ - จ่ายเงินรายได้จากค่าเช่าทรัพย์สินของสถาบันราชภัฏนครสวรรค์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 หรือระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ว่าด้วยการให้บริการวิชาการ พ.ศ. 2549
2. ให้มหาวิทยาลัยดำเนินการทางวินัย นายประยุทธ สุระเสนา ในฐานะอดีตผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้รับผิดชอบในเรื่องการไม่นำส่งเงินรายได้ให้มหาวิทยาลัย ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนหลายปี ซึ่งถือว่าเป็นความผิดวินัยมาตรา 39 วรรค 4 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 คือ “ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของทางราชการ”
กรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถาม นายบัญญัติ ชำนาญกิจ อธิการบดี มรภ.นครสวรรค์ เจ้าตัวอ้างว่ายังไม่ทราบข้อเท็จจริง ขณะที่ นายยงยุทธติดต่อทางโทรศัพท์ได้ในช่วงแรก เจ้าตัวนัดเวลาให้ติดต่ออีกครั้ง แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่สามารถติดต่อได้
ฉะนั้น เมื่อเรื่องถึงมือ ป.ป.ช.ต้องรอดูผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป
อ่านประกอบ:ยื่น ป.ป.ช.สอบอธิการฯมรภ. นครสวรรค์ อุ้มรองอธิการปมเงินค่าเช่าสถานที่
(ดูเอกสารประกอบ)