เหลี่ยม "ศุภชัย"ซื้อที่ดินกินสองต่อ สาวกธรรมกายเจอเอง ก่อนยกให้ "ธัมมชโย"
เปิดข้อมูลลับ โฉนดที่ดินแปลงใหม่ "ศุภชัย" ในมือ ปปง. พบใช้เงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 90 ล้าน ซื้อต่อจาก "ป้าฉลวย" สาวกวัดพระธรรมกาย ก่อนยกให้ "ธัมมชโย" ใช้สร้างโรงเรียนตะวันชัยวิทยา เนื้อที่ 67 ไร่ ใน จ.นครราชสีมา
ในบรรดาข้อมูลทรัพย์สินที่ดิน ของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร หนึ่งในผู้ต้องหาคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
นอกเหนือจากที่ดิน จำนวน 8 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 57 ไร่ ในตำบลคลอง 3 อำเภอคลองหลวง ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดพระธรรมกาย ที่นายศุภชัย ขายต่อให้กับ นางสาวอลิสา อัศวโภคิน ลูกสาวนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไทย ในราคา298 ล้านบาท
และที่ดินอีก 1 แปลง รวมเนื้อที่ 30 ไร่ ในราคา 25 ล้านบาท ที่นายศุภชัยขายให้นางวรรณา จิรกิติ ภรรยา นายประกอบ จิรกิติ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นน้องสาวนายบุญชัย เบญจรงคกุล นักธุรกิจดังเจ้าของกลุ่มยูคอม
ซึ่งกำลังถูกตรวจสอบว่า เป็นการยักย้ายถ่ายเทซุกซ่อนทรัพย์สินของนายศุภชัยหรือไม่ เพราะการซื้อขายที่ดินทั้งสองส่วน เกิดขึ้นในช่วงหลังจากที่ นายศุภชัย ถูกคณะกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ในข้อหายักยอกทรัพย์และฉ้อโกง กรณีที่มีการนำเงินของสหกรณ์ไปลงทุนหุ้น ที่ดิน รวมทั้งนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ฯ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556
(อ่านประกอบ : เปิดหลักฐาน"ศุภชัย"ชิงขายที่ให้ลูกสาว"อนันต์ อัศวโภคิน"298 ล.หลังเจอคดียักยอก , ซ้ำรอย"อัศวโภคิน"ศุภชัยชิงขายที่ให้น้องสาว"เสี่ยบุญชัย" 25ล.หลังเจอคดียักยอก )
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ยังมีที่ดินอีกแปลงหนึ่ง ในจ.นครราชสีมา ที่นายศุภชัย ซื้อต่อมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนที่จะนำไปมอบให้กับ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อนำไปใช้ในการสร้างโรงเรียนในจ.นครราชสีมา ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี 2553 (ปัญหาการยักยอกเงินในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เริ่มปรากฎข้อมูลในช่วงปี 2549 แต่เพิ่งมีการแจ้งความเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556)
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบด้านหลังโฉนดที่ดินแปลงนี้ พบว่า มีการระบุชื่อ นางฉลวย โพธิ์งาม เป็นผู้ขายที่ดินต่อให้กับ นายศุภชัย เมื่อวันที่ 23 ก.ค.51 รวมพื้นที่จำนวน 67 ไร่ ราคาซื้อ 90 ล้านบาท
จากนั้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 53 นายศุภชัย ได้ยกที่ดินแปลงนี้ ให้กับโรงเรียนตะวันชัยวิทยา
จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์โรงเรียนตะวันชัยวิทยา (http://www.tavanchaividhaya.ac.th/contactus-1.html) พบว่าเป็นโรงเรียนของวัดพระธรรมกาย ตั้งอยู่เลขที่ เลขที่ 280 หมู่ 11 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
ระบุความเป็นมาของโรงเรียนว่า "พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะให้มีการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาการศึกษาดังกล่าว เพื่อให้มีโรงเรียนต้นแบบมาตรฐานศีลธรรมโลกขึ้น จึงได้มอบหมายให้มูลนิธิพัฒนาการศึกษาเพื่อศีลธรรม ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นที่ตำบลธงชัยเหนือ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา บนที่ดินประมาณ 150 ไร่ที่ คุณศุภชัย ศรีสุภอักษรได้ถวายแด่พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเป็นผู้นำและเป็นศูนย์รวมใจของทุกคนที่เข้าวัดพระธรรมกาย
มูลนิธิพัฒนาการศึกษาเพื่อศีลธรรม จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการในการดำเนินงานสถาปนา “โรงเรียนตะวันชัยวิทยา” ขึ้น และได้มอบหมายให้นายถาวร ชัยจักรอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสน เป็นประธานดำเนินการ ทำหน้าที่ผู้จัดการและผู้อำนวยการ และมั่นใจว่าจะนำทีมบริหารมืออาชีพมาจัดการเรียนรู้แก่นักเรียนให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดีที่โลกต้องการ
(ดูภาพในเว็ปไซต์ประกอบ)
ส่วนข้อมูลของ นางฉลวย โพธิ์งาม จากการตรวจสอบพบว่า เป็นคนจ.นครราชสีมา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 125 ถนนสรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เคยปรากฎข้อมูลในเว็บไซต์ของวัดพระธรรมกาย ในฐานะลูกศิษย์และผู้บริจาคทรัพย์สินมีค่า รวมถึงทองให้กับวัดพระธรรมกายหลายครั้ง
ขณะที่ นางฉลวย โพธิ์งาม มีสามีชื่อว่า พูน โพธิ์งาม ซึ่งในเว็บไซต์วัดพระธรรมกาย เคยมีการลงข้อเขียนบอกเล่าประวัติชีวิต เพื่อประชาสัมพันธ์การสร้างสร้างอาคาร 100 ปี ในชื่อตอนว่า พลิกชีวิต..ด้วยบุญทอดกฐิน ตอนขายที่ดินอย่างไร...ให้ได้เงินตั๋งๆ"
ปรากฎเนื้อหาดังนี้
"กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
กระผม ลุงพูน-ป้าฉลวย โพธิ์งาม อายุ 74และ 78 ปีแห่งจังหวัดโคราช ครับ หลวงพ่อครับ...ที่กระผมเขียนจดหมายมาในวันนี้ เพราะอยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์บุญ ที่ตัดสินใจทำไปแล้วว่า...พลิกชีวิตให้รวยแรงอย่างแตกต่าง อย่างไม่เคยปรากฏที่ไหนเลยจริงๆครับ
กระผมและภรรยาเข้าวัดมาตั้งนานแล้ว เดิมกระผมเป็นครูสอนพิมพ์ดีดธรรมดาๆจนๆคนหนึ่ง กินเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไรเลย ต่อมาชีวิตก็หักเหหันมาทำอาชีพจับเสือมือเปล่า คือ เป็นนายหน้าขายที่ดิน ซึ่งตอนทำใหม่ๆ นานๆก็พอจะขายได้สักแปลง จนกระทั่งได้เข้าวัดพระธรรมกาย บุญแรกที่ทำกับวัดนี้ คือ ทอดกฐินครับ จากนั้นก็กลับไปจับเสือมือเปล่าอีก จับจนเริ่มมีฐานะ สามารถซื้อที่ดินเป็นของตัวเองได้ ต่อมากระผมรู้สึกอยากทำบุญด้วยที่ดิน เพราะเราอยู่ในวงการนี้ ถ้ามีบุญถวายที่ถวายทางไว้บ้าง เวลาไปขายที่ดินให้ใคร บุญในตัวเราก็จะช่วยให้ขายง่าย หรือเวลาจะได้ที่ดินตรงไหน บุญก็จะช่วยให้เจอแต่ที่ดินที่ฮวงจุ้ยดีๆ ดังนั้นกระผมจึงตัดสินใจถวายที่ดินที่โคราช เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์อบรมเยาวชนนครราชสีมา หรือ วัดธรรมชัย ครับ
การถวายที่ดินในครั้งนี้ กระผมปลื้มมากเลยครับ และนับจากนั้น เราสองสามีภรรยาก็ทำบุญทุกบุญของวัดมาโดยตลอด แต่ที่ทำหนักแบบสุดกำลังทุกปี ก็เห็นจะเป็นบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว กับบุญทอดกฐิน เช่น บุญทอดกฐินปีที่ผ่านมา กระผมและภรรยาก็เบิกบานในบุญกันมากครับ ตั้งใจจะทำหนึ่งแผ่นทอง แต่พอคิดไปคิดมา กระผมและภรรยาอยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกับหลวงพ่อคนละแผ่น แต่ตอนนั้น เราสองคนมีเงินกันแค่ 6 M เท่านั้น ซึ่งกระผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน จึงไปบอกภรรยาของกระผมว่า “นี่เป็นหน้าที่ของเธอแล้วนะ”ซึ่งพอป้าหลวยรับคำสั่งแล้ว ก็ไม่รอช้าครับ เธอไปนั่งสมาธิ(Meditation)นึกถึงคุณยายอาจารย์ จากนั้นก็นอน พอรุ่งขึ้น ป้าหลวยก็บอกว่า “ฉันคิดออกแล้ว”จึงไปโทรศัพท์หาหนุ่มโสดซึ่งรวยมากๆคนหนึ่ง บอกกับเขาว่า อยากจะขายที่ดินให้ เพื่อเอาเงินมาทำบุญ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อครับ ป้าหลวยขายได้ทันที จนเรามีเงินมาทำบุญทอดกฐินและทำบุญสร้างอาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ ในปีที่แล้ว ได้ถึงสองแผ่นทอง ทำให้เราสองสามีภรรยาปลื้มสุดขีดเลยครับ
หลังจากที่เราทำบุญไปแล้ว เราก็เดินสายชวนคนทำบุญ เพราะไม่อยากให้เขาพลาดโอกาสสร้างบุญใหญ่นี้ไป พอไปชวนใคร เขาก็ทำกันคนละมากๆครับ เพราะหากเขาทำน้อย กระผมก็จะบอกเขาว่า “ทำแค่ 500-บาท เวลาจะตาย...จะนึกออกได้อย่างไร มันต้องทำจนปลื้มที่สุดขนาดตัวแทบจะลอยได้ ถึงจะจำได้” พอกระผมบอกแบบนี้ ก็ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร แต่ทำมาหนึ่งแผ่นทองทันทีเลยครับ
หลังจากทำบุญนี้ไปแล้ว อยู่ๆก็เกิดอัศจรรย์อย่างสุดๆอีก จนแทบจะไม่อยากเชื่อ เพราะมีคนมาสนใจขอซื้อที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 655 ไร่ ที่เราบอกขายไปนานเป็นสิบกว่าปีแล้ว แต่ขายเท่าไรก็ขายไม่ได้สักที จากราคาที่เราตั้งไว้ตั้งแต่แรกแบบเหมาจ่ายสด คือ 25 ล้านบาท เมื่อเวลาผ่านไปก็กระเถิบขึ้นมาเป็น 30 ล้านบาท ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง 60กว่าล้านบาท ก็ยังขายไม่ได้ ทั้งๆที่ที่ดินของเราราคาถูกกว่าที่ดินข้างเคียงมาก อีกทั้งยังเป็นสวนยางพาราที่สามารถทำเงินให้เจ้าของได้สูงลิบ แต่ก็ไม่รู้ทำไมไม่มีใครมาซื้อสักที แต่พอทำบุญทอดกฐินเสร็จ ภายในไม่กี่เดือนก็เกิดอัศจรรย์...ขายที่ดินได้อย่างเหลือเชื่อเลยครับ แถมเขายังซื้อทั้งหมด จ่ายสด รวดเดียว จนเราได้เงินมาอย่างตั๋งๆ
หลวงพ่อครับ ทุกวันนี้กระผมและป้าหลวยปลื้มมากในทุกบุญที่หลวงพ่อให้ทำครับ เพราะหลังจากทำไปแล้วชีวิตก็ดีขึ้นอย่างแตกต่าง จากที่ทางที่ไม่คิดว่าจะขายได้ ก็เกิดขายดีอย่างกับเทน้ำเทท่า มาถึง ณ วันนี้ กระผมและป้าหลวยขอยืนยันและฟันธงว่า บุญทอดกฐิน เป็นบุญที่แรงเต็มเหนี่ยวสุดๆ เพราะหลังจากทำอย่างสุดกำลังแล้ว บุญส่งผลเร็วแรง จนรวยพรวดพราดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ในปีนี้พอทราบข่าวว่าจะมีการทอดกฐินอีก ก็รับมาหนึ่งกองทันทีเลยครับ
สุดท้ายนี้ กระผมอยากถามทุกคนว่า...อยากรวยรึเปล่าครับ ถ้าอยากรวยจริงๆ โอกาสมาถึงแล้วครับ บุญกฐินปี 53 นี้ จะทำให้ทุกคนสมปรารถนา อย่างที่กระผมและป้าหลวยรวยมาแล้วครับ"
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
ลุงพูน-ป้าฉลวย โพธิ์งาม
(อ่านบทความฉบับเต็มได้ ที่นี่ )
เบื้องต้น มีการยืนยันข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ปปง.ว่า ได้สอบปากคำนางฉลวยแล้ว และได้รับแจ้งว่านายศุภชัย ได้นำเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 90 ล้านบาท มาใช้ในการซื้อที่ดินจำนวน 67 ไร่ จากนางฉลวย ก่อนจะแนะนำให้นางฉลวย นำเงินขายที่ดินดังกล่าว มาฝากที่สหกรณ์เครดินยูเนี่ยนคลองจั่นในเวลาต่อมาโดยให้เหตุผลว่าได้ผลกำไรตอบแทนที่สุด
ปัจจุบันนางฉลวย ก็มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของสหกรณ์ด้วยเช่นกัน หลังจากกรณีการยักยอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกเปิดเผยออกมา และนายศุภชัย ตกเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้
ส่วนการที่นายศุภชัย นำที่ดินจำนวนนี้ ไปมอบต่อให้กับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างโรงเรียน ถือเป็นการยักย้ายถ่ายซุกซ่อนทรัพย์สินหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา5 ที่ กำหนดว่า
ผู้ใด
(1) โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังการกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือ
(2) กระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้งการจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
กรณีนี้คงต้องรอวัดใจ ผู้บริหารระดับสูงของ ปปง.ว่ากล้าพอที่จะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
อ่านประกอบ :
เจาะคำสั่งอายัดทรัพย์ "ศุภชัย-พวก" 4.4พันล. เหลือ "ธรรมกาย" ตามคืนไม่ได้
เปิดหลักฐาน"ศุภชัย"ชิงขายที่ให้ลูกสาว"อนันต์ อัศวโภคิน"298 ล.หลังเจอคดียักยอก
สดจาก"ปทุมฯ& เชียงใหม่"เทียบชั้นผลงาน"ดุษฎี VS.สีหนาท" อายัดทรัพย์"ศุภชัย"
ซ้ำรอย"อัศวโภคิน"ศุภชัยชิงขายที่ให้น้องสาว"เสี่ยบุญชัย" 25ล.หลังเจอคดียักยอก