เทียบปอนด์ต่อปอนด์! ทนาย“มาร์ค-สุเทพ VS ยิ่งลักษณ์”วัดกึ๋นสู้คดีในป.ป.ช.
“…สำหรับคดีความ “ยิ่งลักษณ์” ยังเหลือค้างอยู่ใน ป.ป.ช. อีกหลายคดี ขณะที่ของ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นต้องจับตาดูว่า “กึ๋น” ของทนาย “สีฟ้า” หรือ “สีแดง” ใครจะมีมากมีน้อย และพอช่วยให้ “เจ้านาย” เอาตัวรอดได้มากกว่ากัน…”
เป็นอันว่าเริ่มเข้าสู่กระบวนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ !
สำหรับกรณี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี และ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตรองนายกฯ ในคดีถอดถอน กรณีสั่งสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุดได้ส่งทนายความเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแทนแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน นั่นคือ “บัณฑิต ศิริพันธุ์” นักกฎหมายมากฝีมือ ที่เคยกุมบังเหียนว่าความในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว คราวนี้นั่งแท่นเป็นทนายความให้ “อภิสิทธิ์” และ “ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง” นักกฎหมายผู้สนิทชิดเชื้อกับคนตระกูล “เทือกสุบรรณ” มานั่งว่าความให้ “สุเทพ”
ที่สำคัญคือพกความ “มั่นอกมั่นใจ” เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะการเปรียบเทียบกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 กับกรณีสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ที่ยืนยันว่า แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และจะใช้วาทกรรม “สองมาตรฐาน” มาเล่นงานไม่ได้
(อ่านประกอบ : ทนาย“มาร์ค-สุเทพ”รับทราบข้อหาสลายแดง-หวั่นอำนาจนอกระบบแทรกแซง)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พาย้อนกลับไปดูผลงานในอดีต จะเห็นได้ว่าฉายา “ทนายเทวดา” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
“บัณฑิต ศิริพันธุ์” เริ่มเป็นทนายความประจำสำนักงานทนายความ “เสนีย์ ปราโมช” ตั้งแต่ปี 2508 และเป็นหัวหน้าและผู้จัดการสำนักงานตั้งแต่ปี 2518-ปัจจุบัน เคยจบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับนายชวน หลีกภัย อดีต “นายหัว” ประชาธิปัตย์ และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ
เคยดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความฯ 2 สมัย เป็น ส.ว. ปี 2535-2539 และเคยเป็นที่ปรึกษาของนายอภิสิทธิ์ สมัยเป็นนายกฯ
ต่อมาด้วยความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อกับ “นายหัวชวน” ทำให้ “บัณฑิต” กลายเป็น “ทนายขาประจำ” ของประชาธิปัตย์ รวมไปถึงนายชวนอีกด้วย เนื่องจากหากมีคดีเกี่ยวกับนายชวน “บัณฑิต” จะรับว่าความให้ทุกครั้ง
ส่วนผลงานที่สร้างชื่อเสียงในอดีตมีมากมาย เช่น คดีที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาว่าใส่ร้ายพรรคพลังประชาชน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติ “เอกฉันท์” ให้รอดพ้นจากการยุบพรรค
คดีที่ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ฟ้องหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 800 ล้านบาท จากนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ กรณีหมิ่นประมาทในการให้สัมภาษณ์ และคดีที่บริษัท ชินแซทเทลไลท์ฯ ฟ้องนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซึ่งท้ายสุดฝ่ายชินแซทเทลไลท์ ก็ขอยอมความถอนฟ้อง
นอกจากนี้ยังเคยว่าความให้ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กรณีเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในดคี “ซุกหุ้น” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จนถูกตุลาการศาลฯฟ้องหมิ่นประมาท แต่ก็สู้จนชนะคดีได้ !
ส่วน “ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง” นั้น มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ “สุเทพ” เป็นอย่างดี โดยเป็นนักกฎหมายให้ “สุเทพ” และคนตระกูล “เทือกสุบรรณ” โดยเคยร่วมแถลงข่าวกับ “แทน เทือกสุบรรณ” บุตรชาย “สุเทพ” กรณีรุกที่ดินเขาแพงมาแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เทเลคาสท์ มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือหุ้นของช่อง “บลูสกายแชนแนล” อีกด้วย
สำหรับผลงานที่ผ่านมานั้น เคยเป็นทีมกฎหมายร่วมกับ “ถาวร เสนเนียม” อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต่อสู้คดียุบพรรคไทยรักไทย ที่รับมอบหมายจาก “สุเทพ” จนชนะคดีมาแล้ว
ปัจจุบัน “ทวีศักดิ์” เปิดสำนักงานกฎหมายชื่อ คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด
ขณะเดียวกันเมื่อมองมายังฟากฝั่ง “สีแดง” ทนายความของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ อย่าง “นรวิชญ์ หล้าแหล่ง” และ “พิชิต ชื่นบาน” หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย
จะเห็นได้ว่า ในคดีถอดถอน-อาญา “ยิ่งลักษณ์” กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว กระบวนการต่อสู้ในชั้น ป.ป.ช. ของ “นรวิชญ์-พิชิต” แทบจะไม่ส่งผลสะเทือน หรือเปลี่ยนแปลงรูปคดีได้เลย จนกระทั่งถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปโดยปริยาย
สำหรับคดีความ “ยิ่งลักษณ์” ยังเหลือค้างอยู่ใน ป.ป.ช. อีกหลายคดี ขณะที่ของ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ดังนั้นต้องจับตาดูว่า “กึ๋น” ของทนาย “สีฟ้า” หรือ “สีแดง” ใครจะมีมากมีน้อย
และพอช่วยให้ “เจ้านาย” เอาตัวรอดได้มากกว่ากัน !
อ่านประกอบ : มีผู้บริสุทธิ์ตายด้วย! มติป.ป.ช.แจ้งข้อหา"มาร์ค-สุเทพ"สลายแดงปี’53