เบื้องหลัง! ปปง.-ดีเอสไอ กินแห้ว บุกค้นบ.เสี่ยนครปฐม มือรับเช็ค"ศุภชัย"
"...หลังจากที่มีการนำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัทและไม่พบนายวัฒน์ชานนท์ ขณะที่มีการยืนยันข้อมูลจาก รปภ.ว่า นายวัฒน์ชานนท์ ได้ส่งคนเข้ามาขนของก่อนหน้าที่หมายจะออกแล้ว เลยทำให้เจ้าหน้าหน่วยตรวจสอบไม่สบายและมีความกังวลใจกันว่า อาจจะมีข้อมูลรั่วจากคนบางกลุ่ม หรือเกลือเป็นหนอน ที่แอบนำข้อมูลไปแจ้งกับนายวัฒน์ชานนท์ ให้รู้ตัวก่อน ถึงเข้ามาขนของออกไปได้ก่อนแบบนี้"
ปฏิบัติล่าไล่อายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เริ่มต้นอีกครั้ง ในช่วงเช้าวันที่ 9 มี.ค.58 เวลา 9 โมงตรง ที่ผ่านมา
เมื่อ นายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงาน ปปง. ร่วมกับ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สารสิน ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยเอก กลวิตร บุนนาค ผู้อำนวยการประจำสำนักปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัท จีแอลโอดับบลิว ดีเวลล็อปเม้น จำกัด ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารรัฐประชามาร์เก็ต (ตลาดสนามหลวง 2) ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ
หลังมีการตรวจสอบพบว่า นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ หนึ่งรายชื่อบุคคลที่ได้รับเช็คเงินสดจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทแห่งนี้ ต่อมานักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง
โดยบริษัทดังกล่าว มีทรัพย์สินเป็นอาคาร มูลค่าประมาน 92 ล้านบาท โดยชื่อว่า "รัฐประชา" รวมทั้งซื้อที่ดินที่ติดกับสนามหลวง 2 อีก เนื้อที่ประมาน 20 ไร่
ขณะที่ ปปง. มีหลักฐานชื่อได้ว่า นายวัฒน์ชานนท์ กับพวก รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์จะได้ซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
จึงได้ทำการขอหมายค้นสถานที่ดังกล่าวเพื่อ 1)พบและยึดสิ่งของที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายว่สด้วยการป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน 2) พบและยึดสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา 3)พบและยึดของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด 4)พบสิ่งของที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานตามกฎกายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจค้น ไม่พบเอกสารหลักฐานสำคัญ รวมถึงตัวนายวัฒน์ชานนท์ด้วย
พบเพียงแต่ผู้จัดการ ที่ได้นำปปง. และ ดีเอสไอ เข้าตรวจค้นตามจุดต่างๆ และพบเพียงเอกสารเกี่ยวกับการเช่าล็อคขายสินค้าโอทอป จำนวน 245 ห้องให้เช่าเดือนละ4,500บาท เป็นเงิน1,102,500บาท รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการเงินเจ้าหน้าที่บัญชีเรียกให้มาพบแต่ไม่มา ชื่อนางสาวอริสรา นวอิสรารักษ์ เป็นบุตรสาว และตู้เซฟ1 ตู้ ถูกเปิดไว้ รวมถึงแฟ้มเปล่าอีกหลายอัน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันข้อมูลจากหนึ่งในทีมงานตรวจค้นทรัพย์สินของ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ว่า ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ทีมงานได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปคอยซุ่มดูบริษัท จีแอลโอดับบลิว ดีเวลล็อปเม้น จำกัด มาแล้ว และพบว่ายังมีคนเข้ามาทำงานตามปกติ ส่วนนายวัฒน์ชานนท์ ไม่ได้หลบหนีไปไหน
จนกระทั่งในช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีรถปิคอัพคันหนึ่ง เข้ามาขนของออกจากบริษัทออกไปจำนวนหนึ่ง
จากการสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัทฯ ได้รับการยืนยันว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีรถปิคอัพคันหนึ่ง เข้ามาขนของออกไปแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าที่ ปปง.จะได้รับอนุมัติหมายค้นในช่วงเวลาประมาณบ่ายสองของวันเดียวกัน
ระยะเวลาห่างกันแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น!
ส่วนเหตุผลว่าทำไมเมื่อมีการอนุมัติหมายค้นออกมาแล้วในช่วงบ่ายสอง วันที่ 6 มี.ค.58 ถึงไม่ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นวันนั้นเลย สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้ ปปง.ได้มีการขออนุมัติหมายค้นในช่วงเช้าวันที่ 9 มี.ค. และมีการนัดหมายกับดีเอสไอ ที่จะเข้าตรวจค้นในช่วงเช้าวันที่ 9 มี.ค. ซึ่งทาง ปปง. ได้ยืนยันเวลานัดหมายเดิม พร้อมระบุว่าจะมี "ผู้ใหญ่" ร่วมเดินทางมาด้วย
หลังจากที่มีการนำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัทและไม่พบตัวนายวัฒน์ชานนท์ ขณะที่มีการยืนยันข้อมูลจาก รปภ.ว่า นายวัฒน์ชานนท์ ได้ส่งคนเข้ามาขนของออกไปก่อนหน้าที่หมายค้นจะออกแล้ว ทำให้เจ้าหน้าหน่วยตรวจสอบไม่สบายและมีความกังวลใจกันว่า อาจจะมีข้อมูลรั่วจากคนบางกลุ่ม หรือเกลือเป็นหนอน ที่แอบนำข้อมูลไปแจ้งกับนายวัฒน์ชานนท์ ให้รู้ตัวก่อน ถึงเข้ามาขนของออกไปได้ก่อนแบบนี้
ขณะที่ประวัติของ นายวัฒน์ชานนท์ จากการสืบสวนข้อมูลเชิงลึก ก็พบว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองหลายคน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขนทรัพย์สินและเอกสารสำคัญออกไปแล้วจำนวนมากแล้ว แต่การเข้าตรวจค้นข้อมูลบริษัทฯ ของ นายวัฒน์ชานนท์ ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบสัญญาปล่อยกู้เงิน มูลค่าหลายพันล้านบาท ให้กับบุคคลบางกลุ่ม และบริษัท ก็ถือว่ายังไม่คว้าน้ำเหลวเสียที่เดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงาน ปปง. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเข้าตรวจค้นบริษัทของนายวัฒน์ชานนท์ ครั้งนี้
เบื้องต้น นายนพดล คาดการณ์ว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้นายวัฒน์ชานนท์ ส่งคนมาขนของออกไปได้ก่อนที่จะมีการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ อาจจะเป็นเพราะนายวัฒน์ชานนท์ คงจะมีการประเมินล่วงหน้าได้ว่าจะถูกเข้าตรวจค้นแน่นอน เพราะชื่อของนายวัฒน์ชานนท์ ปรากฎอยู่ในรายชื่อบุคคลที่ถูกระบุว่าได้รับเงินจากนายศุภชัย และมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อถามว่า แต่การเข้ามาขนของเกิดขึ้น ก่อนหน้าที่ ปปง.จะได้รับอนุมัติหมายค้นเพียงแค่ 1 ชั่วโมง นายนพดล ไม่ได้ตอบคำถามชัดเจน ระบุเพียงแค่ว่า ไม่แน่ใจว่ามีการเข้ามาขนของออกไปตอนไหน
เมื่อถามว่า นายวัฒน์ชานนท์ ยังอยู่ในประเทศไทยหรือหนีออกไปต่างประเทศแล้ว นายนพดล ตอบว่า "น่าจะยังอยู่ในประเทศไทย เพราะในช่วงเช้าก่อนที่จะมีการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ยังได้มีการโทรศัพท์ไปแจ้งให้ นายวัฒน์ชานนท์ มาเปิดประตูบริษัท ซึ่งนายวัฒน์ชานนท์ ก็รับทราบแต่ไม่ยอมมา"
"ยืนยันว่าเรื่องของนายวัฒน์ชานนท์ ทางปปง. จะทำการตรวจสอบข้อมูลต่อไป ปปง.เราตรวจสอบคดีนี้อย่างเต็มที่แน่นอน" นายนพดลระบุ
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และ สหกรณ์บริการชุมชน รัฐประชา จำกัด ปรากฎชื่ออยู่ใน เช็คจำนวน 2 ใบ รวมวงเงิน 450 ล้าน ที่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สั่งจ่ายให้ในช่วงปี 2552 จากจำนวนเช็คทั้งหมด 11 ใบ รวมวงเงิน 1,112,180,811 บาท
โดยมีการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น อ้างว่าเงินที่จ่ายให้กับ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และ สหกรณ์เครดิตยูเนียนรัฐประชา เพื่อนำไปร่วมลงทุนในกิจการต่างๆ ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี
ขณะที่ ปัจจุบัน "ศุภชัย ศรีศุภอักษร" และ "วัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์" อยู่ระหว่างการถูกอายัดทรัพย์จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
หลังจากถูกตรวจสอบพบว่า มีส่วน "พัวพัน" ขบวนการยักยอกเงินของ สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น วงเงินหลายพันล้านบาท
(อ่านประกอบ : ขุมธุรกิจ "วัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์" โผล่รับเช็ค450 ล.ล็อตเดียว“ธมมชโย”)
หมายเหตุ : ภาพประกอบ ดีเอสไอ ตรวจค้นบริษัท จากโพสต์ทูเดย์