เช็คชื่อ-เบอร์โทรในบัญชีส่วยน้ำมัน พบตรงกับ จนท.ตัวจริง
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีการเผยแพร่เอกสารอ้างเป็นบัญชีส่วยน้ำมันเถื่อน โยงถึงเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วย ขณะที่การตรวจสอบรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏในเอกสาร พบว่าตรงกับนายตำรวจที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ปัจจุบัน สวนทางคำชี้แจงของโฆษกตำรวจที่อ้างว่าเป็นข้อมูลเก่า
พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องบัญชีส่วยที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแล้ว เบื้องต้นได้ให้หน่วยในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และในเรื่องเดียวกันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดี จากข้อมูลที่ปรากฏยังไม่สามารถบอกได้ว่าเอกสารที่ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นของจริงหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน
ส่วน พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนกลางและตอนบน เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อได้
ด้านความเคลื่อนไหวในส่วนกลาง พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ผอ.ศปนม.ตร.) ได้ทำหนังสือบันทึกด่วนที่สุดถึง พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีข่าวปรากฏในโซเชียลมีเดียว่า มีตำรวจในกองบัญชาการต่างๆ และบุคลใน ศปนม.ตร. เข้าไปมีส่วนเรียกรับผลประโยชน์จากธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรให้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติได้ทันที
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังตรวจสอบหาต้นตอผู้เผยแพร่เอกสาร และที่มาของรายชื่อในเอกสารที่อ้างว่าเป็นบัญชีส่วย เนื่องจากยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นบัญชีปลอมหรือไม่ เพราะเป็นเพียงเอกสารที่แชร์กันทางอินเทอร์เน็ต และไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวข้องกับนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ นักค้าน้ำมันเถื่อนชื่อดังในภาคใต้ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคำพิพากษาจำคุกของศาลจังหวัดปัตตานีหรือไม่
อีกทั้งบุคคลที่อยู่ในบัญชีส่วนใหญ่เป็นชื่อเล่น และไม่มีการระบุยศ จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นบัญชีเก่า หรือผู้เผยแพร่อาจต้องการกลั่นแกล้งกันก็ได้ ทั้งชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ก็สามารถหาจากข้อมูลเปิด แล้วนำมาอ้างถึงได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน หากทราบว่าบัญชีรายชื่อนี้เป็นของใคร ก็อาจจะขอให้บุคคลผู้นั้นมาให้ข้อมูล หรือหากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็จะดีมาก
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อตรวจสอบข้อมูลชื่อเล่น ชื่อย่อ และเบอร์โทรศัพท์ของบุคคลที่ถูกระบุจากเอกสารว่ารับส่วยน้ำมันเถื่อน โดยเฉพาะตำรวจแล้ว พบว่าเกือบทั้งหมดมีตัวตนจริง และยังอยู่ในตำแหน่งตามที่ปรากฏในเอกสาร บางรายเพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งช่วงปลายปีที่แล้วหรือต้นปี 2558 ที่ผ่านมานี้เอง จึงเชื่อว่าเอกสารฉบับนี้น่าจะเป็นหลักฐานการจ่ายเมื่อไม่นานนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ภาพเอกสารที่อ้างว่าเป็นบัญชีส่วยน้ำมันเถื่อนซึ่งถูกโพสต์ขึ้นบนหน้าเฟซบุ๊คที่ไม่ระบุตัวตนแอคเคาท์หนึ่ง