"ยิ่งลักษณ์" จะหาเงินจากไหนมาชดใช้คดีข้าว 6 แสนล.? "ทักษิณ" อยู่ไหน?
"..หากคดีนี้ ศาลตัดสินว่ามีความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเงินหรือทรัพย์สินเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ได้หรือไม่ และสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินจากแหล่งไหนมาใช้ได้บ้าง.. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี "พี่ชาย" มีความคิดเห็นอย่างไร และสามารถให้ความช่วยเหลืออะไร "น้องสาว" ได้บ้าง?.."
จนถึงขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า หนึ่งใน "บุคคล" ที่จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย จากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว คือ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี"
เมื่อ "นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ" ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมายืนยันเป็นทางการว่า ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ป.ป.ช. จะส่งหนังสือให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการตามมาตรา 73/1 วรรคท้ายแห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพื่อเรียกค่าเสียหายกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และผู้เกี่ยวข้อง กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เรียกค่าเสียหายกับผู้เกี่ยวข้องกรณีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ "จีทูจี" ไปแล้ว สำหรับมูลค่าความเสียหายทั้ง 2 คดี ที่ ป.ป.ช.ใช้เป็นฐานในการดำเนินคดีอาญา เป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท
"ในหนังสือที่ ป.ป.ช.จะส่งให้กระทรวงการคลัง จะเป็นการส่งข้อมูลตามฐานความผิดทางอาญา ซึ่งกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น นอกจากความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐแล้ว ยังต้องรับผิดชอบในกรณีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐด้วย เนื่องจากมีฐานะเป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งหมด" นายปานเทพ ระบุ
เมื่อมีการสอบถามความชัดเจนว่า มีการตั้งข้อสังเกตจากคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าหากจะมีการฟ้องคดีแพ่ง ควรจะต้องรับผิดชอบทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายปานเทพ ระบุว่า หนังสือที่ป.ป.ช.ส่งไป จะเป็นไปตามฐานความผิดที่ป.ป.ช.ได้ชี้มูลไปแล้ว ซึ่งกรณีนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่วนจะต้องรับผิดชอบทั้ง ครม.หรือไม่ ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณา
"การดำเนินคดีอาญา คู่ขนานไปกับการดำเนินคดีทางแพ่ง กระทรวงการคลังรออยู่แล้วเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนจะฟ้องเรียกค่าเสียหายทั้งหมดหรือไม่ อยู่ที่กระทรวงคลัง เพราะมีฐานคำนวณคิดมูลค่าความเสียหายอยู่แล้ว" นายปานเทพระบุ
สำหรับมาตรา 73/1 ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ระบุว่า กรณีที่มีการฟ้องคดีอาญาผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หากการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายในทางทรัพย์สินหรือเป็นการละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐหรือบุคคลอื่น อัยการสูงสุดอาจยื่นคําร้องขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนการกระทําหรือคําสั่งอันมิชอบที่เป็นการละเมิดนั้นด้วยก็ได้
คำถามที่น่าสนใจ คือ หากคดีนี้ ศาลตัดสินว่ามีความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเงินหรือทรัพย์สินเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ได้หรือไม่ และสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินจากแหล่งไหนมาใช้ได้บ้าง
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.ครบ 1 ปี ต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557
น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 9,456,887 บาท
เป็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 8,981,387 บาท (บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ได้ชำระหนี้เงินกู้ยืมคืนให้ผู้ยื่นบางส่วน 1 ล้านบาท) ของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรส (ไม่จดทะเบียน) 475,000 บาท และของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500 บาท
มีรายจ่ายทั้งหมด 5,280,000 บาท
เป็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 3,920,000 บาท ของนายอนุสรณ์ 766,000 บาท และของบุตร 594,000 บาท
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 693,866,287 บาท
เป็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 615,844,660 บาท (เงินสด 14 ล้านบาท) ของนายอนุสรณ์ 76,546,159 บาท และของบุตร 1,475,466 บาท
มีหนี้สินทั้งสิ้น 30,562,708 บาท (ยืม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพี่ชาย)
เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่งล่าสุดคือนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 28,747,770 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 14,670,000 บาท มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 639,979,595 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 28,847,269 บาท (ยืม พ.ต.ท.ทักษิณ)
เท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีรายได้ลดลง 19,290,883 บาท มีรายจ่ายลดลง 9,390,000 บาท มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 53,886,692 บาท มีหนี้สินเพิ่มขึ้น 1,715,439 บาท
ส่วนอดีต ส.ส. ที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เช่น นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 17,828,911 บาท มีหนี้สิน 242,582 บาท
เมื่อเทียบกับกรณีพ้นจากตำแหน่งแจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 18,039,209 บาท เท่ากับว่านายบุญทรงมีทรัพย์สินลดลง 452,880 บาท
ส่วนนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 39,377,047 บาท ไม่มีหนี้สิน
เมื่อเทียบกับกรณีพ้นจากตำแหน่งแจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 41,503,864 บาท เท่ากับว่านายภูมิมีทรัพย์สินลดลง 2,126,817 บาท
ทั้งนี้ หากนำทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวน 615,844,660 บาท นายบุญทรง จำนวน 17,828,911 บาท และนายภูมิ 39,377,047 บาท มารวมกันจะพบว่ามีจำนวนรวมอยู่ที่ 751,072,245 บาท
ขณะที่ตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวถูกระบุว่าเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท
เมื่อตัวเลขออกมาแตกต่างกันจำนวนมากเช่นนี้ และไม่น่าจะเพียงพอต่อตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้น
คำถามสำคัญที่ตามมา ก็ยังคงวนอยู่ที่ประเด็มเดิม โดยเฉพาะในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ หากคดีนี้ ศาลตัดสินว่ามีความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเงินหรือทรัพย์สินเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ได้หรือไม่ และสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินจากแหล่งไหนมาใช้ได้บ้าง
แต่สิ่งที่น่าสนใจ และไม่ควรมองข้าม คือ ในความยากลำบากทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะการต่อสู้คดีความทั้งทางอาญาและแพ่ง ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้
ยิ่งเมื่อ "คสช." มีคำสั่งออกมาชัดเจน ไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางออกนอกประเทศ เพราะมีกำหนดการนำตัวไปส่งฟ้องศาลวันที่ 19 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.
หลายคนคงมีคำถามในใจเหมือนๆ กันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี "พี่ชาย" มีความคิดเห็นอย่างไร และสามารถให้ความช่วยเหลืออะไร "น้องสาว" ได้บ้าง?
"ทักษิณ" อยู่ไหน?
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
หมายเหตุ: ภาพประกอบจาก bloggang.com
อ่านประกอบ:
สถานะ 8คดี "ยิ่งลักษณ์" ในมือ ป.ป.ช. หลังคดีข้าว! "ลำบาก"ยิ่งกว่า"ลำบาก"
ชะตากรรม "ยิ่งลักษณ์" ก่อนอวสานตระกูล "ชินวัตร" บนเส้นทางการเมือง?