เอ็กซเรย์ 347 ล.“ชูวิทย์”พ้น ส.ส. 1 ปี เงินลงทุนลูกวูบ 150 ล.-ให้กู้แบงก์ 10 ล.
ผ่าละเอียด!ทรัพย์สิน“ชูวิทย์”หลังพ้น ส.ส. 1 ปี พบเงินลงทุนบุตรฯลดกว่า 150 ล้าน ซื้อสลากออมสิน 4 แสน ขายที่ดิน 2 แปลง 8 ล้าน ยกที่ดินให้ลูกชาย-หญิงกว่า 10 ล้าน ปล่อยกู้แบงก์ทิสโก้เพิ่มอีก 10 ล้าน รายได้ลดกว่า 31 ล้าน ทรัพย์สินลด 187 ล้าน
เงินลงทุนของบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ลดลงกว่า 150 ล้านบาท ภายหลังพ้นตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี แต่ซื้อสลากออมสิน 4 แสนบาท ขายที่ดิน 2 แปลง กว่า 8 ล้านบาท พร้อมยกที่ดินให้บุตรชาย-บุตรสาว 5 แปลง รวมไปถึงปล่อยกู้แบงก์ทิสโก้เพิ่มอีก 10 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายชูวิทย์ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 แจ้งว่า มีเงินลงทุนทั้งหมด 183,399,000 บาท เป็นของนายชูวิทย์ 445,000 บาท ของบุตรฯ 2 คน 182,954,000 บาท
อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับช่วงพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 นายชูวิทย์ แจ้งว่า มีเงินลงทุนทั้งหมด 333,523,000 บาท เป็นของนายชูวิทย์ 45,000 บาท ของบุตรฯ 3 คน 333,478,000 บาท
เท่ากับว่า นายชูวิทย์ มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 4 แสนบาท และบุตรฯ มีเงินลงทุนลดลง 150,524,000 บาท
ส่วนเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น 4 แสนบาทของนายชูวิทย์นั้น จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเงินกองทุนสลากออมสินออมสินพิเศษ ได้มาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า นายชูวิทย์ ได้ให้ที่ดินแก่บุตร 2 คน 5 แปลง มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้แก่
1.ยกให้ น.ส.ตระการตา กมลวิศิษฏ์ 3 แปลง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 คือโฉนดเลขที่ 98432, 98433 และ 98434 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการไม่มีสิ่งปลูกสร้าง
โดยที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายตีราคารวมกันไว้เป็นจำนวนเงิน 6,048,000 บาท และยกให้ด้วยความเสน่หาเนื่องจากผู้รับเป็นบุตรสาว
2.ยกให้ นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ 2 แปลง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 คือโฉนดเลขที่ 98430 และ 98431 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง
โดยที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายตีราคารวมกันไว้เป็นจำนวนเงิน 4,032,000 บาท และยกให้ด้วยความเสน่หา เนื่องจากผู้รับเป็นบุตรโดยชอบตามกฎหมาย
เบ็ดเสร็จราคาที่ดินทั้งหมด 10,080,000 บาท
ขณะเดียวกันได้ขายที่ดิน 3 แปลง ได้แก่
1.โฉนดเลขที่ 98435 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ให้แก่นายปัญญพงศ์ มาณีย์สิริ และนางณัฏฐ์พิชา มาณีย์สิริ มูลค่า 2,646,000 บาท
2.โฉนดเลขที่ 98441 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ให้แก่นายอนุชา สาครสุคนธ์ และนางอนุชา สาครสุคนธ์ มูลค่า 2,972,500 บาท
3.โฉนดเลขที่ 98442 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ให้แก่ น.ส.กนกวรรณ วีตระกูล มูลค่า 2.7 ล้านบาท
รวมมูลค่าทั้งสิ้น 8,318,000 บาท
พร้อมกันนี้ยังแจ้งว่า บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ปล่อยเงินให้กู้ยืม บริษัท ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ครั้งละ 5 ล้านบาท รวมทั้งหมด 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า นายชูวิทย์ มีเงินให้กู้ยืมแก่ บมจ.ธนาคารทิสโก้ 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2556 10,014,279 บาท และบุตรฯ 3 ครั้ง วันเดียวกัน ครั้งละ 5 ล้านบาท รวมมูลค่า 15 ล้านบาท นั้น
ปัจจุบันได้หายไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 8,318,500 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 2,255,200 บาท มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 347,785,714 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,229,342 บาท
เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 40,245,720 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 2,255,200 บาท มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 534,968,669 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 5,865,351 บาท
เท่ากับว่า นายชูวิทย์ มีรายได้ลดลง 31,927,220 บาท มีรายจ่ายเท่าเดิม มีทรัพย์สินลดลง 187,182,955 บาท มีหนี้สินลดลง 3,636,009 บาท
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
หมายเหตุ : ภาพประกอบ นายชูวิทย์ จาก siamintelligence