" ซีเอสล็อกซอินโฟ"อ้างคสช.สั่งให้"อิศรา" บล็อกข่าวน้องชายประยุทธ์
"ซีเอส ล็อกซอินโฟ" อ้าง คสช. สั่งออนไลน์ให้ "อิศรา" บล็อกข่าวทรัพย์สินน้องชาย "ประยุทธ์" เหตุเข้าข่าย "ยุยง-ปลุกระดม" ระบุใช้อำนาจประกาศ ฉบับที่ 26/2557 ดำเนินการ แต่ "ปลัดไอซีที" ไม่มีข้อมูล - ล่าสุด กองบรรณาธิการ ลงมติไม่มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร เอาข่าวขึ้นต่อ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.58 ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.isranews.org (สำนักข่าวอิศรา) ได้รับแจ้งคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ระงับการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ พล.อ ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วงเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยระบุว่า "มีลักษณะยุยง+ปลุกระดม ปิดโดยประกาศ คสช.ฉบับที่ 26/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค.57"
เบื้องต้น ภายหลังได้รับแจ้งคำสั่งจากคสช.ดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ ก็ตกใจ รีบทำการปิดข่าวเรื่องนี้ ไม่ให้สามารถเผยแพร่ในเว็บไซต์ได้ตามปกติ ก่อนที่จะแจ้งข้อมูลเข้ามาให้สำนักข่าวอิศราได้รับทราบในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามีที่มาอย่างไร สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อกลับไปยังเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่แจ้งคำสั่ง คสช.ให้ระงับการเผยแพร่ข่าว ปรากฎว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของ บริษัท CSLOXINFO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และได้รับคำตอบว่า ให้ดำเนินการตามที่แจ้งมา เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ให้แจ้งผลเข้ามา จะได้แจ้งให้คสช.รับทราบอีกครั้ง
ต่อมานายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อขอทราบความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ปลัดไอซีที ระบุว่า ขอเวลาในการตรวจสอบข้อมูลก่อน จากนั้นในวันรุ่งขึ้น ปลัดไอซีที ได้ติดต่อกลับมายังนายประสงค์ พร้อมแจ้งว่า ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างชัดเจน
ทั้งที่ ในประกาศ คสช. ฉบับที่ 26/2557 เรื่อง การดูแล และสอดส่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ มอบหมายให้ ปลัดไอซีที แต่งตั้งบุคคลเป็นคณะทํางานด้านสื่อสังคมออนไลน์ มีอํานาจหน้าที่ ดังนี้
1.ตรวจสอบ หรือเข้าถึงข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ การใช้เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ ทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง และคลิปเสียง ที่แพร่ในเชิงปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือและไม่เคารพกฎหมาย ตลอดจนต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยประสานกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
2. มีอํานาจระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ ทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง และคลิปเสียง ที่ฝ่าฝืนตามข้อ 1
3. ใช้อํานาจหน้าที่ตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อดําเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทําในลักษณะดังกล่าว รวมทั้งร่วมมือและประสานงานกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เบื้องต้น ทางสำนักข่าวอิศรา จึงได้แจ้งไปยัง บริษัท CSLOXINFO เพื่อขอให้ส่งหนังสือสั่งการ จาก คสช. ที่เป็นลายลักษณ์อักษร มาให้ทางสำนักข่าวอิศราได้รับทราบได้รับคำตอบว่า เป็นการประสานงานผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่มีจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อไม่หนังสือสั่งการอย่างชัดเจน ในระหว่างนี้ ทางกองบรรณาธิการ จึงเห็นควรให้ทำการเปิดหน้าเว็บดังกล่าวอีกครั้ง
นายประสงค์ กล่าวว่า เนื่องจากไม่ทราบว่าคำสั่งที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแจ้งมานั้นเป็นคำสั่ง คสช. จริงหรือไม่ เพราะไม่มีเอกสารหลักฐานใด พิสูจน์ว่าเป็นคำสั่ง คสช.จริง อ้างลอยๆ ว่าเป็นการติดต่อทางออนไลน์ และถึงแม้จะเป็นคำสั่ง คสช. จริงก็ต้องพิจารณาว่าใครเป็นผู้สั่ง ผู้สั่งมีอำนาจจริงหรือไม่ และที่สำคัญ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่ถูกต้องหรือไม่เพราะตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 26 /2557 ได้ระบุชัดเจนว่าปลัดกระทรวงไอซีที ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ และต้องดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งตามบทบัญัญัติของกฎหมายในเรื่องการปิดกั้นเว็บไซต์ ก็มีแต่พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งการปิดกั้น เว็บไซต์จะต้องอาศัยอำนาจของศาลเท่านั้น
สำหรับประกาศ คสช. ฉบับที่ 26/2557 มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง การดูแล และสอดส่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์
ประกาศดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒/๒๕๕๗ เรื่อง ขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๗/๒๕๕๗ เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ นั้น เพื่อให้การดําเนินการตามประกาศดังกล่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย จึงให้ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แต่งตั้งบุคคลเป็นคณะทํางานด้านสื่อสังคมออนไลน์ มีอํานาจหน้าที่ ดังนี้
๑. ตรวจสอบ หรือเข้าถึงข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ การใช้เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ ทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง และคลิปเสียง ที่แพร่ในเชิงปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือและไม่เคารพกฎหมาย ตลอดจนต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยประสานกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
๒. มีอํานาจระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ ทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง และคลิปเสียง ที่ฝ่าฝืนตามข้อ ๑
๓. ใช้อํานาจหน้าที่ตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อดําเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทําในลักษณะดังกล่าว รวมทั้งร่วมมือและประสานงานกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เพื่อดําเนินการตามคําสั่งดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"