บอร์ด สปสช.เคาะแนวบริหารงบฯ กองทุน ปี 58 ใช้ตามประกาศเดิม
บอร์ด สปสช.เคาะแนวบริหารงบฯ กองทุนใช้ตามประกาศเดิม ปรับวิธีจัดสรรตามรายละเอียดอนุฯ การเงินการคลังนำเสนอ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญ คือ การปรับแก้แนวทางการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558
ศ.นพ.รัชตะ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง และคณะอนุกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ที่มีมติล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ปี 2558 ยังสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องปรับแก้ประกาศกองทุนที่บอร์ด สปสช.มีมติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น วงเงินระดับเขตของงบฯ ผู้ป่วยนอก งบฯ ผู้ป่วยใน งบฯ สร้างเสริมสุขภาพ (PP-basic) และการจัดสรรแก่หน่วยบริการที่แยกเป็นรายการต่าง ๆ บนฐานประชากร โครงสร้างอายุ และผลงานบริการ
สำหรับการปรับปรุงการจัดสรรงบประมาณสำหรับหน่วยบริการ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) รมว.สธ. กล่าวว่า การใช้ตัวเลขเงินเดือนมาหักรายได้ของหน่วยบริการ สป.สธ. ให้ใช้ตัวเลข GFMIS บัญชีถือจ่ายเงินเดือนของกรมบัญชีกลางของหน่วยบริการทุกระดับเป็นตัวเลขอ้างอิง และมีการกันเงินไว้เพื่อปรับเกลี่ย สำหรับบริหารระดับประเทศไม่เกิน 1% และระดับเขตไม่เกิน 2% ตามประกาศเดิม และสำหรับบางเขตที่อาจต้องกันเงิน 2% แต่ไม่เกิน 5% ให้คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังพิจารณาอนุมัติตามเหตุผลความจำเป็นของเขตนั้น ๆ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนมีนาคม 2558
“เพื่อให้ได้ตัวเลขประมาณการรายรับขั้นต่ำคงที่ของหน่วยบริการ สป.สธ.มีความชัดเจนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ โดยไม่ให้มีการตั้งหนี้และหักจากเงินที่จะโอนให้ใหม่ อันเกิดจากผลงานต่ำกว่าประมาณการในปลายปีงบประมาณ ให้ประมาณการรายจ่ายในแต่ละหน่วยบริการให้เหมาะสมชัดเจนมากขึ้น” ศ.นพ.รัชตะ กล่าว และว่า พร้อมกันนี้ให้เหลือสำรองไว้ตามจ่ายตามผลงานของหน่วยบริการ นอกจากนี้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และศูนย์สาธารณสุขชุมชนที่มีความจำเป็นสำหรับการให้บริการในพื้นที่ประชากรเบาบางและห่างไกล
รมว.สธ. กล่าวอีกว่า สำหรับการทำงานระดับเขตให้มีคณะกรรมการร่วม และปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต (อปสข.) ของ สปสช.ให้มีตัวแทนหน่วยบริการทุกสังกัด (ไม่ใช่เฉพาะ สป.สธ.) โดยยังคงสัดส่วนขององค์ประกอบจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม นอกจากนี้รายการบริการกรณีเฉพาะให้ร่วมกันกำหนดเป้าหมายได้ในระดับเขต (regional target) โดยเริ่ม 2 กรณีทันที คือ รายการผ่าตัดตาต้อกระจก (cataract) และโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง(Asthma/COPD)
“เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและพัฒนาการจัดบริการภายในเขตได้อย่างต่อเนื่องในระยะสั้น ขอให้ สปสช. และ สป.สธ. ติดตามและเสนอข้อมูลบริการให้ระดับเขตให้กับทุกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอ ตามความจำเป็นเพื่อการปรับปรุงระบบต่อไป” ศ.นพ.รัชตะ กล่าว และว่าระยะยาวขอให้เร่งรัดการจัดตั้งหน่วยงานกลาง เพื่อทำหน้าที่ธุรกรรมเบิกจ่ายระดับชาติ (national data clearing house) ให้สามารถเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลพื้นฐานต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบกรอบการตั้งงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2559 เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป .