6 ปีแรกของชีวิต ยูนิเซฟ จี้รัฐเพิ่มการลงทุนพัฒนาเด็กเล็ก
ยูนิเซฟจุดประกายสังคม เปิดตัวโครงการ "Best Start" ดึง 6 ศิลปินชื่อดังชวนคนไทยเปลี่ยนอนาคตเด็ก หนุนรัฐฯ แก้ปัญหาพัฒนาเด็กเล็กก่อนสายเกินไป
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ร่วมกับภาคี และเหล่าศิลปินชื่อดัง อาทิ หนูดี วนิษา เรซ, ญารินดา บุนนาค,บอย โกสิยพงษ์,สุหฤท สยามวาลา,โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล,และนิ้วกลม สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ เปิดตัวโครงการ Best Start "หกปีแรกของชีวิต คือ หกปีทองของเด็ก" ณ แสนสิริ เลานจ์ ชั้น 3 สยามพารากอน
นางวาเลรี ตาตอน รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวเปิดโครงการ Best Start โดยต้องการเรียกร้องให้พ่อแม่ สาธารณชน ตลอดจนรัฐบาล และทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศไทยในการฝ่าฟันความท้าทายต่างๆในอนาต
"ยูนิเซฟเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะในช่วงหกปีแรกของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เนื่องจากสมองของเด็กพัฒนาสูงสุด การพัฒนาเด็กในช่วงนี้จะเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และพัฒนาตลอดชีวิต ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตเด็กและอนาคตของชาติด้วย อย่างไรก็ตามพบว่า ยังมีเด็กปฐมวัยจำนวนมากในประเทศไทยที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่กระทบต่อพัฒนาการของพวกเขา"
รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า เราไม่สามารถปล่อยให้เวลาที่มีค่าที่สุดนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะอาจจะสายเกินแก้ เมื่อผ่านช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนี้ไปแล้ว
"หากประเทศไทยต้องการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน ควรเน้นการพัฒนาเด็กปฐมวัยนับตั้งแต่ตอนนี้"
ด้านนางสาวนภัทร พิศาลบุตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวถึงองค์การยูนิเซฟที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กเล็ก ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ในระดับนานาชาติตื่นตัวกันมากในเรื่องของการพัฒนาเด็กปฐมวัย เพราะมีงานวิจัยหลายอันที่แสดงให้เห็นว่า การลงทุนสำหรับเด็กเล็กส่งผลดีตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ส่งผลดีต่อตัวเด็กแต่ส่งผลต่อประเทศชาติและการพัฒนาประเทศ
ขณะที่ผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2555 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่กระทบต่อพัฒนาการและความเป็นอยู่ของเด็กเล็กในประเทศไทย ทั้งในเรื่องโภชนาการ พัฒนาการของเด็ก ความสัมพันธ์ในครอบครัวและการศึกษา
ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กเพียงร้อยละ 12 เท่านั้นที่ได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรกของชีวิต หรือมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีถึงร้อยละ 16 ที่เตี้ยแคระเกร็นเนื่องจากขาดสารอาหารอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน นอกจากนี้มีเด็กวัย 3 ขวบถึงร้อยละ 25 ที่ไม่ได้เข้าเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรืออนุบาล
"ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะหันมาปูทางให้กับเด็กเล็กมากขึ้น เพื่อที่ประเทศไทยจะได้มีเด็กที่มีคุณภาพ"นางสาวนภัทร กล่าว
ด้าน ญารินดา บุนนาค (คุณแม่,นักร้อง,นักแสดง) กล่าวถึงการเลี้ยงดูลูกว่า เป็นอะไรที่ยากมาก และพ่อแม่ทุกคนเริ่มการเลี้ยงด้วยลูกด้วยความไม่มั่นใจว่าทำถูกหรือไม่ เช่น ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยมีข้อมูลหรือคำแนะนำที่ค่อยข้างผิดอยู่ โดยมีความเข้าใจผิดว่า เด็กเล็กควรจะให้น้ำไม่ใช่แค่ให้นมอย่างเดียว ขณะที่องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า เด็ก 6 เดือนแรกควรที่จะดื่มนมแม่อย่างเดียวไม่ควรที่จะให้น้ำ ซึ่งข้อมูลเช่นนี้ควรจะกระจายให้กับคนไทยได้มากที่สุด เพื่อที่จะเข้าใจและให้ความสำคัญเรื่องการให้นมแม่
ส่วน วนิษา เรซ (หนูดี) ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและการเรียนรู้ เจ้าของโรงเรียนอนุบาลวนิษา กล่าวว่า สมองของมนุษย์จะไม่มีวันหยุดเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ของเด็กจะเกิดขึ้นรวดเร็วมากและช่วงเวลาที่สำคัญคือ ช่วงอายุ 1-6 ขวบ จึงอยากให้พ่อแม่ให้ความสำคัญกับพัฒนาการของลูก
"พ่อแม่ในปัจจุบันมีความยากลำบากในการเลี้ยงดูลูก และมีความหวาดกลัว คนสมัยนี้ไม่กล้าที่จะมีลูก เพราะกลัวว่าลูกโตขึ้นไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตจะมีอันตรายหรือเปล่า ฝากถึงบุคคลทั่วไปให้ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่และปลอดภัยสำหรับเด็ก เป็นที่ที่สะดวกสำหรับพ่อแม่ที่จะเลี้ยงดูลูก เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์แล้วสภาพร่างกายไม่พร้อมเพื่อนร่วมงานไม่เข้าใจ แต่กฎหมายในปัจจุบันอนุญาตให้คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถไปทำงานได้ แม้กระทั่งไปเรียนก็ตาม จึงอยากให้เข้าใจหากเกิดอาการเจ็บป่วย หรือคุณแม่ให้นมลูก อยากสังคมให้ความสะดวกแก่คุณแม่ลูกอ่อน ทำให้คุณแม่ไม่ต้องเลี้ยงลูกด้วยความหวาดระแวง เพราะเด็กเหล่านี้ต่อไปจะเป็นอนาคตของชาติ"
สุดท้าย บอย โกสิยพงษ์ นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ตัวแทนทูตประจำโครงการ Best Start กล่าวเชิญชวนให้พ่อแม่หันมาใส่ใจกับการกระตุ้นพัฒนาการเด็กเล็กและให้เวลากับลูกมากขึ้น
"หกปีแรกของเด็กสำคัญมาก เปรียบเหมือนการสร้างบ้าน ซึ่งจำเป็นมากที่ต้องทำให้โครงสร้างแข็งแรงที่สุด และหกปีแรกของเด็กก็คือการสร้างโครงสร้างชีวิตของเด็กนั่นเอง การเล่นกับลูกเป็นการเริ่มสร้างสายใยระหว่างพ่อแม่ลูก และยังเป็นการกระตุ้นพัฒนาการสมองและทักษะต่างๆของลูก พ่อแม่คือของเล่นที่ดีที่สุดของลูก แต่น่าเสียดายที่มีพ่อไทยเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เล่นกับลูกเป็นประจำ ซึ่งหมายความว่า เราสูญเสียเวลาที่จะสร้างโครงสร้างนั้นให้แก่ลูกของเรา ดังนั้นอย่ารอให้สาย ควรหาเวลาให้กับลูกมากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Best Start"