ดูชัดๆ2กลุ่มธุรกิจขั้วอำนาจ"ทักษิณ-ปู"ก่อน"บิ๊กตู่"สั่งเบรกปตท.ขายหุ้นบางจาก
ค้นแฟ้มข้อมูล 2 กลุ่มธุรกิจขั้วอำนาจการเมืองเก่า "พิชัย ชุณหวชิร -มหากิจศิริ" สัมพันธ์ลึก "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ก่อน "ประยุทธ์" สั่งปตท.เบรกขายหุ้นบางจาก ดันใช้เงินกองทุนรวมวายุภักษ์ซื้อแทน - "สมหมาย ภาษี" รมว.คลัง ปัดให้ความเห็น
นับเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุด ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อคนวงใน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า แผนการขายหุ้นบางจาก ที่ปรากฎรายชื่อกลุ่มธุรกิจเอกชน 2 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการชิงดำเสนอราคาซื้อหุ้น คือ กลุ่มนายพิชัย ชุณหวชิร และอดีตผู้บริหารในกลุ่ม ปตท. ที่ตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ใช้ชื่อว่า บริษัท บีซีพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กับ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ของ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ
มีอันต้องหยุดล้มเลิกไป
เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบัญชาทางลับลงมาว่า ไม่ต้องการให้ ปตท.ขายหุ้นให้กับกลุ่มเอกชน ทั้ง 2 กลุ่ม นี้
เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มขั้วการเมืองเก่า ไม่อยากให้เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย
พร้อมสั่งให้กระทรวงการคลัง เข้ามาเจรจาขอซื้อหุ้นแทน โดยจะใช้แหล่งเงินจากกองทุนรวมวายุภักษ์ซึ่งล่าสุดทาง ปตท. ได้มีการส่งตัวแทนมาเจรจากับนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว
(อ่านประกอบ : "บิ๊กตู่" สั่ง ปตท. เบรกขายหุ้นบางจาก 2 กลุ่มขั้วการเมือง -ดันวายุภักษ์ซื้อแทน)
ทั้งนี้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ กลุ่มธุรกิจเอกชน 2 ราย มากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความเชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจเก่า
สำนักข่าวอิศรา นำข้อมูลมาไล่เรียงให้เห็นภาพชัดๆ อีกครั้งดังนี้
@ นายพิชัย ชุณหวชิร
นายพิชัย ชุณหวชิร จบบัญชีบัณฑิต (การบัญชี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และMBA (Business Administration) Indiana University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะได้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารการเงิน มหาวิทยาลัยมหาสารคามและยังเคยผ่านหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน (วปรอ.) รุ่นที่ 13
นอกจากนี้ ยังปรากฎข้อมูลเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต อาทิ ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program (DAP 49/2549),ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program (DCP 143/2554), ประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (หลักสูตร วตท.รุ่นที่ 5)
ข้อมูลจากเว็บไซต์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย พบว่า นับตั้งแต่ปี 2544 จนถึง 2556 นายพิชัย ชุณหวชิร เคยดำรงตำแหน่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ มาแล้วจำนวน 54 ตำแหน่ง ซึ่งในจำนวนตำแหน่งที่ได้รับไปทั้งหมด อยู่ในยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยตรงจำนวน 5 ตำแหน่ง และคาบเกี่ยวกันช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 4 ตำแหน่ง ได้แก่
ปี : พ.ศ.2556 กรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2556 ประธานกรรมการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2555 กรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2555 คณะกรรมการบริหาร ประธาน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2555 ประธานกรรมการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2554 กรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 59 , 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2554 ประธานกรรมการ กรรมการบริหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 59 , 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2554 กรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 59 , 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ปี : พ.ศ.2554 กรรมการ อดีตกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดปี 59 , 60 (สมัยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,สมัยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
นอกจากนี้ พิชัย ชุณหวชิร ยังเป็นกรรมการบริษัทไทยออยล์ เพาเวอร์ ในปี 2543-2554 ขณะที่ปี 2541-2554 เป็นกรรมการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม และในปี 2551-2552 ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. ส่วนปี 2550-2552 เป็นกรรมการ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (ประเทศไทย) โดยในปี 2548-2552 เป็นกรรมการ บริษัท ปตท. เคมิคอล ปี 2543-2552 เป็นประธานกรรมการ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย และในปี 2539-2552 เป็นกรรมการ บริษัท ทิพยประกันภัย อีกทั้งยังเป็นกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในปี 2546-2551 และปี 2544-2550 เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร บริษัท ปตท.
ขณะเดียวกัน ยังดำรงตำแหน่งต่างๆ ในกิจการที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน โดยเป็นประธานกรรมการ บริษัท ท็อป มารีไทม์ เซอร์วิส จำกัด ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายกสมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานอนุกรรมการบริหารการลงทุน กองทุนประกันสังคม และนายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา นายพิชัย ชุณหวชิร ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลงนามแต่งตั้งโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ ยังปรากฎเป็นหนึ่งในพยานปากเอก จำนวน 7 ปาก ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เรียกตัวมาให้ปากคำคดีปล่อยปละเลยละการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุในหนังสือยื่นคำร้องถึงเหตุผลการเสนอชื่อ "พิชัย ชุณหวชิร"เป็นมาพยานครั้งนี้ว่า นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นพยานผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านบัญชีและเป็นพยานบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า แต่ได้เสียสละยอมมาให้ปากคำเพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช."
ขณะที่ภารกิจสำคัญของนายพิชัย ต่อคดีนี้ อยู่ที่การ "หักล้าง" ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า รายงานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ที่มีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธาน สรุปผลการปิดบัญชีและภาระหนี้สิน ได้แก่ เงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเป็นรายงานที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ รับฟังไม่ได้ ตามหลักการทางบัญชี แม้จะเป็นบัญชีภาครัฐ
@ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
เข้าตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2537 ทุนปัจจุบัน 1,544,105,835 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 26/26-27 อาคารอรกานต์ ชั้น 8 ซอยชิดลม ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจเจ้าของเดินทะเลประเภทเทกอง ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือทะเล ธุรกิจบริการน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง ผลิตและจำหน่ายปุ๋ย ถ่านหินและธุรกิจบริการคลังเก็บสินค้าและขนส่ง
ปรากฎชื่อ นาย เฉลิมชัย มหากิจศิริ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด (ณ วันที่ 7 มกราคม 2558)
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดี ว่า นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ เป็นลูกชายของนายประยุทธ์ มหากิจศิริ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่มีความสนิทสนทกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างมาก
และยังเป็นหุ้นส่วนธุรกิจฮาวคัมของนายพานทองแท้ ชินวัตร
โดยในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นายเฉลิมชัย ก็ยังได้รับโอกาสเข้ามา "ฝึกงาน" การเมือง ในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วย
นอกเหนือจาก คนในตระกูล มหากิจศิริ ที่ถูกระบุชื่อเป็นเจ้าของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หากโฟกัสไปที่รายชื่อกรรมการของบริษัท ในปัจจุบัน จะพบว่าปรากฎชื่อ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตซีอีโอ ปตท. และเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมอยู่ด้วย
ย้อนข้อมูลของนายประเสริฐ จะพบว่า เคยปรากฎชื่อเป็นกรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเป็นกรรมการเครือ ปตท. 2 แห่ง คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และกรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด
และยังเป็นกรรมการ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) เพื่อการลงทุน บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจ ทั้งสองบริษัท มีกลุ่มบริษัท เซ็นทรัล เดพอสิทอรี่ จำกัด จากสิงคโปร์ และตระกูล มหากิจศิริ ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
ในทางการเมือง นายประเสริฐ ถูกระบุว่า มีสายสัมพันธ์ อันนี้ กับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างมาก เคยปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในบุคคลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว. พลังงาน ในยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ด้วย
ล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 31 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเจรจาซื้อหุ้นบางจากดังกล่าว โดยใช้เงินจากกองทุนรวมวายุภักษ์
นายสมหมาย ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ผมยังไม่ขอพูดหรือแสดงความเห็นอะไรต่อเรื่องนี้นะ เข้าใจหน่อยนะ เพราะถ้าผมยืนยันหรือไม่ยืนยัน ก็จะมีผลต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทันที"
ทั้งหมดนี่ คือ ความคืบหน้าล่าสุด ที่สำนักข่าวอิศรา รวบรวมมาเสนอต่อสาธารณชนให้ได้รับทราบกัน!
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"