"ทายาทเนวิน" รุกธุรกิจไฟฟ้า! หลังบุรีรัมย์ยูไนเต็ดโกยรายได้ล่าสุด 405 ล.
ข้อมูลล่าสุด! "ไชยชนก ชิดชอบ" ทายาท "นายเนวิน" จดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ รุกคืบธุรกิจโรงงานไฟฟ้า หลังสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โกยรายได้ล่าสุด 405 ล้าน เฉพาะยอดขายบัตร 41 ล้าน
ธุรกิจกีฬาฟุตบอล อาจจะไม่ใช่ธุรกิจสุดท้าย ของคนในตระกูล "ชิดชอบ"
เมื่อในช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา นายไชยชนก ชิดชอบ ทายาทของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ที่ผันตัวไปทำทีมสโมสรฟุุตบอล คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในขณะนี้ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ ขึ้นมาประกอบกิจการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท บี อาร์ เพาเวอร์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2557 ประเดิมทุน 50 ล้านบาท แจ้งที่อยู่เลขที่ 30/2 หมู่ที่ 4 ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ แจ้งประกอบกิจการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า และจำหน่ายกระแสไฟฟ้า
ปรากฎชื่อ "นายไชยชนก ชิดชอบ" เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ทั้งนี้ นายไชยชนก ชิดชอบ เป็นลูกชายคนโตของนายเนวิน ปัจจุบันปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 ทุนปัจจุบัน 55 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 2159/8 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจสโมสรฟุตบอล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มีจำนวน 4 คน นายไชยชนก ชิดชอบ ถือหุ้นใหญ่สุด 479,800 หุ้น มูลค่า 47,980,000 บาท นาย กนกศักดิ์ ปิ่นแสง ถืออยู่ 50,000 หุ้น มูลค่า 5,000,000 บาท นาย วินิจ เลิสรัตนชัย ถืออยู่ 20,000 หุ้น มูลค่า 2,000,000 บาท และ นาย โสฬส วรรณโกวิท ถืออยู่ 200 หุ้น มูลค่า 20,000 บาท
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ระุว่ามีรายได้รวม 405,238,795.94 บาท แยกเป็น
รายได้จากการขาย 116,337,430.61 บาท
รายได้จากเงินสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ 139,609,542.60 บาท
รายได้ค่าห้อง 388,411.21 บาท
รายได้ค่าบัตรสมาชิก 1,257,009.35 บาท
รายได้จากการขายบัตร 41,210,822.44 บาท
รายได้เงินรางวัล 32,909,398.63 บาท
รายได้ค่าลิขสิทธิ์ 5,607,476.64 บาท
รายได้ธุรกิจกีฬา 55,300,850.00 บาท
ส่วนแบ่งรายได้จากการขาย 2,785,783.45 บาท
ดอกเบี้ยรับ 112,906.82 บาท
รายได้ค่าตอบแทน 4,263,807.24 บาท
รายได้อื่น 5,455,356.95 บาท
ส่วนรายจ่าย แจ้งตัวเลขอยู่ที่ 404,026,681.38 แยกเป็น
ต้นทุนสินค้าที่ขาย 79,831,185.94 บาท
ต้นทุนเกี่ยวกับกีฬา 126,394,320.79 บาท
ค่าใช้จ่ายในการขาย 37,462,815.77 บาท
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 122,986,830.95 บาท
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 31,806,317.86 บาท
ค่าเสื่อมราคา 5,545,210.07 บาท
ส่งผลทำให้ขาดทุนสุทธิ 2,462,885.44 บาท
แต่เปรียบเทียบกับข้อมูลงบการเงิน ในปี 2555 ถือว่าดีขึ้น ซึ่งแจ้งรายได้รวม อยู่ที่ 253,800,516.19 บาท และมีรายจ่ายรวม 282,449,114.57 บาท ขาดทุนสุทธิถึง 29,001,057.40 บาท
น่าสนใจว่า การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บี อาร์ เพาเวอร์ จำกัด ขึ้นมาประกอบกิจการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า จะเข้ามาช่วยเสริมการทำทีมฟุตบอลได้อย่างไร
หรือเป็นธุรกิจใหม่ที่ถูกวางเอาไว้ หลังจากธุรกิจฟุตบอลถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
(อ่านประกอบ : เปิดตัวหุ้นใหญ่“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ไฉน!ไร้ชื่อ “เนวิน ชิดชอบ”)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Google