ผ่าสมบัติ 25 ล.“วิทยา แก้วภราดัย”-กรมบังคับคดีจ่อยึดทรัพย์ 9.7 แสน
ผ่ากรุสมบัติ 25 ล้าน “วิทยา แก้วภราดัย” อดีตแกนนำ กปปส. พบถูกกรมบังคับคดีเร่งรัดให้ใช้หนี้ 9.7 แสน ไม่งั้นอายัดทรัพย์ หลังแพ้คดีในศาลแพ่ง ได้เงินเดือนบริษัทกว่า 5 แสน บ้านราคา 7.7 ล้าน เงินฝาก “ภรรยา” กว่า 4 ล้าน
นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปัตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ถูกสำนักงานบังคับคดีให้เร่งรัดชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลแพ่ง จำนวนกว่า 9.7 แสนบาท มิฉะนั้นจะถูกอายัดทรัพย์สิน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายวิทยา ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 แจ้งว่า มีหนี้สินเป็นคำพิพากษาศาล เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 จำนวนเงิน 975,000 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 สำนักงานบังคับคดีได้แจ้งให้นายวิทยาดำเนินการจ่ายเงินแก่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ตามคำพิพากษา ศาลแพ่ง จำนวน 975,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย และค่าฤชาธรรมเนียม เนื่องจากนายวิทยา ยังไม่ได้ชำระเงินดังกล่าว ศาลแพ่งจึงออกหมายบังคับคดี ให้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ดังกล่าว
“บัดนี้ สำนักงานการบังคับคดีได้รับเรื่องดังกล่าวดำเนินการแล้ว จึงแจ้งมายังท่านเพื่อดำเนินการชำระหนี้ตามกฎหมาย บังคับคดีให้แก่พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับหนังสือนี้ หากท่านเพิกเฉยเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการจำเป็นต้องดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของท่านออกขายทอดตลาด เพื่อนำเงินชำระหนี้ต่อไป” หนังสือดังกล่าว ระบุ
สำหรับกรณีนี้ ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 สั่งให้จำเลย (นายวิทยา) ชำระเงิน 975,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันผิดสัญญา (วันที่ 30 มกราคม 2542) ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าปรับเป็นต้นไป กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียม และค่าทนายความในศาลชั้นต้น และชั้นอุทธรณ์ รวม 44,882 บาทแทนโจทก์ (พนักงานสอบสวนฯ)
เนื่องจากนายวิทยา ทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง เป็นจำนวนเงิน 975,000 บาท โดยมีข้อตกลงกับพนักงานสอบสวนฯว่า หากนายวิทยาไม่ส่งผู้ต้องหาตามกำหนดนัด จะยอมชดใช้เงินดังกล่าวให้ ซึ่งต่อมาเมื่อถึงวันนัดนายวิทยาไม่ส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนฯ และไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้อง เป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนฯไม่สามารถส่งผู้ต้องหาให้แก่พนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีได้ นายวิทยาจึงผิดสัญญาดังกล่าว
ทั้งนี้ นายวิทยา แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 1,529,837 บาท เป็นของนายวิทยา 994,337 บาท คือ เงินเดือน/ค่าตอบแทน 235,059 บาท เงินเดือนจากบริษัท 559,278 บาท ค่าทนายความ 2 แสนบาท ส่วนนางจิระประไพ แก้วภราดัย คู่สมรส 535,500 บาท เป็นเงินเดือน/ค่าตอบแทน 471,500 บาท ค่าเช่าบ้าน 6.4 หมื่นบาท
ไม่ได้แจ้งรายจ่าย
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 25,683,235 บาท เป็นของนายวิทยา 15,452,356 บาท เป็น เงินฝาก 595,830 บาท เงินลงทุน 290,075 บาท ที่ดิน 3,756,450 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,750,000 บาท ยานพาหนะ 2 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป 1,060,000 บาท
ส่วนนางจิระประไพ 10,230,879 บาท เป็นเงินฝาก 4,347,284 บาท เงินลงทุน 839,539 บาท ที่ดิน 2,864,055 บาท โรงเรือนฯ 1,660,000 บาท ยานพาหนะ 5 แสนบาท
มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,603,642 บาท เป็นของนายวิทยา 1,789,321 บาท นางจิระประไพ 814,321 บาท
อนึ่งในช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 และพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 นายวิทยา ไม่ได้แจ้งว่ามีรายได้จากเงินเดือนบริษัทแต่อย่างใด
อ่านประกอบ : ใครรวยขึ้น-จนลง? เปิดทรัพย์สิน“9 แกนนำ กปปส.”หลังจบศึกเป่านกหวีด