สธ.เดินหน้าร่างกม.ยาสูบรอบคอบ ยันไม่กระทบเกษตรกร
ก.สาธารณสุข เดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... เพื่อปกป้องสุขภาพเด็ก เยาวชน และสตรี ยันกฎหมายฉบับนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ปลูก ผู้ผลิตใบยาสูบ โดยผู้ประกอบการผู้ผลิตสามารถร่วมชี้แจงความคิดเห็น ในขั้นตอนของพระราชกฤษฎีกาและคณะกรรมาธิการได้
วันที่ 12 มกราคม 2558 ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะประชุมเครือข่ายยาสูบ นายกสมาคมเครือข่ายยาสูบเบอร์เล่ย์ จ.สุโขทัย จ.เพชรบูรณ์ นายกสมาคมบ่มใบยาสูบ จ.เชียงใหม่ เชียงราย จ.พะเยา และสมาคมผู้ประกอบการค้ายาสูบไทย เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.... ซึ่งขณะนี้ได้เสนอสำนักเลขาคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจาณาแล้ว
ศ.นพ.รัชตะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงการเชิญกลุ่มตัวแทนจากชาวไร่ยาสูบมาชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบจากร่างพรบ.ยาสูบ พ.ศ.... โดยร่างพรบ.ยาสูบดังกล่าว ได้ผ่านกระบวนการร่างกฎหมายตามขั้นตอนมาประมาณกว่า 3 ปีแล้ว และได้มีการทำประชาพิจารณ์ร่วมกับตัวแทนในผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ประกอบการยาสูบจากทุกภาคทั่วประเทศอย่างถี่ถ้วน โดยพ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้นำพ.ร.บ.เดิม 2 ฉบับที่ใช้มาตั้งแต่พ.ศ.2535 มารวมกัน คือ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พร้อมปรับปรุงเพิ่มเติมสาระอีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ทันสมัย
"วัตถุประสงค์หลักของพ.ร.บ.ฉบับนี้คือ เพื่อต้องการปกป้อง คุ้มครองเด็ก เยาวชนและสตรี ไม่ให้เกิดอันตรายส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ชีวิต และเศรษฐกิจ มีเนื้อหาสอดคล้องตามข้อกำหนดของกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก และไม่มีข้อขัดแย้งกับกฎหมายว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศหรืออนุสัญญาของสหประชาชาติแต่อย่างใด และไม่มีผลกระทบต่อเกษตรผู้ปลูกยาสูบด้วย"
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า กลุ่มตัวแทนผู้ปลูกใบยาสูบเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขชะลอการเสนอพ.ร.บ.ยาสูบไว้ก่อน หรือให้ยุติและให้มาร่วมพิจารณาใหม่ตั้งแต่ต้นอีก ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้เห็นว่า การชะลอร่างดังกล่าว อาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนและสตรี และการออกกฎหมายต้องใช้เวลาหลายขั้นตอน โดยขณะนี้ได้ส่งร่างฯ เสนอสำนักเลขาคณะรัฐมนตรี อยู่ในขั้นตอนของแจ้งเวียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่จะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือน โดยชาวไร่ยาสูบและผู้ประกอบการยังสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมชี้แจง แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ในขั้นตอนของกฤษฎีกากับขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ 3 วาระ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขจะรับฟังความคิดเห็นอย่างเต็มที่อย่างรอบคอบที่สุด โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ในประเด็นที่จะมีผลกระทบต่อเกษตรกร
ด้านนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการออกกฎหมายจะต้องเกิดประโยชน์แก่ประชาชนให้มากที่สุด หากออกกฎมายแล้วเกิดผลเสีย ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน รัฐบาลจะไม่ให้ออก กฎหมายจะต้องดูแลประชาชนให้ได้ประโยชน์สูงสุด สามารถบรรเทาปัญหาต่างๆได้กฎหมายฉบับนี้ก็จะต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ที่ดูแลในส่วนของเกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบ เมื่อได้รับเรื่องจากสำนักเลขาคณะรัฐมนตรีแล้วจะส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด หากพบว่า มีผลกระทบจะเตรียมมาตรการเยียวยา โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ต้องการให้ลูกหลานตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด
ที่มาภาพ:https://www.facebook.com/siriwat.tiptaradol?ref=ts&fref=ts