หมอลี่ยืนยันคิดค่าโทรเป็นวินาทีต้องเปลี่ยนทั้งระบบ
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2558 ณ อาคารหอประชุมชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ประชุมคณะทำงานศึกษาหาแนวทางกำหนดการคิดค่าบริการโทรศัพท์ตามจริงเป็นวินาที โดยมีกรรมการกิจการโทรคมนาคมหลายท่าน รวมทั้งเลขาธิการ กสทช. เข้าร่วม ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย คือ เอไอเอส ดีแทค ทรู CAT และ TOT เข้าร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาที ภายหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง ผลของการประชุมระบุว่า ในเบื้องต้นให้ผู้ให้บริการทั้ง 5 รายกำหนดรายการส่งเสริมการขายแบบคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาทีภายในวันที่ 1 มี.ค. เพื่อเป็นรายการส่งเสริมการขายทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ใช้บริการ
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือ “หมอลี่” เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมหารือดังกล่าวว่า การประชุมที่สำนักงาน กสทช. เป็นเจ้าภาพในวันนี้เป็นลักษณะการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันตอบโจทย์ที่สังคมเรียกร้อง แต่ยังไม่มีการพูดถึงมาตรการกำกับดูแลที่ กสทช. จะใช้บังคับผู้ประกอบการได้ ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการพูดถึงการปรับทั้งระบบอุตสาหกรรมให้เลิกคิดค่าบริการแบบมีการปัดเศษของวินาทีเป็นนาที แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ตอบรับ ทำให้ในที่สุดได้ข้อตกลงเพียงว่าจะมีการออกโปรโมชั่นใหม่ที่คิดค่าบริการตามจริงโดยไม่ปัดเศษภายในวันที่ 1 มีนาคมนี้
“ในที่ประชุมวันนี้ ผู้ประกอบการทุกรายยอมรับตรงกันว่าไม่มีปัญหาทางเทคนิคที่จะคิดค่าบริการในระดับหน่วยวินาที ที่สำคัญคือมีบริษัท TOT ที่ทำเช่นนี้อยู่แล้ว ผมจึงบอกว่ารายไหนทำไม่ได้ก็สามารถไปศึกษาดูงานจาก TOT ได้ แต่ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ก็ยังอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะกระทบโครงสร้างราคาค่าบริการ คล้ายๆ กับจะบอกว่าจะทำให้ผู้ให้บริการต้องคิดค่าบริการแพงขึ้นนะ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่อาจกระทบรายได้ของบริษัทนั้นเป็นได้” นายประวิทย์กล่าว
ต่อข้อสรุปของการประชุม นายประวิทย์ชี้ว่า คงเป็นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อแสดงว่ามีการพยายามตอบกระแสเรียกร้องของสังคมเท่านั้น ซึ่งต้องระวังว่าจะไม่ใช่การซื้อเวลาหรือเป็นมาตรการปาหี่ขายผ้าเอาหน้ารอด โดยเฉพาะการทำเงื่อนไขของโปรโมชั่นแบบไม่จูงใจให้เลือกใช้ แล้วใช้เป็นปรากฏการณ์ไปสู่การสรุปว่า ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเรื่องดังกล่าวจริง ดังนั้นหลังจากมีมาตรการขั้นต้นนี้แล้ว จะต้องเร่งให้มีมาตรการและความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตามมาอีก ซึ่งมาตรการที่สำคัญคือ โปรโมชั่นใหม่ที่จะออกใหม่ทั้งหมดก็จะต้องไม่มีการปัดเศษอีกแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องมีการกำหนดกรอบเวลาของโปรโมชั่นเก่าที่ยังมีการคิดค่าบริการแบบปัดเศษจากวินาทีเป็นนาทีในทุกๆ การโทร ให้ชัดเจนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร
“เพราะผมเข้าใจว่า สิ่งที่มีการเสนอขึ้นมาในคราวนี้และได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิก สปช. อย่างล้นหลามก็คือต้องการให้ระบบบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยมีการคิดค่าบริการจากปริมาณการใช้งานจริง ไม่ใช่เรียกเก็บเงินจากยอดที่มีการปัดเศษวินาทีในทุกๆ ครั้งของการใช้งาน ดังนั้นจึงไม่อาจตอบโจทย์ด้วยการมีรายการส่งเสริมการขายเพียงบางส่วนให้เลือก แต่ต้องทำให้เป็นระบบของการคิดตามปริมาณการใช้งานทั้งหมด ถ้าจะปัดเศษก็ปัดในระดับยอดรวมของรอบบิล ไม่ใช่ปัดกันทุกๆ ครั้งของการโทร ซึ่งข้อเรียกร้องนี้สมเหตุสมผลโดยพื้นฐานอยู่แล้ว กสทช. และผู้ประกอบการจึงไม่ควรพยายามทำให้เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนหรือเกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องการเปลี่ยนระบบการคิดเงินหรืออัตราค่าบริการ เพราะมันคนละเรื่องกัน” กสทช. ประวิทย์กล่าวทิ้งท้าย