เบื้องหลังข่าวเจาะ“ประยุทธ์”ขายที่ดิน 600 ล. โยงใย 22 บ.ลับ 7 หมื่นล.“เสี่ยเจริญ”
เบื้องหลังข่าวเจาะ“พล.อ.ประยุทธ์”ขายที่ดิน 9 แปลง 50 ไร่ 600 ล้านผ่านบริษัทหุ้นใหญ่ ตู้ ปณ.บนเกาะบริติชเวอร์จิ้น โยงใย 22 บริษัทลับ 7 หมื่นล้าน "เจ้าสัวเจริญ" บ่งชี้สัมพันธ์ บิ๊กทหาร-นักธุรกิจใหญ่
ในรอบปี 2557 มีข่าวเจาะชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวพันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยตรงคือ กรณีการขายที่ดิน 9 แปลงเนื้อที่ 50-3-08 ไร่ วงเงิน 600 ล้านบาทของ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ข่าวชิ้นนี้ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายทหารใหญ่ในกองทัพกับนักธุรกิจแสนล้านที่หยั่งรากลึกมานาน “ชัดเจน”ขึ้นเมื่อพบว่า ผู้รับซื้อที่ดินแปลงนี้ตัวจริงคือนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชื่อดังและเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศนั่นเอง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงความเป็นมาดังนี้
ภายหลังเข้ารับตำแหน่งนายกฯ วันที่ 4 ก.ย.57 พล.อ.ประยุทธ์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า พ.อ.ประ พัฒน์ จันทร์โอชา อายุ 89 ปี (บิดา) ได้มอบเงินจำนวน 540 ล้านบาทกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากเป็นบุตรชาย มีสิทธิอย่างสมบูรณ์ในการดูแลเงินจำนวนนี้ ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องของผู้รับ
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีสัมพันธ์ รับรองว่าได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 056-2-471xx-x ชื่อบัญชี พล.อ.ประยุทธ์ โดยโอนมาจากบัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 134-2-329xx-x ชื่อบัญชี พ.อ.ประพัฒน์ จำนวนเงิน 540 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2556 จริง
พล.อ.ประยุทธ์ได้แนบหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่าง พ.อ.ประพัฒน์ กับ บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวนเงิน 600 ล้านบาท ต่อ ป.ป.ช.ด้วย
(อ่านประกอบ:เปิดหนังสือ“ประยุทธ์”รับเงินขายที่ดินพ่อ 9 โฉนด 540 ล้าน)
@ บ.69 พร็อพเพอร์ตี้ ถือหุ้นไขว้ซับซ้อน
จากกรณีดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา ได้ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 2 พ.ค.56 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 20/164 หมู่บ้านอิ่มอัมพร 2 หมู่ที่ 11 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ หุ้นใหญ่ 4 รายคือ
1.บริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด จำนวน 49,000 หุ้น
2.นายไพโรจน์ จาตุรแสงไพโรจน์ จำนวน 30,000 หุ้น
3.นายประมวล ศรีรัตนา 11,000 หุ้น และ
4.นายศราวุธ เทียนสุวรรณ 10,000 หุ้น
รวมทั้งสิ้น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท นายศราวุธ เทียนสุวรรณ นายประมวล ศรีรัตนา และนายไพโรจน์ จาตุรแสงไพโรจน์ เป็นกรรมการผู้ขอจดทะเบียน
หลังจดทะเบียนราว 2 สัปดาห์ 16 พ.ค.56 บริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด (นายศราวุธ เทียนสุวรรณ ถือหุ้นใหญ่) ได้โอนหุ้นจำนวน 49,000 หุ้น ไปให้ วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด ไทรเด้นท์ ทรัส (บี.วี.ไอ.) ลิมิเต็ด ไทรเด้นท์ แซมเบอร์ ซึ่งมีที่อยู่เป็นตู้ ป.ณ. เลขที่ 146 ,โรดทาวน์,ทอร์โทล่า , บริติชเวอร์จิน ไอร์แลนด์
21 มิ.ย.56 บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพิ่มทุนเป็น 200 ล้านบาท วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด ได้เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 9,800,000 หุ้น จากทั้งหมด 10 ล้านหุ้น
2 ธ.ค.56 บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 628 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้น 3 ราย
บริษัท นครชื่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 62,799,998 หุ้น บริษัท ยอดกิจธุรกิจ จำกัด และ บริษัท พรนวภัณฑ์ จำกัด ถือรายละ 1 หุ้น รวมทั้งหมด 62,800,000 หุ้น
จากการตรวจสอบพบว่า นายประมวล ศรีรัตนา นายศราวุธ เทียนสุวรรณ บริษัท นครชื่น จำกัด กรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นั้น เป็นกรรมการบริษัทเครือข่ายของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จากข้อมูลดังกล่าวทำให้เชื่อได้ว่าผู้รับซื้อที่ดินดังกล่าวจากบิดา พล.อ.ประยุทธ์คือนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
(อ่านประกอบ:บริษัทรับซื้อที่ดินพ่อ“ประยุทธ์”600 ล.“หุ้นใหญ่”ตั้งบนเกาะบริติชเวอร์จิน)
กระนั้น ประเด็นที่สำนักข่าวอิศราสงสัยก็คือ วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด ใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงและเกี่ยวพันกับนายเจริญอย่างไร?
@สาวลึก บ.วินเทค ฯ ตู้ ปณ.เกาะบริติชเวอร์จิ้น
จากการตรวจสอบธุรกิจในเครือของนายเจริญที่มีนับร้อยบริษัทโดยเริ่มจากตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ณ วันที่ 28 มี.ค.49 มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 14 ราย ต่างด้าว 2 ราย รวม 16 ราย พบ วิน แอลไลต์ อินเตอรเนชั่นแนล อิงค์ สัญชาติ บี.วี.ไอ. (บริติช เวอร์จิน ไอร์แลนด์) ที่อยู่ ทรีเด้นท์แชมเบอร์ส,ตู้ ปณ. 146 ,โรดทาวน์,ทอร์โทลา ,บริติช เวอร์จิน ไอร์แลนด์ ถือจำนวน 97 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกับบริษัท วินเทค โปรฟิทฯ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
นอกจากนี้ยังพบบริษัทที่จดทะเบียนในบริติชเวอร์จินไอร์แลนด์ อีกบริษัทหนึ่งคือ บลูสกาย โฮลดิ้ง กรุ๊ป อิงค์ ที่ตั้งอาคารเดอะเคร็ค ,ตู้ ปณ.116 โรดทาวน์,ทอร์โทลา ,บริติช เวอร์จิน ไอร์แลนด์ ร่วมถือหุ้น บริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัด 94.9 ล้านหุ้น จากจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 1650,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
ต่อมา เม.ย.52 วิน แอลไลต์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ และ บลูสกาย โฮลดิ้ง กรุ๊ป อิงค์ หายไป ปรากฏว่ามี ทีซีซี แอ็ทเส็ทส์ ลิมิเต็ด บี.วี.ไอ. ซึ่งใช้ที่อยู่เดียวกัน คือ ทรีเด้นท์แชมเบอร์ส,ตู้ ปณ. 146 ,โรดทาวน์,ทอร์โทลา ,บริติช เวอร์จิน ไอร์แลนด์ เข้ามาแทนที่ โดยมีนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ร่วมถือหุ้นด้วย
(อ่านประกอบ:สิ้นสงสัย!“หุ้นใหญ่”ซื้อที่ดินพ่อประยุทธ์ ที่อยู่เดียว“บ.เสี่ยเจริญ”บนบริติชเวอร์จิน)
@ลงพื้นที่พิสูจน์:ชาวบ้านบอกของ“เบียร์ช้าง”
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพที่ดิน 9 แปลงดังกล่าวพบว่าเป็น พื้นที่โล่ง ติดถนนบางบอน 3 ซึ่งมีขนาดฝั่งละ 2 เลน พื้นถนนเป็นปูนซิเมนต์ ถ้าหันหน้าเข้าพื้นที่จะพบว่าบริเวณด้านซ้ายติดกับคลองหนามแดง ภายในพื้นที่มีต้นหญ้าขึ้นปกคลุมอยู่โดยทั่วบริเวณ และมีการนำป้ายประกาศซึ่งมีสภาพใหม่ มาติดไว้ทั่วบริเวณหน้าที่ดิน ระบุข้อความว่า
"ประกาศ ...ที่ดินบริเวณนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ห้ามบุกรุก ตกปลา หรือกระทำการใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดทั้งในทางอาญาและทางแพ่ง บริษัทฯ จำเป็นต้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด"
และจากการสอบถามคนในพื้นที่บอกว่า ที่ดินทั้ง 9 แปลงเป็นของเบียร์ช้าง
(อ่านประกอบ:เผยโฉมที่ดิน"พ่อประยุทธ์"ขาย 600 ล.ให้ บ.เครือข่ายเสี่ยเจริญ-ห้ามบุกรุก)
@ตู้ ปณ.ใบเดียว ที่ตั้ง 5 บริษัท
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ตู้ ปณ. 146 ,โรดทาวน์,ทอร์โทล่า , บริติชเวอร์จิน ไอซ์แลนด์ ใช้เป็นที่ตั้งถึง 5 บริษัท
1.ไชนิ เทร็ชเชอ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้น บริษัท สิริวนา จำกัด จำนวน 710,500,000 หุ้น (710.5 ล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท หรือเท่ากับ 7,105 ล้านบาท) ตั้งเดือน เม.ย.54 จนถึงปัจจุบัน
2.ไรเซน มาร์ค เอ็นเตอร์ไพรส (Risen Mark Enterprise Ltd.,) ผู้ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจน์ จำนวน 6,549,600,000 หุ้น (6,549.6 ล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 1 บาท หรือเท่ากับ 6,549.6 ล้านบาท (ผู้ถือหุ้น ณ 30 ธ.ค.47-11 ก.ค.48)และลดลงเหลือ 5,537,600,000 หุ้น (5,537.6 ล้านหุ้น) ในช่วง27 มี.ค.49 เหลือ 2,359,815,000 หุ้น เมื่อ 3 ก.ค.49 กระทั่งหายไปหลังปี 51
3. วิน แอลไลต์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ สัญชาติ บี.วี.ไอ. ถือหุ้น บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด จำนวน 97,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ในปี 2549 (มูลค่า 970 ล้านบาท) ต่อมาเพิ่มเป็น 797,000,000 หุ้น ณ 30 เม.ย.50 (มูลค่า 7,970 ล้านบาท)
4. ทีซีซี แอ็ทเส็ทส์ ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัด ช่วงปี 2550-2552 จำนวน 1,151,500,000 หุ้น (1,151.5 ล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท หรือ มูลค่า 11,515 ล้านบาท
5. บริษัท แพลนทิออน อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (บี.วี.ไอ.) จำนวน 489,999,994 หุ้น มูลหุ้นละ 10 บาท (มูลค่า 4,899,999,940 บาท หรือประมาณ 4,899.9 ล้านบาท)
รวมมูลค่าหุ้นทั้ง 5 บริษัท ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท
@ พบบริษัทลับ 22 แห่ง 7 หมื่นล้าน
ต่อมาพบว่าธุรกิจของเจริญอย่างน้อย 9 บริษัท คือ บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด บริษัท สิริวนา จำกัด .บริษัท พรรณธิอร จำกัด ทีซีซีแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัท แผ่นดินธรรม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัท คริสตอลลา จำกัด และ บริษัท เครือ อาคเนย์ จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ที.ซี.ซี.แคปปิตอล จำกัด)
มีบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งบนเกาะ บริติชเวอร์จิน บี.วี.ไอ. อย่างน้อย 22 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นตามทุนจดทะเบียน 70,807.2 ล้านบาท ได้แก่
1.วิน แอลไลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ทรีเด้นท์แชมเบอร์ (WIN ALLIED INTERNATION INC) ถือหุ้น 2 แห่งคือ บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 5,243,000,000 หุ้น (29 พ.ค.47) มูลค่าหุ้นละ 1 บาท และ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด 97,000,000 หุ้น (ปี 2549 ) เพิ่มเป็น 797,000,000 หุ้น (30 เม.ย.50) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เท่ากับ 7,970 ล้านบาท รวมมูลค่า 2 บริษัท 13,213 ล้านบาท
2.STRONG TREND VENTURE LTD. ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 1,048,600,000 หุ้น (29 พ.ค.47) หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 1,048.6 ล้านบาท
3.LANCENT ASSOCIATES LTD ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 1,048,600,000 หุ้น (29 พ.ค.47)หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 1,048.6 ล้านบาท
4.FORTUNE SCENE INVESTMENTS LTD. ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 1,048,600,000 หุ้น (29 พ.ค.47) หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 1,048.6 ล้านบาท
5.SOLID GAIN DEVELOPMENT LTD 1บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 1,048,600,000 หุ้น (29 พ.ค.47)หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 1,048.6 ล้านบาท
6. CONTINENTAL CONNECTION INC. ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 1,048,600,000 หุ้น (29 พ.ค.47) หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 1,048.6 ล้านบาท
7.ไรเซน มาร์ค เอ็นเตอร์ไพรส ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 6,549,600,000 หุ้น (30 ธ.ค.57) หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 6,549.6 ล้านบาท ต่อมาเหลือ 5,537,600,000 หุ้น ( 27 มี.ค.49) และ 2,359,815,000 หุ้น (3 ก.ค.49) กระทั่งหายไปหลังปี 51
8.Trinity Fortune Investment Ltd. ถือ บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 524,000,000 หุ้น (524 ล้านหุ้น) ณ 29 เม.ย.53 หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 524 ล้านบาท
9. MAXTOP MANAGEMENT CORP. ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 3,694,675,000 หุ้น ณ 29 เม.ย.53- 25 เมษายน 2556 หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 3,694,675,000 บาท
10. SPARKLE VIEW DEVELOPMENT LIMITED ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 1,042,543,572 หุ้น (29 เม.ย.54) หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 1,042,543,572 บาท
11. Kindest Place Groupa Limited ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 19,000,000 หุ้น (19 ล้านหุ้น) ณ 25 เม.ย.56 หุ้นละ 1 บาท มูลค่า 19 ล้านบาท
12.Nexus Power Investment Limited ถือหุ้น บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ 420,514,080 หุ้น ณ 25 เม.ย.57 มูลค่าหุ้นละ 1 บาท มูลค่า 420,514,080 บาท
13. ไชนิ เทร็ชเชอ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด ถือหุ้น บริษัท สิริวนา จำกัด (บริษัทส่วนตัวนายเจริญ) จำนวน 710,500,000 หุ้น (710.5 ล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท หรือเท่ากับ 7,105 ล้านบาท) ตั้งเดือน เม.ย.54 จนถึงปัจจุบัน
14. ทีซีซี แอ็ทเส็ทส์ ลิมิเต็ด ถือหุ้น บริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัด จำนวน 1,151,500,000 หุ้น (1,151.5 ล้านหุ้น) ช่วงปี 2550-2553 มูลค่าหุ้นละ 10 บาท หรือ มูลค่า 11,515 ล้านบาท
15.บริษัท แพลนทิออน อินเตอร์เนชันแนล ถือหุ้น บริษัท พรรณธิอร จำกัด 489,999,994 หุ้น (ณ 29 เม.ย.52) มูลหุ้นละ 10 บาท (มูลค่า 4,899,999,940 บาท หรือประมาณ 4,899.9 ล้านบาท) มูลค่า 4,899,999,940 บาท
16.บลูสกาย โฮลดิ้ง กรุ๊ป อิงค์ ( บี.วี.ไอ.) ถือหุ้น บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด จำนวน 94,900,000 หุ้น (94.9 ล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท รวมมูลค่า 949 ล้านบาท
17.บริษัท ทีซีซี กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด ถือหุ้น บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด จำนวน 1,151,499,000 หุ้น มูลค่าละ 10 บาท (ณ 29 เม.ย.56-30 เม.ย.57) หรือ มูลค่า 11,514,990,000 บาท
และ บริษัท ทีซีซีแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ณ 26 เม.ย.56 จำนวน 97,999,800 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท มูลค่า 979,998,000 บาท รวมมูลค่า 12,494,988,000
18.วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด (บี.วี.ไอ.) ถือหุ้น บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 49,000 หุ้น ณ 16 พ.ค.56 ต่อมา เพิ่มเป็น 9,800,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท หรือ 98 ล้านบาท
19.สปริง คริสตัล แอสเซ็ทส์ จำกัด (บี.วี.ไอ.) ถือหุ้น บริษัท แผ่นดินธรรม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 9,900,001 หุ้น (9.9 ล้านหุ้น) มูลค่า หุ้นละ 10 บาท เท่ากับ 99 ล้านบาท (29 เม.ย.57)
20.คริสตอลลา อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมเต็ด (บี.วี.ไอ.) ถือหุ้น บริษัท คริสตอลลา จำกัด 5,880,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 588,000,000 บาท (30 ม.ค.56-30 ม.ค.57)
21.บริษัท เพลนดิไวซ อินเวสต์เม้นต์ จำกัด (บี.วี.ไอ.) ถือหุ้น บริษัท เครือ อาคเนย์ จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ที.ซี.ซี.แคปปิตอล จำกัด) จำนวน 117,600,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เท่ากับ 1,176 ล้านบาท (30 ธ.ค.51-30 เม.ย.52)
22.เดอะ เซาท์อีสท์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด (บี.วี.ไอ.) ถือหุ้น บริษัท เครือ อาคเนย์ จำกัด จำนวน 117,600,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เท่ากับ 1,176 ล้านบาท (26 มี.ค.53-30 เม.ย.57)
ในจำนวนนี้พบว่า 8 บริษัทใช้ที่อยู่เดียวกันคือตู้ ปณ. 146 โรดทาวน์ เทอโทลา บริติชเวอร์จิน ไอสแลนด์ คือ วิน แอลไลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ,ไรเซน มาร์ค เอ็นเตอร์ไพรส ,MAXTOP MANAGEMENT CORP. ,ไชนิ เทร็ชเชอ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ดม ทีซีซี แอ็ทเส็ทส์ ลิมิเต็ด ,บริษัท แพลนทิออน อินเตอร์เนชันแนล ,บลูสกาย โฮลดิ้ง กรุ๊ป อิงค์ ( บี.วี.ไอ.) และ วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด
@ สื่อซัก นายกฯไม่แจง บอกไม่ใช่เรื่องนักข่าว
ภายหลังจากตรวจสอบจนพบข้อเท็จจริง วันที่ 18 พ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล กรณีขายที่ดิน 600 ล้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องของคุณเลยนะ เอ้า คนอื่นถามมา ไม่มีเรื่องอื่นที่ประเทืองปัญญากว่านี้หรือไง”
เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวว่าเนื่องจากพบว่า บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ ก่อตั้งบริษัทได้เพียง 7 วัน ก่อนมีการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไปถามบริษัทเขาสิ”
(อ่านประกอบ: ไม่ประเทืองปัญญา"นายกฯซัดสื่อ หลังซักปมขายที่ดิน 600 ล.ให้ บ.เสี่ยเจริญ )
และเมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบงบการเงิน บริษัท 69 พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ในรอบปี 2556 ระบุสินทรัพย์รวมประมาณ 625 ลัานบาท ซึ่งใกล้เคียงกับวงเงินซื้อขายที่ดินระหว่าง บิดานายกฯ กับบริษัทฯ จำนวน 600 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในหมายเหตุประกอบงบการเงินระบุว่า 15 ส.ค.56 บริษัทฯได้ซื้อสิทธิสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจำนวน 403.87 ล้านบาท จากบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อขายสิทธิให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 407 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ส.ค.56 ซึ่งเกิดกำไรจากการจำหน่าย 3.13 ล้านบาท เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้สอบบัญชีบริษัทดังกล่าวแต่ไม่มีคำอธิบาย
ทั้งหมดคือความเป็นมาของการทำหน้าที่ปกติในการตรวจสอบบุคคลสาธารณะ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมีเงื่อนปมที่ยังไม่กระจ่างหลายประการ โดยเฉพาะการเสียภาษีเงินได้จากตัวเลขรายได้ 600 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวพันกับผลประโยชน์สาธารณะ
มิใช่เรื่องส่วนตัว?
อ่านประกอบ:
22 บริษัทลับ 7 หมื่นล้าน“บริติชเวอร์จิน”ในเครือ“เสี่ยเจริญ”
“แพลนทิออน”บริติชเวอร์จิน“ที่อยู่เดียว”ซื้อที่ดินพ่อนายกฯโผล่หุ้นเสี่ยเจริญ 4.9 พันล.
ปริศนา!งบการเงิน บ.ซื้อที่ดินพ่อนายกฯมีกำไร 3 ล. จากซื้อสิทธิที่ดิน 403 ล.
"ไม่ประเทืองปัญญา"นายกฯซัดสื่อ หลังซักปมขายที่ดิน 600 ล.ให้ บ.เสี่ยเจริญ
ตู้ ปณ.“บริติชเวอร์จิน”เลขที่เดียว ใช้เป็นที่ตั้ง บ.เครือเสี่ยเจริญ 4 แห่ง 3 หมื่นล.
เปิดหนังสือ“ประยุทธ์”รับเงินขายที่ดินพ่อ 9 โฉนด 540 ล้าน
บริษัทรับซื้อที่ดินพ่อ“ประยุทธ์”600 ล.“หุ้นใหญ่”ตั้งบนเกาะบริติชเวอร์จิน
ไขปมบริษัทลับ!บนเกาะบริติชเวอร์จิน “หุ้นใหญ่”ซื้อที่ดิน 600 ล. พ่อ“ประยุทธ์”
เผยโฉมที่ดิน"พ่อประยุทธ์"ขาย 600 ล.ให้ บ.เครือข่ายเสี่ยเจริญ-ห้ามบุกรุก
เปิดตัว"ศราวุธ"ตัวแทนซื้อที่ดิน“พ่อบิ๊กตู่”-"ที่อยู่"หุ้นใหญ่ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น
เจาะราคาประเมินที่ดิน"พ่อบิ๊กตู่"เครือข่ายเสี่ยเจริญลงทุน600ล.คุ้มค่าหรือไม่?
สิ้นสงสัย!“หุ้นใหญ่”ซื้อที่ดินพ่อประยุทธ์ ที่อยู่เดียว“บ.เสี่ยเจริญ”บนบริติชเวอร์จิน
พบ 8 บริษัทลับ!“บริติชเวอร์จิน”โผล่ถือหุ้นธุรกิจ“เสี่ยเจริญ”3 หมื่นล.
เส้นทางโยกหุ้น 2.3 หมื่นล. 3 บริษัทลับ“บริติชเวอร์จิน - เสี่ยเจริญ”