เหล่าทัพเตรียมแผนงบฯ59เสนอนายกฯกลางม.ค.
เหล่าทัพเตรียมแผนจัดหายุทโธปกรณ์ งบฯ 59 เสนอนายกรัฐมนตรีกลางเดือนหน้า ทร.ขอเรือดำน้ำ 3 ลำ
พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ทำแผนการพัฒนาและ จัดหายุทโธปกรณ์ ตามแผนพัฒนากองทัพ ประจำปี 2559 มาเสนอให้รัฐบาลพิจารณา กลางเดือนม.ค.นี้ โดยกองทัพอากาศ มีโครงการที่ต้องพัฒนาหลายโครงการ โดยจะมีการจัดลำดับความสำคัญเสนอขึ้นไป ซึ่งแล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาในการจัดสรรงบประมาณให้ สำหรับระบบ network centric ที่กองทัพอากาศนำมาใช้นั้น จะทำงานครบสมบูรณ์ทั้งระบบในเร็วนี้ โดยต้องปรับปรุงให้อุปกรณ์ต่างๆ มีความเชื่อมโยงกันทั้งโครงการ ตอนนี้มีการเชื่อมต่อแล้วกับเครื่องบินขับไล่ gripen ส่วน เครื่องบิน F-16 และ F-5 กำลังพัฒนาให้มีความเชื่อมโยงกันต่อไป
ทั้งนี้ กองทัพอากาศ ได้จัดตั้ง network centri center ที่โรงเรียนนายเรืออากาศ ดอนเมือง โดยโรงเรียนนายเรืออากาศแห่งใหม่จะย้ายไปอยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีความคืบหน้าประมาณ 30 % ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการอยู่ อาจจะข้อติดขัดเรื่องงบประมาณ เพราะใช้งบประมาณสูง แต่คาดว่าในปี 2558 จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และมีบางหน่วยงานที่ย้ายไปได้เช่น หน่วยที่เป็นโรงพยาบาล จากนั้นอีก 3-4 ปี ก็จะมีการทยอยย้ายไปจนครบทั้งหมด
พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวอีกว่า สำหรับยุทโธปกรณ์ หรือ เครื่องบินเก่าที่ประจำการอยูนั้น ทางกองทัพอากาศเน้นการซ่อมบำรุง และดูแลตามขั้นตอนให้มีความสมบูรณ์ก่อนขึ้นทำการบินเสมอ โดยนโยบายของกองทัพอากาศยังมุ่งเน้นการพัฒนากำลังพลไปด้วยให้ทั้งมีความสามารถ ความรู้ และ คุณธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนายุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยี และ เครื่องรุ่นใหม่ที่กองทัพอากาศจะจัดหาเข้ามาประจำการ ทั้งเครื่องบินขับไล่ และเครื่องบินลำเลียง ที่ต้องใช้ในภารกิจในด้านการรบ และ นอกเหนือการรบ เช่นการช่วยเหลือ บรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้ ในต้นปี 2558 คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแบบเครื่องบินฝึก/ ขับไล่ใหม่ แทน เครื่องบินรุ่น L-39 ที่กำลังจะปลดประจำการ โดยยืนยันว่าการพิจารณาจะเป็นอย่างรอบคอบและตัดสินใจเลือกแบบที่ดีที่สุด
มีรายงานว่า กองทัพอากาศได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2558 วงเงิน 3,700 บาทในการจัดหาเครื่องบินฝึกรุ่นใหม่ แทน L-39 ของสาธารณเชค ที่มีปัญหาบริษัทปิดไลน์การผลิต โดยโครงการแรกจะจัดซื้อจำนวน 4 ลำก่อน ทั้งนี้ มีบริษัทจากประเทศต่างๆ เสนอแบบมาให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกหลายประเทศ โดยมี 3 ประเทศที่กองทัพอากาศเห็นว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่ กองทัพอากาศต้องการ คือ T-50 จากประเทศเกาหลี, M-346 ของประเทศอิตาลี และ Textron AirLand Scorpionจากประเทศสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในการจัดทำแผนงบประมาณ ในปี 2559 จะมุ่งเน้นที่โครงการต่อเนื่องของระบบ network centric โดยเฉพาะการติดตั้งระบบ prctical data link ที่ได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 56 กับสหรัฐฯ มูลค่าโครงการกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ กองทัพเรือ จะเสนอโครงการการจัดหาเรือดำน้ำมือหนึ่ง เข้าประจำการ ตามแผนพัฒนากองทัพเรือ 2-3 ลำ โดยกองทัพเรือ ได้พิจารณาคัดเลือกแบบเรือดำน้ำจาก เกาหลีใต้ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส ซึ่งแต่ละประเทศมีราคาแตกต่างกันไป โดยเรือดำน้ำชั้น u-209 ของเกาหลีใต้มีราคาต่ำสุด ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท /ลำ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าพร้อมให้การสนับสนุนกองทัพเรือ แต่คงต้องดูเรื่องงบประมาณว่าจะพิจารณาจัดสรรได้หรือไม่
รวมถึงกองทัพบก เตรียมเสนอรัฐบาลในการจัดหาเฮริลคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป (ฮ.ท.) ระยะที่ 3 เพื่อทดแทน ฮ.ท.1 UH -1H (ฮิวอี้) ที่จะปลดประจำการกว่า 30 ลำ วงเงินในการจัดหา 2.8 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาเลือกเฮริลคอปเตอร์ รุ่น UH-72 (Lakota) ในระบบ FMS จากสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้กองทัพบกก็ได้ทยอยจัดซื้อเข้ามาประจำการแล้ว รวมถึงโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียง 1 ลำ วงเงิน 1,250 ล้านบาท โดยมีเครื่องบินลำเลียง แบบ Antonov- 30 จากยูเครน และ CN-295 ของสเปน ที่กองทัพบกให้ความสนใจ
ขอบคุณข่าวจาก