ล้วงแผนลับ! ปมสั่งปลดบก.เดลินิวส์ ต้นตอศึกสายเลือด"เหตระกูล"ระอุ (2)
"..ถ้านายห้างแสง (นายแสง เหตระกูล)ยังอยู่ คงไม่ชอบให้มีการทำอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เพราะเราไม่เคยมีนโยบายที่จะทำกับพนักงานแบบนี้ และสำหรับเดลินิวส์ คุณพ่อสอนมาตลอดว่าเราต้องให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงาน ดูแลคนของเราให้เหมือนกับครอบครัวมากที่สุด ใครจะออกไปทำอะไรมันก็เป็นการตัดสินใจของเขา เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกราญ มันไม่ควรเป็นแบบนี้.. "
นอกเหนือจากความขัดแย้งใน "วิธีคิด" และ "การบริหาร" ระหว่างคนในตระกูล "เหตระกูล" เจ้าของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดศึกสายเลือด ประกาศแยกทางกันบริหารงานไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ระหว่าง "หนังสือพิมพ์" กับ "ทีวี"
โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นสำคัญ อยู่ที่การประกาศรายชื่อบุคคล 16 คน ซึ่งมีทั้งบก.ข่าว และพนักงานขายโฆษณา ให้พ้นจากสภาพการเป็นพนักงาน ของ บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด (เดลินิวส์) และบริษัทในเครือ หลังจากกลุ่มคนเหล่านี้ ผันตัวมาช่วยงานทีวี new)tv (ช่องทีวีดิจิทัลของเดลินิวส์) ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลไปแล้ว
(อ่านประกอบ : เบื้องหลัง!เดลินิวส์ ประกาศ16พนง. สิ้นสภาพ -ศึกสายเลือด "เหตระกูล" ระอุ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากคนในเดลินิวส์ ว่า ต้นตอแห่งความขัดแย้ง ของผู้บริหารเดลินิวส์ เริ่มปรากฎร่องรอยให้เห็นชัดเจน มาตั้งแต่ความพยายามในการเปลี่ยนตัวบรรณาธิการ ที่ไม่ใช่คนใน "เหตระกูล" ในช่วงปลายปี 57 ที่ผ่านมา
โดยภายหลังจากที่ ดร.ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นบรรณาธิการ แทนนายประชา เหตระกูล ตั้งแต่ปี 50 มาจนกระทั่งในช่วงเดือน ก.ค.57 ที่ผ่านมา มีผู้บริหารกลุ่มหนึ่ง ได้พยายามหาทางปลด ดร.ประภาออกจากตำแหน่งโดยไม่ถูกกฎหมาย
" ปัจจุบัน ดร.ประภา ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล ให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเป็นทางการแล้ว" แหล่งข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง "ดร.ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด" เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้รับการยืนยันว่า มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเกิดขึ้นจริง
ส่วนการทำหน้าที่ บก.นั้น ดร.ประภา เล่าว่า เข้าไปทำหน้าที่ บก. ตั้งแต่ช่วงปี 2550 โดยได้รับแรงสนับสนุนมาจากพี่น้องรุ่นใหญ่ คือ นายประสิทธิ์ เหตระกูล นายประพันธ์ เหตระกูล นายประสงค์ เหตระกูล เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นรุนแรงมาก
"ในช่วงที่ทำหน้าที่เป็น บก.ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของหัวหน้าแผนกอะไร มีแต่แนะนำว่าต้องเขียนงานตามหลักจริยธรรมวิชาชีพให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เขียนอย่างไรไม่ให้ถูกฟ้อง ซึ่งที่ผ่านมาเดลินิวส์ก็โดนฟ้องร้องบ้าง แต่ก็ไม่มากมาย และทุกคดีเราก็ชนะ"
ส่วนกรณีที่หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์" ฉบับวันที่ 28 ธ.ค.2557 ได้เผยแพร่ประกาศรายชื่อบุคคล ซี่งพ้นจากสภาพการเป็นพนักงาน ของ บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด และบริษัทในเครือ จำนวน 16 คน นั้น
ดร.ประภา กล่าวว่า "ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างมาก และทราบว่าขณะนี้กลุ่มพนักงานทั้ง 16 ราย กำลังมีการหารือกันว่าจะไปฟ้องร้องดำเนินคดี ที่ถูกทำให้เสียหายแบบนี้ ส่วนเขาจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นสิทธิของเขาเอง"
"พนักงานทั้ง 16 คนนี้ ไม่ผิดอะไรเลย เขาลาออกมาทำทีวีตามขั้นตอนปกติ ซึ่งการลาออกเป็นของธรรมดาในการทำงานของคนเรา เมื่อเห็นว่าอะไรที่เหมาะสมในชีวิตของเขา เขาก็ไปทำ แต่อยู่ๆ กลับมาออกประกาศแบบนี้ ระบุว่าให้พ้นสภาพ เหมือนกับว่าทำความผิดอะไรมา ทำให้เขาเสียหายมาก ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ใช่นโยบายของนายห้างแสง (นายแสง เหตระกูล) ที่เดลินิวส์สืบทอดต่อกันมา"
เมื่อถามว่า คนในตระกูล "เหตระกูล" ถูกระบุว่ามีความขัดแย้งในการบริหารงานกัน ดร.ประภา ตอบว่า "ดิฉันเรียนรู้การบริหารจากคุณพ่อมาหมด รับผิดชอบงานทุกอย่าง รู้ว่าเราควรทำธุรกิจอะไรยังไง อย่างเรื่องทีวี ใครเขาก็ลงทุนทำกัน ไทยรัฐเขาก็ทำ รวมถึงทุกหนังสือพิมพ์"
"ส่วนเรื่องการลงทุนทำหนังสือพิมพ์ แท็บลอยด์ "new)108" มันก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ คุณรู้ไหม ว่า ปัจจุบันหนังสือ M2F (เป็นหนังสือพิมพ์แจกฟรี ในเครือเดียวกับโพสต์ทูเดย์ และบางกอกโพสต์) อัตราขายค่าโฆษณาเทียบเท่ากับหนังสือพิมพ์หัวใหญ่แล้ว เราไม่ควรลงทุนหรือ"
"ตอนนี้ใครๆ เขาก็รู้กันว่า หนังสือพิมพ์มันถึงยุคอิ่มตัวแล้ว ซึ่งมันเป็นแบบนี้ เหมือนกันทั้งโลก แล้วเดลินิวส์ จะไม่ทำอะไรเลยหรือ คุณลองไปดูช่อง new)tv ของเราซิ ว่าปัจจุบันมันเป็นอย่างไร"
"ขณะที่เนื้อหาในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ช่วงหลังก็มีคนถามเข้ามาว่า ทำไมแนวทางหนังสือพิมพ์มันถึงกลับไปเหมือนในยุคอดีต ทำไมกลับไปเป็นแบบเดิมอีก"
เมื่อถามว่า มีการมองกันว่า ความขัดแย้งในการบริหารครั้งนี้ เป็นศึกสายเลือดไปแล้ว ดร.ประภา ตอบว่า "มันไม่ใช่ศึกสายเลือกอะไรหรอก แต่มันเป็นการทำอะไรแบบไม่ตรงไปตรงมา ไม่สู้กันแบบเผชิญหน้า มันก็เลยต้องมีปัญหากันแบบนี้"
"ถ้านายห้างแสง (นายแสง เหตระกูล)ยังอยู่ คงไม่ชอบให้มีการทำอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เพราะเราไม่เคยมีนโยบายที่จะทำกับพนักงานแบบนี้ และสำหรับเดลินิวส์ คุณพ่อสอนมาตลอดว่าเราต้องให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงาน ดูแลคนของเราให้เหมือนกับครอบครัวมากที่สุด ใครจะออกไปทำอะไรมันก็เป็นการตัดสินใจของเขา เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกราญ มันไม่ควรเป็นแบบนี้ "
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลอีกส่วนหนึ่ง ที่ยังไม่เคยมีการแพร่งพรายที่ไหนมาก่อน
และน่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่แท้จริง ของศึกสายเลือด คนในตระกูล "เหตระกูล" เจ้าของสื่อยักษ์อีกแห่งในเมืองไทย ที่กำลังร้อนระอุอยู่ในห้วงเวลานี้
ซึ่งเป็นห้วงเวลาได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อ จาก "สื่อเก่า" ไปสู่ "สื่อใหม่"
และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาจต้องแลกมาด้วย "เงินทุนมหาศาล คราบน้ำตา มิตรภาพ สายเลือด" ของคนในครอบครัวเดียวกัน
ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ตอบแทนกลับมา จะคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปทั้งหมดหรือไม่ เวลาเท่านั้น จะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี