เปิดชื่อ! “หมอวรงค์-นิพนธ์ TDRI”พยานชี้ขาดคดีข้าว“ปู” หลังอสส.-ป.ป.ช. รอมชอม ?
“…เมื่อพิจารณาความเป็นเป็นมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า 2 รายนี้เป็นผู้กุมข้อมูลในโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “รัฐมนตรี-บิ๊กข้าราชการ” ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวเลย ถือเป็น “จิ๊กซอว์” สำคัญในคดีนี้ไม่หยิ่งย่อนไปกว่าคนอื่นแม้แต่น้อย !...”
ใกล้สำเร็จเป็นรูปธรรมเข้าไปอีกขั้น !
ภายหลังคณะทำงานร่วมพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุด (อสส.) และฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) “ไฟเขียว” ให้สอบพยานเพิ่ม 2 ราย ในประเด็นระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
เนื่องจากเห็นว่า พยานในคดี “ยิ่งลักษณ์” กล่าวถึงกรณีการระบายข้าวจีทูจี “ขัด-แย้ง” กันเองอยู่ ?
และหากสอบพยาน 2 รายนี้เสร็จแล้ว สำนวนจะสมบูรณ์ ซึ่ง อสส. อาจจะเป็นผู้ฟ้องคดีนี้ได้ !
แม้ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. จะยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ขอสอบพยานเพิ่มเติมตามที่ฝ่าย อสส. ขอมาอย่างแน่นอน เพราะเชื่อมั่นในสำนวนของตัวเองว่า “สมบูรณ์” ทุกอย่างแล้ว
ดังนั้นเมื่อมองแค่ฉากหน้าของฝ่าย อสส. และฝ่าย ป.ป.ช. จะเห็นว่ามีการงัดข้อ-ความเห็นไม่ลงรอยกันตลอดนับตั้งแต่ตั้งคณะทำงานร่วมฯ เมื่อปลายเดือนกันยายน 2557
แต่ไม่แคล้วก่อนหน้าการประชุมร่วมเพียง 1 วัน “บิ๊ก อสส.” รายหนึ่ง ยืนยันว่า “ป.ป.ช. ยอมเราแล้ว”
พร้อมกับท่าทีของนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช. ที่หล่นคำพูดกลางวงแถลงข่าวว่า “ขณะนี้ไม่มีการแสดงความเห็นขัดกันแล้ว ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการทำงานร่วมกัน”
ก่อนจะรับลูก อสส. ขอให้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 2 ราย คือ “ผู้กล่าวหา” และ “นักวิจัยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (TDRI)” พร้อมกับเอกสารหลักฐานอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.-ก.พ. ปี 2558
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า พยานเพิ่มเติมที่ อสส.-ป.ป.ช. เห็นพ้องต้องกันสอบเพิ่มคือ
“นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ฉายา “หมอข้าว” และ “นายนิพนธ์ พัวพงศกร” นักวิชาการเกียรติคุณ TDRI ผู้ทำรายงานวิจัยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว
โดยทั้ง 2 คนนี้เคยถูกคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เชิญไปให้ปากคำในกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาแล้ว !
ไฉนต้องเป็น 2 คนนี้อีก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงความเป็นมาให้เห็นภาพชัด ๆ ดังนี้
ช่วงปลายปี 2555 “หมอข้าว-นพ.วรงค์” ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เพื่อขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสส่อทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในส่วนของการระบายข้าวแบบจีทูจี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยยืนยันหนักแน่นมาตลอดไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาว่า โครงการนี้มีการทุจริตจริง เป็นสาเหตุสำคัญทำให้รัฐบาลไม่มีเงินจ่ายชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว
ต่อมา “หมอวรงค์” ได้เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมแก่ ป.ป.ช. หลายครั้ง ซึ่ง ป.ป.ช. ก็รับไว้พิจารณา และดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่อยมา ก่อนจะมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯ ซึ่งมีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน ต่อมาช่วงต้นปี 2557 มีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายบุญทรง และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พร้อมพวกอีก 15 ราย กรณีส่อทุจริตในโครงการระบายข้าวจีทูจี
ทว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. กลับแยกกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไว้อีกสำนวนหนึ่ง โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กระทำผิดตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
ก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะใช้เวลาเพียง 21 วันในการแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากนั้นได้เรียกพยานเข้ามาสอบปากคำ และมีมติชี้มูลความผิดคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
ส่วน “นิพนธ์ TDRI” ก็มีบทบาทไม่แพ้กันในกรณีนี้ เนื่องจากได้ทำผลงานวิจัยโครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต : การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกินและเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าว ที่ ป.ป.ช. ใช้เป็นหลักฐานในคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
อย่างไรก็ดีเป็นที่ฮือฮากันมาก ภายหลัง อสส. ออกมายืนยันว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งมาให้อ่านแค่ “หน้าปก” เท่านั้น
พร้อมถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า งานวิจัยดังกล่าวเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคมปี 2554 หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อนุมัติโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2554/2555 ในเดือนกันยายนปี 2554 เพียง 1 เดือน
ต่อมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวคือ โครงการวิจัย “คอร์รัปชั่น กรณีศึกษา : โครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด” พร้อมชี้ให้เห็นว่ามูลค่ารวมในการทุจริตระบายข้าวสูงถึงหลักล้านล้านบาท
ก่อนจะยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่ได้เป็นผู้สืบสวนเรื่องทุจริต เป็นเพียงนักวิชาการทำผลวิจัยประมาณมูลค่าการทุจริตเท่านั้น"
เมื่อพิจารณาความเป็นเป็นมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า 2 รายนี้เป็นผู้กุมข้อมูลในโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “รัฐมนตรี-บิ๊กข้าราชการ” ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวเลย
ถือเป็น “จิ๊กซอว์” สำคัญในคดีนี้ไม่หยิ่งย่อนไปกว่าคนอื่นแม้แต่น้อย ?
ที่น่าสนใจคือ ในการให้ปากคำในฐานะพยานของ ป.ป.ช. ไฉนทั้ง 2 ราย กลับให้ข้อมูลในเรื่องการระบายข้าวจีทูจี “ขัดแย้ง” กันได้ ?
ต้นปีหน้าคณะทำงานร่วมฯระหว่างฝ่าย อสส.-ป.ป.ช. คงมีความกระจ่าง !
อ่านประกอบ :
คณะทำงานคดีข้าว“ปู”ไฟเขียวสอบพยานเพิ่มปมจีทูจี- ลั่นนิมิตดีไม่ขัดกัน
ประมวลฉากหน้า-เบื้องหลัง 4 เดือนคณะทำงานร่วมฯคดีข้าว“ยิ่งลักษณ์”
'ดร.นิพนธ์' พบข้าวเสื่อมพุ่ง 85% คาดขาดทุนใหม่ บักโกรกเฉียดล้านล้านบาท
โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง “การคอร์รัปชั่นกรณีการศึกษา : โครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด”
หมายเหตุ : ภาพประกอบ นพ.วรงค์ จาก prachachat, ภาพ นายนิพนธ์ จาก thaipublica