ระทึกซ้ำ!เขื่อนบางลางแจ้งปล่อยน้ำ ไม่วายบึ้มตู้โทรศัพท์
ชายแดนใต้อ่วมต่อ หลังเขื่อนบางลางแจ้งระบายน้ำวันละ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร เหตุรับมวลน้ำไหลเข้าไม่ไหว ปัตตานีทะลักท่วมถนนสายหลักในเขตเมือง ยะลาน้ำขังนานผวาต้นยางเน่า สัตว์เลี้ยงป่วย นราธิวาสยังเตือนดินถล่ม ยังไม่วายมีประทัดยักษ์ป่วน
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังคงวิกฤติ หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมารายงานสภาพอากาศและระบุว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธที่ 24 ธ.ค.57
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีหนังสือจากหัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา แจ้งเรื่องการระบายน้ำภายในเขื่อนต่อผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี ระบุว่า ปีนี้มีฝนตกหนักมาก ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางถึงประมาณวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนบางลางได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ท้ายน้ำ จึงได้หยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค.57
ทว่าจากการคาดการณ์ตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่ายังจะมีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าอ่างอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน กฟผ.จึงมีความจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ โดยระบายน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 2 เครื่อง เพื่อเป็นการพร่องน้ำและหลีกเลี่ยงผ่านทางประตูระบายน้ำล้น หรือ สปิลล์เวย์ จึงมีความจำเป็นต้องเดินเครื่องตั้งแต่ 24 ธ.ค.เป็นต้นไป ปริมาณน้ำวันละไม่เกิน 7 ล้านลูกบาศก์เมตร
ปัตตานีอ่วม-น้ำเอ่อท่วมเขตเมือง
ที่ จ.ปัตตานี วันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. น้ำจากแม่น้ำปัตตานีได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีเป็นวงกว้าง เช่น ถนนโรงอ่าง, ต.จะบังติกอ และถนนสายหลักหลายสายใน อ.เมือง
ส่วนพื้นที่หมู่ 2 บ้านจางา หมู่ 2 บ้านยือโม๊ะ ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 30 เซนติเมตร ทำให้ถนนทางเข้าหมู่บ้านน้ำท่วมกว่า 1 เมตร ขณะที่ในหมู่บ้านที่ตั้งติดอยู่แม่น้ำปัตตานีระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตรแล้ว ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน
โอกาสนี้ นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้นำถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จำนวน 120 ถุง ขึ้นเรือท้องแบนเพื่อน้ำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน
ยะลาอ่วมน้ำทะลัก - ระทึก ฮ.ทหารตกเจ็บ4
ที่ จ.ยะลา หลายอำเภอมีปริมาณน้ำสูงขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.นราธิวาส และยังมีน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำสายบุรี กับแม่น้ำปัตตานี ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูงก็เช่น อ.รามัน อ.ยะหา อ.เมือง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ธ.ค. เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบเบลล์ 206 หมายเลข 446 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ประสบเหตุตกที่บ้านปอเยาะ หมู่ 4 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ขณะปฏิบัติภารกิจสำรวจสภาพพื้นที่น้ำท่วมใน จ.ยะลา ทำให้กำลังพลของทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย
รายชื่อทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ ร.ท.อภิสิทธิ์ พระหะชา อายุ 32 ปี จ.ส.อ.กิตติพงษ์ แสนทิช อายุ 37 ปี ร.อ.เสกสรร ภูริผล อายุ 33 ปี และ จ.ส.อ.สงวน หมื่นคำเรือง อายุ 55 ปี ทั้งหมดอาการไม่สาหัส
พบศพครูคาดตกน้ำ - หวั่นต้นยางเน่า
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบศพ นายเจ๊ะอับดุลเลาะ ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี ในเขื่อนชลประทานแม่น้ำปัตตานี หมู่ 4 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ทั้งนี้ นายเจ๊ะอับดุลเลาะ วัย 33 ปี เป็นครูโรงเรียนนิคมพัฒนาภาคใต้ 13 ตั้งอยู่บ้านซอยเหมือง หมู่ 7 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ญาติแจ้งหายเอาไว้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งมาเจอศพ คาดว่าตกน้ำเสียชีวิต
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นเวลานานเริ่มทำให้สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านป่วยและขาดแคลนอาหาร ขณะที่สวนยางพาราซึ่งต้องยืนต้นแช่น้ำ อาจทำให้ต้นยางเน่า ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ในสภาวะเครียดมากขึ้น และวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งปศุสัตว์จังหวัด และสำนักงานเกษตรจังหวัด ออกให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน
นราธิวาสเตือนภัยดินถล่มซ้ำ
ที่ จ.นราธิวาส นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสกล่าวว่า สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากที่สุดในขณะนี้ คือ ปัญหาดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ของนราธิวาส เพราะมีแนวภูเขา และปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสูงกว่าค่าปกติในรอบ 20 ปี ทำให้ดินอุ้มน้ำต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 7 วัน จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ใกล้แนวภูเขาเร่งอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน
ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมและวาตภัย ให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมเก็บของมีค่าหรือเครื่องใช้ในบ้านไว้ในที่สูงก่อน
อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ระดับน้ำยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำที่ไหลจากเทือกเขาสันกาลาคีรีทะลักสู่หมู่บ้านและสวนยางพารา ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปความเสียหายได้
สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวม3จังหวัด
สรุปภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ 51 ตำบล 237 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 14,967 ครัวเรือน 37,871 คน เสียชีวิต 2 ราย ถนนได้รับความเสียหาย 39 สาย สะพานชำรุด 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1 แห่ง
จ.นราธิวาส มีพื้นที่ประสบภัย 13 อำเภอ 76 ตำบล 483 หมู่บ้าน 24 ชุมชน 44,524 ครัวเรือน 159,980 คน มีผู้ประสบภัยบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 2 ราย มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 19 หลัง เสียหายบางส่วน 536 หลัง โรงงาน 2 แห่ง ยานยนต์ 93 คัน พื้นที่การเกษตร 2,387 ไร่ ถนน 105 สาย สะพาน/คอสะพาน 34 แห่ง ดินโคลนถล่ม 9 แห่ง มัสยิดและวัด 8 แห่ง โรงเรียนปิด 169 แห่ง สถานที่ราชการ 14 แห่ง
จ.ปัตตานี ทางจังหวัดประกาศให้ 8 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยะรัง อ.ทุ่งยางแดง อ.ยะหริ่ง อ.หนองจิก อ.สายบุรี อ.กะพ้อ และ อ.แม่ลาน มีพื้นที่ประสบภัย 37 ตำบล 137 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5,000 ครัวเรือน 18,824 คน เสียชีวิต 1 ราย
เทศบาลพะตง หาดใหญ่ น้ำเอ่อ
วันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บนถนนกาญจนวนิช ฝั่งมุ่งหน้า อ.สะเดา จ.สงขลา มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้การจราจรติดขัด รถเล็กผ่านลำบาก
ส่วนพื้นที่เขตเทศบาลฝั่งชุมชนตลาดทุ่งลุง และเขตรอยต่อของพื้นที่บ้านทุ่งมะขาม หมู่ 1 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองอู่ตะเภา ได้มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรื่องและสวนยางพาราของประชาชนทั้งสองฝั่งคลอง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเริ่มออกหาซื้อข้าวสารอาหารแห้ง หลังจากทราบข่าวพยากรณ์อากาศว่า จะมีฝนตกต่อเนื่องถึงวันพุธที่ 24 ธ.ค.
ขณะที่สถานการณ์น้ำในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่โดยรวมยังอยู่ในสภาวะปกติ (ธงเขียว) แต่ในพื้นที่ 8 ชุมชนที่ตั้งอยู่ตามแนวคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำที่ 1 ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด (ธงเหลือง)
ยังไม่วายบึ้มตู้โทรศัพท์-ตัดฟันต้นยาง
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นประปราย โดยเมื่อเช้าวันอังคารที่ 23 ธ.ค.57 เวลาประมาณ 06.10 น. เกิดระเบิดขึ้นบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะ ใกล้กับสถานีบริการน้ำมัน บ้านนัดฆอมิส หมู่ 5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจใช้ประทัดยักษ์ปาใส่ตู้โทรศัพท์เพื่อสร้างสถานการณ์
วันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ของมีคมตัดฟันต้นยางพาราอายุประมาณ 2-3 ปี ได้รับความเสียหายจำนวน 36 ต้น เหตุเกิดในท้องที่หมู่ 2 และหมู่ 12 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
วันอาทิตย์ที่ 21 ธ.ค.เวลา 18.30 น. พ.ต.ท.มานิตย์ เอี่ยวสกุล พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยปลิง รับแจ้งเหตุมีประชาชนถูกยิงบนถนนสายนิคมเทพา-โคกโพธิ์ ท้องที่บ้านนาจวบ หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบ นางเยาวพา ขวัญสุรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/1 หมู่ 11 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลเทพา พร้อมเก็บปลอกกระสุนไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางเยาวพากำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กวข 103 ปัตตานี มุ่งหน้ากลับบ้าน โดยใช้ถนนสายเทพา-โคกโพธิ์ แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายประกบยิงจนได้รับบาดเจ็บก่อนจะเร่งเครื่องรถหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 น้ำท่วมถนนสายหลักในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
2 หนังสือแจ้งการระบายน้ำจากเขื่อนบางลาง
3-4 น้ำเอ่อท่วมในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้เด็กๆ ออกมาเล่นน้ำ
5 น้ำท่วมสูงในเขตเทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
6 คนร้ายปาประทัดยักษ์ใส่ตู้โทรศัพท์ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี
ขอบคุณ : ภาพที่ 6 จากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ และทีมกู้ชีพ-กู้ภัยสันติปัตตานี