ไม่ชัวร์!มีอำนาจสอบกก.ป.ป.ช. “ปานเทพ”ชงปม“ภักดี”ถกที่ประชุม 18 ธ.ค.
“ปานเทพ” ไม่ชัวร์มีอำนาจสอบ กก.ป.ป.ช. รายอื่น ชี้ไม่มีในข้อกฎหมาย ชงปม “ภักดี” หารือที่ประชุม 18 ธ.ค.นี้ ยันเรื่องจบไปนาน-ทุกอย่างถึงที่สุดหมดแล้ว ขีดเส้น! องค์กรตรวจสอบต้องอิสระ ขอปฏิรูปอย่าสุดโต่ง
จากกรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจากลาออกจากกรรมการบริษัทเอกชนเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้น
(อ่านประกอบ : “สุรพงษ์”จี้ปธ.ป.ป.ช.สอบ“ภักดี”ขาดคุณสมบัติ-ยันไม่เกี่ยวคดีจำนำข้าว)
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ได้รับทราบแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว มีการฟ้องร้องเป็นคดีความในชั้นศาล มีการดำเนินการถอดถอน แต่ก็จบไปหมดทุกอย่างแล้ว ขณะเดียวกันการตรวจสอบคุณสมบัติก็มีขึ้นก่อนการเข้ามาเป็นกรรมการ ป.ป.ช. อยู่แล้ว ซึ่งนายภักดีเองก็ทราบ อย่างไรก็ดียังสงสัยว่าอำนาจหน้าที่ของตนมีสิทธิตรวจสอบกรรมการ ป.ป.ช. คนอื่นหรือไม่ และจะตรวจสอบได้อย่างไร เพราะไม่มีการระบุไว้ในกฎหมาย ดังนั้นต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 18 ธันวาคม 2557 เพื่อพิจารณา และเปิดโอกาสให้นายภักดีเป็นผู้ชี้แจง
นายปานเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีการดำเนินการในลักษณะนี้ เพราะหากมีปัญหาก็จะมีการร้องต่อศาล หรือไม่ก็ยื่นถอดถอนในทีประชุมวุฒิสภา แต่ไม่เคยมีกรณี ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยกันเอง
“จริง ๆ ก็สงสัยประธาน ป.ป.ช. จะสอบกรรมการ ป.ป.ช. ยังไง ไม่แน่ใจว่ามีอำนาจสอบกรรมการด้วยกันเอง เพราะมันไม่มี ดังนั้นต้องดูในข้อกฎหมาย และนำเรื่องเข้าที่ประชุมก่อน” นายปานเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีกรรมการขาดคุณสมบัติคดีที่เคยชี้มูลจะต้องเป็นโมฆะหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างที่เลขาธิการ ป.ป.ช. (นายสรรเสริญ พลเจียก) ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ไม่น่าจะมีผลย้อนหลัง เพราะถ้ามีก็จะยุ่งกันใหญ่ จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะส่วนใหญ่เวลาดำเนินการจะเป็นมติของกรรมการทั้ง 9 คน ไม่ใช่แค่กรรมการคนใดคนหนึ่ง
นายปานเทพ กล่าวถึงการปฏิรูปประเทศขณะนี้ด้วยว่า ช่วงนี้มีการเสนอความคิดเห็นเยอะแยะไปหมด แต่ปฏิรูปคือการทำให้ดีขึ้น และต้องทำในสิ่งที่ทำได้ ถ้าปฏิรูปในสิ่งที่ทำไม่ได้ก็จะมีปัญหา ทั้งนี้ก่อนปฏิรูปควรสอบถามผู้ที่เข้าปฏิบัติหรือองค์กรนั้น ๆ ด้วย เช่น จะปฏิรูป ป.ป.ช. ก็ต้องถามมาทางเราก่อน เป็นต้น จะได้ทำงานสอดคล้องกับการปฏิรูป ดังนั้นปฏิรูปต้องเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ถ้าเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติก็ไม่ใช่ปฏิรูป
ส่วนกรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้ปฏิรูปองค์กรยุติธรรมทั้งหมด นายปานเทพ กล่าวว่า ท่านอาจเสนอในมุมมองของท่าน ก็ยืนยันว่าอย่าสุดโต่ง หลักสำคัญที่สุดคือ องค์กรตรวจสอบต้องเป็นอิสระ ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยว่าต้องเป็นอิสระ ปลอดจากด้านบริหาร ถ้าไม่เป็นอิสระมันทำงานไม่ได้ และต้องดูตัวเองว่าให้เที่ยงตรงด้วย
อ่านประกอบ : ไม่ห่วง!“ปึ้ง”ยื่นสอบกก.ป.ป.ช.ขาดคุณสมบัติ “สรรเสริญ”ยันคดีไม่มีโมฆะ