เผยโฉมที่ตั้ง"คณะบุคคลปณสุ-น้ำทิพย์"พันคดีอ้างสถาบันประมูลเครื่องเสวย
สำนักข่าวอิศรา:เผยภาพชุดที่ตั้ง "คณะบุคคลปณสุ-น้ำทิพย์" พัวพันคดีแอบอ้างสถาบันประมูลธุรกิจทำเครื่องเสวยในวัง บ้านหรู 2 ชั้น ซ.ทวีวัฒนา 49 มีสัญญาลักษณ์ "มังกร" บนกำแพงรั้วประตู คนในบ้านขนของขึ้นรถตู้เคร่งเครียด
นอกเหนือจากการปรากฎรายชื่อเป็นเจ้าของ "ร้านคาเฟ่ เดอ สุวรรณภูมิ" ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกับบริษัท ศิรินทิพย์ 2007 จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท อัครพงศ์ปรีชา จำกัด) ทุน 2 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจร้านอาหาร
เบื้องต้น จากการตรวจสอบของสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พบว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งปี 2549 จนถึงปี 2556 มีรายได้รวม 112,017,881.75 บาท ขาดทุนสุทธิ 2 ปี (2549-2550) หลังจากนั้นมีกำไรต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551-2556 กำไรสะสม 184,819.30 บาท
(อ่านประกอบ : เปิด 5 คนสกุล“อัครพงศ์ปรีชา”ในบริษัทครอบครัว“สุดาทิพย์-ณรงค์”, ผ่าขุมทรัพย์ร้านอาหาร“สุดาทิพย์-เครือญาติ”112 ล้าน - กำไรหลักแสน )
ในการควบคุมตัว นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล (นามสกุลเดิมอัครพงศ์ปรีชา) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2238/2557 ลงวันที่ 10 ธ.ค.57 ในความผิดตามป.อาญามาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุข้อมูลว่า นางสุดาทิพย์ ทำธุรกิจใช้ชื่อ คณะบุคคลปณสุ และคณะบุคคลน้ำทิพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 2/3 หมู่ 9 ถนนทวีวัฒนา แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม. แอบอ้างเบื้องสูงจนได้การประมูลธุรกิจทำเครื่องเสวย และครัวข้าราชบริพาร คณะบุคคลปณสุ ขายผักสด และผักลวก และคณะบุคคลน้ำทิพย์ ขายน้ำพริกต่างๆ ส่งวังศุโขทัยและพระที่นั่งอัมพรสถาน และมีพฤติการณ์แอบอ้างเบื้องสูง
โดยธุรกิจ คณะบุคคลปณสุ มีรายได้ 3-4 แสนบาทต่อเดือน ส่วนคณะบุคคลน้ำทิพย์ มีรายได้ 6-7 แสนบาทต่อเดือน
ล่าสุดในช่วงเย็นวันที่ 12 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูล คณะบุคคลปณสุ และคณะบุคคลน้ำทิพย์ ตามที่อยู่เลขที่ 2/3 หมู่ 9 หมู่บ้านอนันตธารา(ซ.ทวีวัฒนา49) ถนนทวีวัฒนา แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม.
เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นบ้านจัดสรรในหมู่บ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง มีการแลกบัตรเข้า-ออก เข้มงวด
ตัวบริษัทเป็นบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น มีสัญญาลักษณ์ "มังกร" บนกำแพงรั้วประตูทางเข้า ภายในมีรถกระบะป้ายแดง จอดอยู่ 1 คัน หน้าบ้านมีรถตู้จอดอยู่ 1 คัน รถกระบะ 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน
คนในบ้านกำลังช่วยกันขนของขึ้นรถตู้อยู่อย่างเคร่งเครียด
(ดูภาพประกอบ)
เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปติดต่อคนในบ้าน ว่า ต้องการขอสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวกับกับคณะบุคคลปณสุ และคณะบุคคลน้ำทิพย์ ตามข้อมูลที่ปรากฎเป็นข่าว
แต่ได้รับแจ้งว่า "ไม่สะดวก" และไม่ได้รับการชี้แจงข้อมูลอะไรอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังร้านคาเฟ่ เดอ สุวรรณภูมิ เพื่อสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่พนักงานในร้านปฏิเสธที่จะชี้แจงข้อมูลเช่นกัน
5 ปีก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล สามี นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ครอบครัวทำร้านอาหารชื่อ "ปณสุ" โดยตั้งชื่อตามพี่น้องของภรรยาที่ร่วมหุ้นกันระหว่าง ปณิดา ณรงค์ และ สุดาทิพย์
ล่าสุด แนวหน้าออนไลน์ รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. พล.ต.ท.ศรีวรา รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทรจินดา ผบก.สส.บช.น. และพ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยความคืบหน้าคดีของนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ผู้ต้องหาผิดมาตรา 112 ว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน รับผิดชอบคดีนี้ ซึ่งจะเร่งสอบสรุปสำนวนโดยเร็วที่สุด
ขณะที่พล.ต.ต.ภัครพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานในคดีนี้ ประกอบด้วย พล.ต.ต.ภัครพงษ์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และ ผบก.น.1 รอง ผบก.น.1 รอง ผบก.น.5 ผกก.สน.สามเสน พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.สามเสน และร้อยเวร สน.สามเสน
พล.ต.ต.ภัครพงษ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นต้องคุยกับพนักงานสอบสวน ว่า พลอากาศตรีที่มาแจ้งความให้การว่าอย่างไร โดยต้องไปตรวจสอบว่าเมื่อปี 2545 การทำธุรกิจของนางสุดาทิพย์ ในวังเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีข้อกำหนดว่าเกินวงเงินเท่าไหร่ต้องมีการประมูล อย่างไรก็ตามต้องไปสอบสวนเรื่องข้อกฎหมายว่า หากธุรกิจของนางสุดาทิพย์ ไม่ได้มีการประมูล แล้วสามารถเข้ามาทำได้อย่างไร ใครเป็นผู้อนุญาต
พล.ต.ต.ภัครพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ทาง ผบช.น. กำชับว่าหากสอบสวนมีใครเกี่ยวข้องอีก ก็ต้องออกหมายจับเพิ่ม ส่วนธุรกิจของนางสุดาทิพย์ ที่มีหุ้นส่วนชื่อ น.ส.ปาลิตา หลักเฉลิมพร ร่วมธุรกิจด้วย ในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ อยู่ที่ 2/3 ม.9 ถนนทวีวัฒนา แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม. ได้ประมูลขายน้ำพริกประเภทต่างๆ มีรายได้ประมาณ 6-7 แสนบาทต่อเดือน และแอบอ้างเบื้องสูงได้ประมูลเครื่องเสวย ในนามคณะบุคคลปณสุขายผักสด และผักต้ม มีรายได้ประมาณ 3-4 แสนบาทต่อเดือน ก็ต้องตรวจสอบในสำนวนการสอบสวนว่ามีความผิดด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ผู้ที่มาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับนางสุดาทิพย์ มีเพียงคนเดียว
อย่างไรก็ตาม ต้องไปตรวจสอบว่าใบรับรองของบริษัทใครเป็นผู้ลงนามเจ้าของ หาก น.ส.ปาลิตา เป็นผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียวก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่หากเป็นกรรมการผู้อนุญาตลงนาม มีการประชุมและรับรู้เรื่องราวในบริษัท ก็จะมีความผิดด้วย
ส่วนการฟ้องร้องคดี พนักงานสอบสวนสน.สามเสน ได้นำน.ส.สุดาทิพย์ ยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
คำร้องสรุปว่า ระหว่างปี 2545 ถึงวันที่ 23 พ.ย. 2557 ต่อเนื่องกัน น.ส.สุดาทิพย์ อาศัยความเป็นพระญาติในสถาบันเบื้องสูง จัดหาอาหาร น้ำพริก พร้อมเครื่องเคียง เช่น ผักสด ผักลวกต่างๆ นำส่งวังศุโขทัย หากมีร้านค้าอื่นๆ ประสงค์เข้ามาประมูลราคา ผู้ต้องหาจะแอบอ้างตนเองเป็นพระญาติว่ามีคำสั่งให้เป็นผู้จัดหาอาหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นลักษณะแอบอ้างเบื้องสูง หมิ่นสถาบันทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กองกิจการในพระองค์ฯ จึงมอบอำนาจให้พล.อ.ต.วีระพันธ์ ภูวจินดา ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สามเสน ให้ดำเนินคดีน.ส.สุดาทิพย์ ม่วงนวล กับพวก
ต่อมาญาติของน.ส.สุดาทิพย์ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิด มีอัตราโทษสูง อีกทั้งผู้ต้องหาถูกจับตามหมายจับ หากปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำน.ส.สุดาทิพย์ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง บางเขน
หมายเหตุ : ภาพประกอบ น.ส.สุดาทิพย์ จาก bangkokbiznews.com
อ่านประกอบ :
"โกวิท"สามี"สุดาทิพย์"ยันขึ้นป้ายขายสวนผึ้งรีสอร์ทจริง แค่ 5 ล้านก็เอา บอก"เหนื่อย"
ฮือฮา!เจ้าของ"สวนผึ้งรีสอร์ท"ประกาศขายกิจการ สั่งรื้อทิ้งพื้นที่ส่วนเกิน10ไร่)
พลิกปูม “ณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา” อดีตขรก.สำนักพระราชวัง คดีอ้างเบื้องสูง
พลิกปูมหลังลึก 5 ผู้ต้องหา คดีอ้างสถาบันเบื้องสูงเครือข่าย“พงศ์พัฒน์”
ขุมธุรกิจ“อัครพงศ์ปรีชา-ม่วงนวล”คดี“พงศ์พัฒน์”
เปิดรีสอร์ท พ.ต.อ.โกวิท-สุดาทิพย์ โยงคดีพงศ์พัฒน์ ก่อนได้ประกันตัว
ราชเลขานุการฯ ทำหนังสือแจ้งยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน “อัครพงศ์ปรีชา”