ธกส.เงินไม่พอรับจำนำข้าว-9กย.กนข.ถกรายละเอียด
“กิตติรัตน์” เผยประชุม กนข. 9 ก.ย.พิจารณารายละเอียดการรับจำนำข้าวที่จะเริ่ม 7 ต.ค. ถกป้องกันทุจริต-เตรียมเดินสายโรดโชว์ขายข้าวต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กชช.) วันที่ 9 กันยายน จะมีการพิจารณารายละเอียดและกรอบการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ที่จะเริ่มในวันที่ 7 ตุลาคม ส่วนการป้องกันปัญหาการทุจริต จะหารือกันทุกขั้นตอน และนำจ้อเสนอของนักวิชาการมาหารือด้วย นอกจากนี้ จะมีการแสดงรายละเอียดแผนการใช้เงิน ซึ่งมีการคำนวณรายละเอียดไว้หมดแล้ว
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า หลังเริ่มโครงการรับจำนำข้าว ตนจะเดินสายโรดโชว์ไปยังประเทศที่รับซื้อข้าวจากไทย เพื่อยืนยันว่าการตั้งราคาข้าวในโครงการจำนำไว้สูงถึง 15,000-20,000 บาท ไม่ได้เป็นการปั่นราคาข้าว แต่เป็นการช่วยเหลือชาวนาไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เชื่อว่าประเทศคู่ค้าจะเข้าใจว่าการกำหนดราคาดังกล่าว คำนวณมาจากค่าใช้จ่ายการเพาะปลูกที่เหมาะสมในปัจจุบันและไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารนำไปเป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาข้าว
“ผมขอเป็นตัวแทนชาวนาไทย ต่อรองราคาข้าวสูงขึ้น เพราะชาวนาจนกันมามากแล้ว ปีหนึ่งปลูกข้าวกันได้แค่ 2 ครั้ง ข้าวหอมมะลิปลูกได้ปีละครั้ง ถ้าไม่ปรับราคาข้าวเพิ่มขึ้น เขาก็จะจนแบบนี้ต่อไป มันถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องช่วยเหลือชาวนาเต็มที่ ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น ให้อยู่ได้ ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าว ก็ควรให้ความช่วยเหลือด้วย” นายกิตติรัตน์กล่าว
นาย กิตติรัตน์กล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่ามีคนบางกลุ่มโทรศัพท์ไปหาผู้ส่งออกข้าวว่าสามารถจัดสรร สต๊อกข้าวรัฐบาลมาขายให้ได้นั้น ไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่ แต่ถ้าใครที่มีเจตนาทุจริตในโครงการรับนำจำข้าว ก็ขอให้หยุด เพราะรัฐบาลตั้งใจทำเพื่อช่วยเหลือชาวนา ต้องไม่มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น ล่าสุด ตนมีโอกาสหารือกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง ทราบว่าเป็นพืชที่ให้กำไรดี และเพิ่มธาตุปลูกในดินได้ด้วย จึงมีความคิดที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว นำพั่วเหลืองมาปลูกสลับกับข้าว เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวนาอีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่รัฐบาลจะรับจำนำข้าวนาปี 2554/2555 ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งคาดว่าฤดูกาลผลิตนี้จะมีผลผลิตข้าวประมาณ 25 ล้านตันนั้น ธ.ก.ส.ในฐานะแหล่งเงินในการรับจำนำคาดว่าจะต้องใช้เงินในการรับจำนำข้าว ประมาณ 4 แสนล้านบาท สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม 2.9 แสนล้านบาท
"ธนาคาร มีสภาพคล่องดำเนินการได้ก่อนในช่วงแรกแค่ 9 หมื่นล้านบาท รองรับปริมาณข้าวได้ 6 ล้านตันน่าจะใช้ได้ถึงประมาณกลางเดือนธันวาคมนี้ หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จัดหาเงินกู้ให้ในรูปของซินดิเคตโลนในวงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นแกนนำและอาจใช้แบงก์รัฐด้วยกัน เช่น ทหารไทย ออมสิน เป็นต้น" นายลักษณ์กล่าว
นายลักษณ์กล่าวว่า เงินกู้ดังกล่าว ธ.ก.ส.จะเป็นผู้ลงนามในสัญญา แต่กระทรวงการคลังต้องนำเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาชดเชยดอกเบี้ยให้ คาดว่าจะได้รับเงินประมาณต้นเดือนธันวาคม เพื่อรองรับปริมาณข้าวที่จะออกมามากในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ซึ่งจะรองรับปริมาณข้าวเข้าโครงการได้อีกไม่เกิน 9 ล้านตัน รวมเงิน 2 ก้อนใช้รองรับได้ 15 ล้านตัน ไม่ถึง 25 ล้านตัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาข้าวในตลาดด้วย
นายลักษณ์กล่าวว่า หากโครงการรับจำนำสามารถดึงราคาข้าวในตลาดให้ขึ้นมาใกล้เคียงกับราคารับจำนำ ก็อาจทำให้เกษตรกรไม่เข้าโครงการมากอย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มก็อาจให้ สบน.จัดหาเงินกู้ให้เพิ่มเติม เพราะเบื้องต้นคาดว่า ธ.ก.ส.จะได้รับการจัดสรรงบชำระหนี้เดิมในปีงบประมาณ 2555 เพียง 3.6 หมื่นล้านบาท จากหนี้คงค้างกว่า 1 แสนล้านบาท ก็อาจนำเงินจำนวนนี้มาใช้ก่อน หากไม่พอจึงจะขอให้กู้มาใช้เพิ่มเติม