9 ประเทศ เตรียมออกกม.ซองบุหรี่แบบเรียบ ลุ้นตัดสินไม่ขัดกฎ WTO
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า จากข่าวที่ปรากฏในเว็บไซต์ของสำนักเลขานุการอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ที่เข้าให้การต่อคณะมนตรีทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับการค้า ทริปส์ และคณะมนตรีการกีดกันทางการค้าด้านเทคนิค ทีบีที ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization:WTO) เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบที่ห้ามพิมพ์โลโก้และเครื่องหมายการค้าไม่ได้ขัดต่อทั้งข้อตกลงทริปส์ และทีบีที
โดยการเข้าให้การดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการพิจารณาคำฟ้อง กรณีที่มี 5 ประเทศ อันประกอบด้วย ยูเครน โดมินิกัน ริพับบลิค ฮอนดูรัส คิวบา และอินโดนีเซีย ฟ้องต่อ WTO ว่า กฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบขัดต่อข้อตกลงทริปส์ และทีบีที
ทั้งนี้ ดร.เวรา ดา คอสตา ซิลวา สำนักงานเลขาธิการอนุสัญญาควบคุมยาสูบให้การว่า อนุสัญญาควบคุมยาสูบที่มี 179 รัฐภาคีเป็นสมาชิก มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสุขภาพของชนรุ่นปัจจุบัน และอนาคตจากพิษภัยร้ายแรงของยาสูบและการได้รับควันยาสูบ รัฐภาคีมีพันธกรณีที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดของอนุสัญญา โดยข้อกำหนดในอนุสัญญาเป็นมาตรการขั้นต่ำ แต่ละรัฐภาคีมีเอกสิทธิ์ที่จะใช้มาตรการควบคุมยาสูบที่เข้มงวดกว่าที่กำหนดในอนุสัญญา
ซึ่งมาตรการซองบุหรี่แบบเรียบเป็นข้อกำหนดข้อ 11 ว่าด้วยการเตือนพิษภัยยาสูบ โดยซองบุหรี่แบบเรียบเพิ่มประสิทธิภาพการเตือนพิษภัย และข้อ 13 ว่าด้วยการห้ามโฆษณา โดยงานวิจัยพบว่าซองบุหรี่แบบเรียบมีวัตถุประสงค์เพื่อขจัดอิทธิพลจากการโฆษณาโดยการพิมพ์เครื่องหมายการค้าบนซองบุหรี่
ทั้งนี้ กรณีขัดแย้งดังกล่าว เป็นที่สนใจของประเทศสมาชิก WTO อย่างมาก โดยมี 30 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยแสดงความจำนงเข้าร่วมให้ความคิดเห็นในกรณีพิพาท
คณะลูกขุนประจำคดีที่ประธานมาจากประเทศแอฟริกาใต้ และอีกสองท่านมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และบาร์บาดอส คาดการณ์ว่า จะสามารถตัดสินคดีดังกล่าวในต้นปี ค.ศ.2016
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีอย่างน้อย 9 ประเทศ ที่ประกาศจะออกกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบ โดยรอการตัดสินของคณะลูกขุนว่า ขัดต่อกฎระเบียบของดับเบิลยูทีโอหรือไม่