สั่งประหาร5มือยิงทหารดับ4ที่มายอ แก๊งบึ้มเทพาไม่เข้า ม.21 เจอคุก35ปี

ศาลจังหวัดปัตตานีพิพากษาประหารชีวิต 5 จำเลยควบกระบะยิงทหารชุดลาดตระเวนดับ 4 ที่มายอต่อหน้ากล้องวงจรปิดเมื่อปี 55 อีกคดีสั่งจำคุกแก๊งบึ้มตลาดนิคมเทพา แฉ 4 คนที่ไม่ยอมเข้ากระบวนการอบรมตามมาตรา 21 โดนคุก 35 ปี 

          เมื่อวันพุธที่ 26 พ.ย.57 ศาลจังหวัดปัตตานีได้อ่านคำพิพากษาคดีคนร้ายมีรถกระบะ 4 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15321 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 (ร้อย ร.15321 ฉก.ปัตตานี 25) ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางด้วยรถจักรยานยนต์ 3 คัน บนทางหลวงหมายเลข 4061 มายอ–ปาลัส ท้องที่บ้านดูวา หมู่ 3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้กำลังพลเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดเมื่อเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.55

          ทั้งนี้ ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ (อัยการ) สอดคล้องต้องกัน ขณะที่ผลตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ตามยึดได้ก็ตรงกับอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมทั้งหลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย 5 คน คือ นายอิสมาแอ ดาโอง, นายมะซาฮาฟี มีทอ, นายกอเดร์ เจะแต, นายนิมูหัมหมัด นิเซ็ง และ นายฮิสบุลลอฮ บือซา

          ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 5 คนพร้อมญาติพี่น้องที่ตามไปให้กำลังใจ เมื่อได้ฟังคำพิพากษาถึงกับอึ้ง บางคนน้ำตาไหลออกมา อย่างไรก็ดี จำเลยยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด

          สำหรับจำเลยทั้ง 5 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงติดตามจับกุมได้เมื่อปลายเดือน ก.ย.55 หลังก่อเหตุได้ประมาณ 2 เดือน โดย 4 คนใน 5 คนยอมรับสารภาพในชั้นสอบสวน

          เหตุการณ์รุมยิงทหารจนเสียชีวิตถึง 4 นายในคราวเดียวนี้ เป็นข่าวครึกโครมอย่างมาก เพราะคนร้ายก่อเหตุต่อหน้ากล้องโทรทัศน์วงจรปิด เหมือนจงใจเย้ยเจ้าหน้าที่ โดยช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.55 คนร้ายเกือบ 20 คน มีรถกระบะ 4 คันเป็นพาหนะ ขับเข้าประกบทหารชุดลาดตระเวน ร้อย ร.15321 ขณะขี่รถจักรยานยนต์เรียงแถวกันบนถนนสายมายอ-ปาลัส จากนั้นใช้อาวุธสงครามหลายกระบอกระดมยิงแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ทหารเสียชีวิตทันที 4 นาย คือ ส.อ.ลือชัย จุลทอง อายุ 26 ปี พลทหารเบญจรงค์ สีแก้ว อายุ 22 ปี พลทหารเอกลักษณ์ สีดอกไม้ อายุ 22 ปี และพลทหารภาคิน หงส์มาก อายุ 22 ปี นอกจากนั้นยังมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย คือ ส.อ.ปรีดา นพคุณ อายุ 30 ปี และ พลทหารอาคม ชูกล่อม อายุ 22 ปี ซึ่งพลทหารอาคมแข็งใจใช้ปืนประจำกายยิงต่อสู้จนคนร้ายที่มาเกือบ 20 คนต้องล่าถอยไป แต่ก็ยังชิงอาวุธปืนและเสื้อเกราะของทหารที่เสียชีวิตหลบหนีไปด้วย

          สำหรับคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้ มีราวๆ 18-19 คน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ต.ค.57 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 5 คนในพื้นที่ ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี พร้อมยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ชิงไปจากทหารที่เสียชีวิตจากเหตุยิงถล่มที่ อ.มายอ เมื่อปี 55 ได้ด้วย ซึ่งผู้ต้องหาชุดหลังนี้จะถูกฟ้องดำเนินคดีต่อศาลในลำดับต่อไป

แก๊งบึ้มเทพาไม่เข้า ม.21 เจอคุก

          อีกคดีหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ คดีลอบวางระเบิดตลาดนิคมเทพา อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งมีผู้ต้องหา 8 ราย ถูกจับกุมเมื่อเดือน เม.ย.54 และมี 4 รายแสดงความจำนงเข้ารับการอบรมแทนการฟ้องคดี อันเป็นกระบวนการตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่ฝ่ายความมั่นคงเดินหน้าใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยประกาศนำร่องในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ด้วยการเปิดโอกาสให้บุคคลที่ถูกต้องหาว่ากระทำความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคง แต่กลับใจยอมเข้ามอบตัว หรือกระทำไปเพราะหลงผิด ได้เข้ารับการฝึกอบรมจากรัฐเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือนแทนการถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม

          ผู้ต้องหา 4 รายนี้ ถือเป็น 4 รายแรกที่เข้าร่วมกระบวนการตามมาตรา 21 ทว่าเมื่อถึงขั้นตอนที่ต้องขึ้นศาลจังหวัดนาทวี เมื่อให้ศาลสั่งเข้ารับการอบรมแทนการฟ้องคดี ช่วงเดือน ธ.ค.54 ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คนดังกล่าวกลับลำ ไม่ยอมเข้าร่วมกระบวนการ โดยอ้างว่าถูกบังคับ ถูกซ้อมทรมาน และข่มขู่ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ยืนยันกระบวนการเป็นไปตามความสมัครใจ และได้บันทึกภาพวีดีโอไว้ทุกขั้นตอน

          ทั้งนี้ ในท้ายที่สุดผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการตามมาตรา 21 และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ กระทั่งเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย.57 ศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลย 4 คนเป็นเวลา 35 ปี และจำคุก 2 ปี 8 เดือนกับจำเลยอีก 1 คน ส่วนอีก 3 คน พิพากษายกฟ้อง

          พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า คดีนี้เป็นคดีความมั่นคงคดีแรกๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สั่งให้จำเลยจ่ายชดใช้ทางแพ่งแก่ผู้เสียหาย คือ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด รายละ 150,000 บาทด้วย

          สำหรับจำเลย 4 คนที่โดนลงโทษจำคุกคนละ 35 ปีนั้น เป็นคนที่เคยตัดสินใจเข้ากระบวนการตามมาตรา 21 เพื่ออบรมแทนการฟ้องคดี แต่เปลี่ยนใจในภายหลัง ซึ่งขณะนั้น กอ.รมน.ภาค 4 สน.เน้นโครงการนี้มาก เพราะเป็นโอกาสของการเอาชนะทางการเมืองเหนือกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ทำให้ฝ่ายขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนกระทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้กระบวนการนี้ประสบความสำเร็จ จึงมีการส่งคนไปข่มขู่ตัวผู้ต้องหาและญาติเพื่อไม่ให้เข้าร่วมกระบวนการมาตรา 21

          "ผลคำพิพากษาของศาลทำให้พิสูจน์ได้ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญให้ใครเข้าร่วมกระบวนการตามที่มีการกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่มองประโยชน์ที่ตัวผู้กระทำผิดแล้วกลับใจเป็นหลัก เพราะการดำเนินคดีมีพยานหลักฐานชัดเจน เมื่อผู้ต้องหาเปลี่ยนใจไม่ยอมเข้ารับการอบรมแทนการฟ้อง และเดินหน้าต่อสู้คดีเอง ผลก็ปรากฏออกมาอย่างที่เห็น" พ.อ.ปราโมทย์ ระบุ และว่าสำหรับจำเลย 3 คนที่ศาลยกฟ้อง ทางอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกเหตุการณ์คนร้ายเกือบ 20 คนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหารเสียชีวิต 4 นายที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อ 28 ก.ค.55

อ่านประกอบ :

นิรโทษป่วนใต้สะดุด 4ผู้ต้องหาฯอ้างถูกซ้อม เมินเข้าอบรมตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ

เทียบเหตุผล "ทหาร-มูลนิธิผสานวัฒนธรรม" ปม 4 ผู้ต้องหากลับลำ เมินอบรมตาม ม.21