อภิสิทธิ์เดินหน้าแผนปรองดอง – เร่งทำจิตวิทยาข่าวสารกับชาวบ้านเสื้อแดง
อภิสิทธิ์ย้ำเดินหน้าแผนปรองดอง-สมัชชาประชาชน-กทช. เร่งทำจิตวิทยาข่าวสารกับชาวบ้านเสื้อแดงลดความเกลียดชัง เตรียมทำสำมะโนสำรวจความเดือดร้อนรากหญ้า ส่วนยุบสภาก่อนวาระกั๊กไว้ก่อน อ้างเพราะ นปช.ปฏิเสธเงื่อนไขปรองดองและยังมีบางกลุ่มพูดถึงม็อบอีกเดือน มิ.ย. ไม่หวั่นฝ่ายค้านยื่นมติไม่ไว้วางใจ บอกดีที่กระบวนการรัฐสภาเข้ามาตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วนคือ ด้านจิตใจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ต้องดำเนินการทั้งประเทศ โดยอิงแผนปรองดองเป็นหลักสู่การขยายผล รัฐเตรียมการไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นสมัชชาประชาชนที่ต้องเดินหน้าต่อ, การประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และโครงการสำคัญที่จะเริ่มทำคือการสำรวจความต้องการประชาชนแบบวงกว้างที่อิงกับการทำสำมะโน มีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีดูแล เพื่อดึงเอาความต้องการ ความเดือดร้อนทุกฝ่ายมาช่วยขับเคลื่อนแผนปรองดองให้ตรงเป้าหมาย
ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้จัดขึ้นทะเบียนโดยเบื้องต้นมีประมาณพันกว่าราย ประมาณการคร่าวๆ 1,000 ล้านบาท ซึ่งการช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุดคือจัดหาเงินทุนจ่ายเงินช่วยเหลือตามตามเกณฑ์ภายใน1-2 วันนี้ และการจัดหาที่ขายใหม่ ที่ใกล้เคียงพื้นที่เดิมหรือสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ
สำหรับการเยียวยาชาวบ้านที่มาชุมนุมด้วยความสุจริตใจซึ่งได้เดินทางกลับท้องถิ่นและยังมีความรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสังคม ทั้งสื่อมวลชน หน่วยราชการ กระทรวงต่าง เครือข่ายประชาชน และท้องถิ่นทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการครู อาสาสมัคร ที่สำคัญคือญาติพี่น้องที่ติดตามข่าวสารนอกพื้นที่ชุมนุมที่ต้องสร้างความความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลาและพิสูจน์ด้วยความจริงใจในการทำงานทตอบสนองความต้องการประชาชนอย่างแท้จริง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารนอกพื้นที่ชุมนุม ทำให้อาจมีความคิดความเชื่อที่ต้องมาทำความเข้าใจขณะเดียวกันรัฐก็อาจตกหล่นข้อมูลบางอย่างไป ดังนั้นจึงย้ำว่าทุกฝ่ายต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นมติไม่ไว้วางใจก็เป็นเรื่องดีที่จะทำให้กระบวนการรัฐสภาเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบอีกทางและเป็นโอกาสทำให้ข้อมูลชัดเจนและเผยแพร่ให้ทุกภาคส่วนได้ทราบ เพราะที่ผ่านมามีความสับสนและข่าวลือต่างๆ
“ผมยังเชื่อในความเป็นไทย ที่มีพื้นฐานอัธยาศัยไมตรีและรักสงบ เราต้องตระหนักเสมอแม้จะมีความแตกต่างทางความคิด แต่อยู่บ้านเดียวกันและคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เป็นคนในบ้านที่ต้องช่วยฟื้นฟู ต่อเติมให้บ้านกลับมาน่าอยู่ โดยยึดตามแผนปรองดอง สำคัญที่สุดต้องเปิดใจกว้างรับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ส่วนคนส่วนน้อยที่คิดเผาบ้านเรากำลังดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงประเด็นการยุบสภาที่เคยประกาศไว้ว่า ตามเงื่อนไขที่เสนอ นปช.จะยุบสภาหากเข้าสู่กระบวนการปรองดอง แต่แกนนำปฏิเสธจึงต้องกลับมาสู่ดุลพินิจของตน ซึ่งวันนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเหตุการณ์ขณะนี้ยังไม่สงบเสียทีเดียว ยังมีคนบางกลุ่มพูดถึงการชุมนุมอีกในเดือน มิ.ย.ส่วนแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อจัดระเบียบสังคมไทยนั้นมองว่าเป็นข้อเสนอที่พูดกันเป็นระยะๆ แต่รูปธรรมและวิธีการยังมองไม่ตรงกัน คิดว่าข้อเสนอใดก็ตามทางการเมืองควรให้ระบบรัฐสภาเป็นผู้พิจารณา