ตร.นำตัว‘อดีตผบช.ก.’พร้อมพวกฝากขังศาล
"โฆษก สตช." ระบุ ตร.นำตัว "พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์" อดีต ผบช.ก.พร้อมพวกฝากขังศาลอาญารัชดาแล้ววันนี้ เผยผู้ต้องหาติดต่อขอเข้ามอบตัวอีกราย
วันที่ 24 พ.ย.57 จากกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 632/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย.2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า อาศัยอำนาจตามมาตรา 95 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบก.รน.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 บก.ปคบ. ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป.ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้เข้าควบคุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมพวกทั้งหมด เพื่อดำเนินการสอบปากคำ หลังจากนั้นจึงแยกผู้ต้องหาทั้งหมด ไปคุมขังตามโรงพักต่างๆ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ รรท.ผบช.ก. เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (24พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เดินทางไปที่ศาลอาญารัชดาเพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาล ทั้่งนี้เมื่อหลักฐาน และพยานครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว พนักงานสอบสวนก็จะทำการส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก
"ผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 12 ราย เป็นตำรวจ 7 นาย และพลเรือนอีก 5 ราย โดยในจำนวนนี้รวมทั้ง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผบก.1 ป. ที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย แต่เนื่องจาก พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ เสียชีวิตไปแล้ว คดีในส่วนของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ จึงสิ้นสุดลงไปด้วย ส่วนผู้ต้องหาที่มีการระบุว่า ยังหลบหนีการจับกุมตัวอยู่ 2 รายนั้น ขณะนี้ได้รับการยืนยันเข้ามาแล้วว่า จะขอเข้ามอบตัวในวันนี้ (24พ.ย.) ดังนั้น ในขณะนี้จึงเหลือผู้ต้องหาอีก 1 รายเท่านั้น ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมตัวอยู่ คือ นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการแถลงข่าว และรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับในเรื่องของการรับส่วยน้ำมันเถื่อนนั้น จากการสืบสวนอย่างละเอียดแล้ว พบว่า มีการรับส่วยจริง โดยรับเป็นรายเดือนๆ ละหลายล้านบาท โดยทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานและพยานชัดเจนเช่นกัน ทั้งนี้ เมื่อพนักงานสอบสวนดำเนินการทำสำนวนเสร็จสิ้น ก็จะเสนอเรื่องให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องในขั้นตอนต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก