แถลงการณ์กลุ่ม "ดาวดิน" : นโยบายส่วนใหญ่ล้วนเอื้อนายทุน
*หมายเหตุ : "กลุ่มดาวดิน" หรือ "กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม" เกิดจากการรวมตัวกันของนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วยการออกค่ายเรียนรู้สังคม หาประสบการณ์นอกห้องเรียน เมื่อ 10 ปีก่อน จนพัฒนามาถึงบทบาทการร่วมเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการต่างๆของกลุ่มทุนและภาครัฐ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ ในรูปแบบอาสาสมัครเพื่อให้คำแนะนำด้านกฏหมาย และแนวทางการต่อสู้เรียกร้องสิทธิอย่างสันติ ที่มีทั้งการต่อต้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ, การต่อต้านเหมืองแร่โปแตช ใน จ.อุดรธานี การต่อต้านโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ใน จ.ขอนแก่น และการต่อต้านการทำเหมืองใน จ.เลย
ปัจจุบันกลุ่มดาวดิน มีนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ในทุกชั้นปี และรุ่นพี่ที่จบการศึกษาแล้วเป็นสมาชิก กว่า 20 คน และยังสร้างเครือข่ายไปยังเพื่อนนักศึกษาร่วมอุดมการณ์ต่างสถาบัน เพื่อร่วมเคลื่อนไหว พร้อมตั้งศูนย์กฏหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม อาสาเป็นที่ปรึกษาด้านกฏหมายให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากโครงการของกลุ่มทุน เพื่อต้องการให้เกิดความเท่าเทียมของคนในสังคม
นอกจากนี้ กลุ่มดาวดิน ได้ร่วมเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับชาวบ้านการเคลื่อนไหวคัดค้านการขอประทานบัตรทำเหมืองทองเพิ่มใน จ.เลย เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2556 การออกมาร่วมเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มดาวดิน กับชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน ใน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อคัดค้านกระบวนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ประกอบการขอประทานบัตรเพิ่มของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ในพื้นที่ ต.นาโป่ง อ.เมืองเลย เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา และเรียกร้องสิทธิ์ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและวิถีชีวิตของคนรอบเหมือง ที่จะตามมา ( ขอบคุณข้อมูลกลุ่มดาวดินจาก สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.57 มีรายงานข่าวว่ามีกลุ่มนักศึกษา สมาชิกกลุ่มดาวดิน จำนวน 5 คน ออกมาเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์ไม่เอารัฐประหาร โดยการชู 3 นิ้ว ต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น และนักศึกษากลุ่มดังกล่าวถูกควบคุมตัวไปที่ค่ายศรีพัชรินทร และถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ทหาร
ล่าสุด กลุ่มดาวดินออกแถลงการณ์ มีใจความตอนหนึ่งระบุว่าหลังการทำรัฐประหาร เกิดปัญหาด้านสิทธิเสรีภาพถูกริดรอนและนโยบายส่วนใหญ่เอื้อต่อนายทุน ไม่รับฟังเสียงของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยกเลิกกฎอัยการศึกและยกเลิกนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน
แถลงการณ์ดังกล่าว มีเนื้อหาโดยละเอียดดังนี้
แถลงการณ์กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
เรื่อง พวกเราไม่ต้อนรับ "เผด็จการ"
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2557
หลังจากการทำรัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประเทศ การทำงานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดมากมาย และในตอนนี้กำลังเป็นปัญหารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆสถานการณ์ที่สิทธิ เสรีภาพถูกลิดรอนไปภายใต้ระบอบการปกครองแบบเผด็จการอย่าเต็มรูปแบบ หลายคนเริ่มรับรู้ได้ถึงการคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้น มีเหตุการณ์การจับกุม กักขัง เพียงเพราะการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนมีมาแต่กำเนิดเกิดขึ้นมากมาย เพียงเพราะต้องการข่มขู่ให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลทหาร(คสช.) เกรงกลัวที่จะลุกขึ้นมาต่อต้าน
นโยบายส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เอื้อประโยชน์ให้นายทุน และเพิกเฉยต่อสิทธิเสรีภาพ ของพี่น้องประชาชนแทบทั้งสิ้น ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่เลือกที่จะละเลยการฟังเสียงพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการน้ำ ตัวอย่างในเรื่องของเขื่อนแม่วงก์ที่ถูกนำกลับมาเป็นนโยบายอีกครั้ง ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย การกีดกันการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน และเรื่องแผนแม่บทป่าไม้และที่ดิน ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์การไล่รื้อบ้านและสวนยางของพี่น้องประชาชน อย่างไร้เหตุผลและไม่เป็นธรรม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลทหารเผด็จการชุดนี้ไม่เคารพสิทธิ เสรีภาพของประชาชนแม้แต่น้อย
ด้วยความอึดอัดที่จะไม่ทนกับระบอบเผด็จการทหารอีกต่อไปพวกเรากลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน) จึงขอแสดงจุดยืนที่จะต่อสู้เรียกร้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ เสรีภาพประชาธิปไตยอันมาจากประชาชน ชีวิตเราเราขอเลือกเอง ชีวิตเราเราขอกำหนดเอง และขอแสดงเจตนารมณ์ว่าเราจะไม่ยอมรับอำนาจคำสั่ง หรือนโยบายใดๆ ที่เกิดจากรัฐบาลเผด็จการทั้งสิ้น
พร้อมทั้งให้ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา ยกเลิกกฎอัยการศึก ที่เป็นปัญหาต่อการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อันควรมีแก่ประชาชน รวมถึงยกเลิกนโยบายและโครงการที่เป็นการทำลายสภาพท้องถิ่นในหลายจังหวัด เช่น แผนแม่บทป่าไม้และที่ดิน การปฏิรูปพลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ฟังเสียงประชาชน และในอีกหลายโครงการหลายนโยบาย พร้อมทั้งคืนอำนาจสูงสุดของประเทศ คืออำนาจอธิปไตยให้เป็นของประชาชน เพื่อให้ได้กลับคืนมาซึ่งสิทธิ เสรีภาพ
ภาพประกอบ : นักศึกษากลุ่มดาวดิน เคลื่อนไหวร่วมกับชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านเกิด ใน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อคัดค้านกระบวนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ประกอบการขอประทานบัตรเพิ่มของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ในพื้นที่ ต.นาโป่ง อ.เมืองเลย เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ภาพจาก www.google.co.th