รัฐนาวา“ท็อปบู๊ต”ประเดิมถิ่น“แดง” วัดใจมวลชนหนุนกู้ศรัทธา“บิ๊กตู่” ?
“…ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ใส่ใจปัญหาความมั่นคงค่อนข้างมาก ดังนั้นเขาอาจคิดว่าพื้นที่ตรงนี้ยังไม่นิ่ง ยังมีความวูบวาบอยู่มาก … เขาคงคิดว่าการไปพื้นที่ภาคอีสานเป็นการสร้างฐานมวลชนได้ มองในแง่ดีคือเพื่อคอนเฟิร์มอำนาจควบคุมประชาชน…”
นับเป็นครั้งแรกของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยบรรดารัฐมนตรีอีกหลายคน เดินทางเข้า “ใจกลาง” ถิ่นพลพรรคคนเสื้อแดง-ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ภายหลังยึดอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
ใบปลิวคัดค้านการรัฐประหาร ก็ถูกโปรยลงทันทีในช่วงเช้ามืด ก่อนที่ในงานรับรองที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น จะถูกนักศึกษากลุ่มดาวดิน เข้าชูมือสามนิ้ว แสดงสัญลักษณ์คัดค้านการยึดอำนาจ จนถูกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ พร้อมกับรอยยิ้มของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนยืนยันว่า “ไม่โกรธ”
สิ่งที่น่าสนใจคือ ไฉน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลงพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ?
ทั้งนี้ สำหรับกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีภารกิจเพื่อบรรเทาภัยแล้ง เพิ่งมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ถือเป็นวาระเร่งด่วน ที่ชวนให้ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องเร่งรีบเดินทาง ทั้งที่เพิ่งวางแผนได้เพียง 3 วันเท่านั้น
หากประเมินดูสถานการณ์ล่าสุดของ คสช. และรัฐนาวา “ท็อปบู๊ต” จะเห็นได้ว่า ไม่อาจเป็นไปตามที่มวลชน “บางฝ่าย” คาดหวังไว้ในการเข้ามาแก้ไขสารพัดปัญหาในประเทศไทย ?
ยกตัวอย่าง เช่น ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ และปากท้องของประชาชน ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเต็มที่-ทันท่วงที กอปรกับเกิดปรากฏการณ์ “ไมค์ฉาว” ที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน ท้ายสุดสรุปว่า ไม่มีทุจริต แค่ส่วนต่างเยอะ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าถือเป็นหนึ่งในชนวนเหตุที่ทำให้ คสช.-รบ.ชุดนี้ ได้ความนิยมลดน้อยลง
นี่ยังไม่นับกรณีบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯของ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) น้องชาย “บิ๊กตู่” ที่ยังชี้แจงปมเงินไหลเวียนในบัญชีเงินฝากภรรยาไม่เคลียร์ รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ เองที่ถูกสื่อตรวจสอบ และตั้งคำถามถึงการขายที่ดินของ พ.อ.ประพัฒน์ บิดา ให้แก่บริษัทเครือข่าย “เสี่ยเจริญ” มูลค่า 600 ล้านบาทอีกด้วย
(อ่านประกอบ : “ปรีชา”ปัดตอบปมเงินฝาก“ภริยา” ถามพ่อให้มรดกผิดหรือ-นายกฯรวยกว่าอีก, "ไม่ประเทืองปัญญา"นายกฯซัดสื่อ หลังซักปมขายที่ดิน 600 ล.ให้ บ.เสี่ยเจริญ )
แต่ที่อาจร้ายแรงจนทำให้ คสช.-รบ.ชุดนี้ เป็นกังวลก็คือ ปมบิ๊กทหารยศพันเอก “ส.” ตบเท้าเข้าพบผู้บริหารไทยพีบีเอส สั่งห้ามเผยแพร่รายการ “เสียงประชาชนต้องฟังก่อนปฏิรูป” และให้ถอด “ณาตยา แวววีรคุปต์” บก.ข่าวสังคมและสาธารณะ ร้อนถึงองค์กรสื่อ-นักข่าวหลายรายต้องออกมา คัดค้านการกระทำครั้งนี้ และหากย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงรัฐประหารใหม่ ๆ จะพบว่ามีสื่ออีกหลายสำนักถูกปิด ถูกประกาศ-คำสั่ง ห้ามเผยแพร่เนื้อหาข่าวบางชิ้นมาแล้ว !
(อ่านประกอบ : "พันเอก"อ้างคำสั่ง"นาย"ตบเท้าบีบThaiPBSถอด "ณาตยา-รายการเสียงปชช." , เบื้องหลัง!ทหารชงเชือด4ช่องทีวีการเมือง ก่อนกรณี"ณาตยา"-จ่อสั่งปรับเงิน )
ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า แผนการเดินทางในครั้งนี้ ถือเป็นการหยั่งกระแสมวลชนสนับสนุน “บิ๊กตู่” และ “เสนาบดีท็อปบู้ต” ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในพื้นที่ “ถิ่นแดงแจ๋” อย่าง จ.ขอนแก่น วัดใจกลุ่มต่อต้านจะมีออกมาเคลื่อนไหวมาก-น้อยขนาดไหน ซึ่งก็ปรากฏให้เห็นตามหน้าสื่อไปแล้ว
แต่ที่น่าสังเกตก็คือ กลุ่มที่ออกมาต่อต้านนั้น กลับไม่ปรากฏมวลชนคนเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว !
“ข้อแรกคือพวกเขาตรึงพวกแกนนำในพื้นที่เอาไว้ทั้งหมด ข้อสองคือฝ่ายเราส่วนหนึ่งก็ปล่อยให้เขาทำโร้ดแม็พไป ที่สำคัญคือ ประชาชนยังไม่พร้อมที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบที่เขาคิดหรอก พูดง่าย ๆ ประชาชนยังไม่พร้อมที่ทำแบบนั้น ขึ้นอยู่กับว่าทางเขาจะฉลาดในการอยู่ในอำนาจแค่ไหน ถ้าเขาฉลาดและทำได้ดี ประชาชนอาจไม่ต้องออกแรงอะไรมากในอนาคต แต่ถ้าทำแล้วมีปัญหา ประชาชนส่วนหนึ่งรับไม่ได้ก็อาจจะต้องออกมา”
เป็นคำยืนยันจากแกนนำ นปช. รายหนึ่ง ที่เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ แลนดิ้ง ถึงถิ่นใจกลาง “คนเสื้อแดง” ก่อนจะระบุว่า ที่เห็นมีบุคคลออกมาต่อต้านนั้น ไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อแดงอย่างแน่นอน เพียงแต่พวกเขาอาจมีความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกับเรา เขาเดือดร้อนก็ต้องออกมา
แกนนำ นปช. รายนี้ วิเคราะห์ให้ฟังว่า สาเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปเยือนในพื้นที่ภาคอีสานนั้น เขาอาจอ้างว่าเป็นการไปทำภารกิจแก้ไขความแห้งแล้ง แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ใส่ใจปัญหาความมั่นคงค่อนข้างมาก ดังนั้นเขาอาจคิดว่าพื้นที่ตรงนี้ยังไม่นิ่ง ยังมีความวูบวาบอยู่มาก
“เขาคงคิดว่าการไปพื้นที่ภาคอีสานเป็นการสร้างฐานมวลชนได้ มองในแง่ดีคือเพื่อคอนเฟิร์มอำนาจควบคุมประชาชน คือไม่มีคนคัดค้านเลย หรือไปเพื่อตอกย้ำถึงบทบาทอำนาจในฐานะเป็นนายกฯ และในฐานะ คสช. ก็คือลงไปพบประชาชน”
เป็นไปได้หรือไม่ว่าสาเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ภาคอีสานเพราะต้องการดึงมวลชนพรรคเพื่อไทยมาสร้างความชอบธรรม ?
แกนนำ นปช. รายนี้ อธิบายว่า มันก็เป็นการท้าทาย เขาคงเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง เหมือนที่เขาไปต่างประเทศ ก็คงมีการคุยกันในพื้นทีก่อนแล้ว หรือมีการเคลียร์พื้นที่ ถามว่าควรไปหรือไม่ ก็ควร แต่คนที่อยู่ในลักษณะแบบนี้ ช่วงแรกเขาก็ไม่กล้าไปหรอก
“อาจเป็นไปเพื่อตรวจสอบ หรือสำรวจ หรือวัดเรตติ้ง ไม่ว่าจะเป็นทางลบหรือบวก เพื่อจะนำมาวิเคราะห์ และอาจคิดว่าการลงพื้นที่แบบนี้มีผลดีมากกว่าไม่ดี ถือเป็นการกระจายอำนาจและบทบาทไปในตัว” แกนนำ นปช. รายนี้กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งหมดคือเบื้องลึกเบื้องหลังถึงสาเหตุที่อาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐนาวา “ท็อปบู้ต” จำเป็นต้องลงพื้นที่ในแดนดินถิ่น “แดง” ในห้วงเวลาแบบนี้
ส่วนเมื่อลงพื้นที่ไปแล้วจะสามารถแก้ไข “วิกฤติศรัทธา” จากประชาชนทุกสีทุกฝ่ายได้หรือไม่ ก็ต้องจับตากันต่อไป
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก bangkokbiznews