เบื้องหลัง!ทหารชงเชือด4ช่องทีวีการเมือง ก่อนกรณี"ณาตยา"-จ่อสั่งปรับเงิน
“…พวกเราทั้ง 2 ช่องก็ชี้แจงว่า ในเมื่อครั้งที่ 3 มาดูแล้วมันดีกว่า 2 ครั้งแรก ทำไมต้องปรับเรา ตรรกะมันผิด เหมือนคุณเป็นนักเรียน เทอมแรกคุณอาจจะได้คะแนนไม่ดี เทอมสองคุณคะแนนดีขึ้น ปรับอย่างนี้มันไม่ถูก … มันก็ชัดเจนว่าเราเป็นทีวีการเมือง เราก็บอกตั้งแต่แรกแล้ว เราก็มีจุดยืนทางการเมืองชัดเจน อาจเรียกว่าเลือกข้างก็ได้ เรามีจุดยืนของเรา…”
ผ่านมากว่า 3 เดือนแล้วภายหลังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รับลูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไฟเขียวออนแอร์ 4 ช่องการเมือง “ชื่อใหม่-อุดมการณ์เก่า” อย่าง PEACE TV, 24 TV, 1 TV และฟ้าวันใหม่
แม้ว่าในช่วงแรกสถานีโทรทัศน์เหล่านั้น โดยเฉพาะฟ้าวันใหม่และ PEACE TV จะถูกจับตามองเป็นพิเศษโดย คสช. เพราะเป็นหนึ่งใน 2 ช่องคู่ขัดแย้งโดยตรง และต้องปฏิบัติตามประกาศ คสช. เกี่ยวกับการควบคุมสื่ออย่างเคร่งครัด ทำให้การนำเสนอข่าว หรือรายงาน/บทวิเคราะห์ แทบจะดำเนินไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาล
(อ่านประกอบ : “Peace TV-ฟ้าวันใหม่”สงครามเย็นสื่อ? หลังยุคสลายสีเสื้อ-คืนความสุข)
อย่างไรก็ดี หลังจากเมื่อมีรัฐบาลเต็มตัว ได้สั่งลดบทบาทอำนาจของ คสช. วงการโทรทัศน์ดาวเทียม โดยเฉพาะ 2 ช่อง “ฟ้า-แดง” ก็กลับมาได้รับความนิยมกระฉูดอีกครั้ง แม้จะไม่เท่ากับในช่วงก่อนรัฐประหารก็ตาม
บรรดาแกนนำอย่าง “จตุพร พรหมพันธ์” ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หวนกลับสู่จออีกครั้งภายใต้รายการ “มองไกล” ออกอากาศช่อง PEACE TV ช่วง 18.00 น. ขณะที่ฟ้าวันใหม่ก็ไม่น้อยหน้า นำแพ็คคู่ “เอกนัฎ พร้อมพันธ์” อดีตโฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร่วมกับ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จัดรายการ “ขอชัดชัด” ออกอากาศช่วง 20.00 น. เช่นกัน
เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างดึงแกนนำระดับ “บิ๊ก” เข้ามาเรียกเรตติ้ง หวังฟื้นศรัทธาจากมวลชนอีกครั้ง !
แต่ความหอมหวานก็อยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อคณะทำงานติดตามสื่อในกองทัพบก ร้องเรียนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ของ กสทช. ถึงเนื้อหารายการใน 4 ช่องดาวเทียมดังกล่าว ส่อขัดมาตรา 37 พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ พ.ศ.2551 โดยคณะอนุกรรมการผังรายการนำโดย พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ ประธานอนุฯ พิจารณาอาจลงโทษปรับเงินทั้ง 4 ช่องดังกล่าว
(อ่านประกอบ : กองทัพบกชงกสท.เชือด4 ช่องทีวีการเมือง"PEACE TV-ฟ้าวันใหม่"โดนด้วย )
“ก่อนหน้านี้เขาเคยเรียกเราเข้าไปคุย 2-3 ครั้งแล้ว โดยช่วงแรกเขาก็บอกเราว่า เนื้อหารายการเรายังต้องมีการปรับปรุงอยู่ อย่างไรก็ดีในครั้งล่าสุด เขาบอกเราว่า ภาพรวมครั้งนี้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่กลับจะปรับเงินเรา”
เป็นคำยืนยันจาก “เถกิง สมทรัพย์” ผอ.สถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ ก่อนจะระบุอีกว่า เมื่อเรารวมถึงอีก 3 ช่องเข้าไปพบ เขาจะฉายคลิปรายการให้ดูทีละช่องเลยว่า รายการไหนมีปัญหา อาจขัดต่อมาตรา 37 ของกฎหมายดังกล่าวได้
“สำหรับในส่วนของฟ้าวันใหม่นั้น มีรายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ ของคุณเทพไท เสนพงศ์ (อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตพิธีกรรายการสายล่อฟ้า ช่องบลูสกาย) และรายการข่าวฟ้าวันใหม่ สุดสัปดาห์ ที่มีการพาดพิงถึงคุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณธิดา ถาวรเศรษฐ และหมอเหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.”
“เถกิง” เล่าอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมวันนั้น คุณธิดา ก็อยู่ด้วย เราก็คุยกันตอนที่คุณเทพไทพาดพิงถึงนั้น ก็ยังหัวเราะกันเลย มันเหมือนเป็นการแซวกันเล่นมากกว่า แต่เราก็แล้วแต่ กสท. จะพิจารณา เป็นหน้าที่เขา แต่เราก็ชี้แจงไปว่า ในเมื่อคุณพีระพงศ์พูดเองว่า ภาพรวมเราดีขึ้นกว่า 2 ครั้งแรก ถ้าจะปรับเรา เราก็เห็นว่าไม่น่าจะปรับ เพราะมันดีขึ้น ผมก็ให้ถ้อยคำไปอย่างนั้น เขาก็ส่งบันทึกถ้อยคำให้ผมเซ็นไปเมื่อวันวาน (15/11/57)
“แม้มันอาจจะขัดมาตรา 37 แต่โดยภาพรวมมันดีขึ้น ฉะนั้นก็ไม่น่าจะปรับเรา ผมก็ให้ถ้อยคำไปแบบนั้น” ผอ.ช่องฟ้าวันใหม่ ยืนยัน
“พวกเราทั้ง 2 ช่องก็ชี้แจงว่า ในเมื่อครั้งที่ 3 มาดูแล้วมันดีกว่า 2 ครั้งแรก ทำไมต้องปรับเรา ตรรกะมันผิด เหมือนคุณเป็นนักเรียน เทอมแรกคุณอาจจะได้คะแนนไม่ดี เทอมสองคุณคะแนนดีขึ้น ปรับอย่างนี้มันไม่ถูก”
ส่วนที่ว่าทั้ง 4 ช่องยังมีการนำเสนอเกี่ยวเรื่องการเมืองแบบ “ฮาร์ดคอร์” และยังมีการเลือกข้างกันอยู่นั้น “เถกิง” อธิบายว่า มันก็ชัดเจนว่าเราเป็นทีวีการเมือง เราก็บอกตั้งแต่แรกแล้ว เราก็มีจุดยืนทางการเมืองชัดเจน อาจเรียกว่าเลือกข้างก็ได้ เรามีจุดยืนของเรา บางทีก็เห็นร่วม บางทีก็เห็นต่าง และเรามีเนื้อหาการเมืองมาก ก็ชัดเจน
“ทีวีช่องอื่นเกมส์โชว์มาก ทีวีขายของก็มาก แต่เราทำทีวีการเมือง ให้ความรู้การเมืองแก่คน แต่ปัญหาจะมากน้อยคือมันสร้างสรรค์สังคมหรือไม่ เรายืนยันว่าช่องฟ้าวันใหม่สร้างสรรค์ แต่หาก กสท. จะพิจารณาตามระเบียบอะไร เราก็ยอมรับ” ผอ.ช่องฟ้าวันใหม่ ย้ำจุดยืนทิ้งท้าย
ทั้งหมดคือเบื้องลึกเบื้องหลังวงประชุม กสท. กับ 4 ช่องสถานีดาวเทียม ภายหลังถูกทหารร้องเรียนเรื่องความไม่เหมาะสมในเนื้อหารายการ
อย่างไรก็ดีที่น่าสนใจคือ นอกเหนือไปจากกรณีข้างต้นแล้ว ในห้วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ก็เพิ่งถูกทหารยศพันเอก “ส.” ตบเท้าเข้าพบผู้บริหารไทยพีบีเอส ขอให้ยุติรายการ “เสียงประชาชน ต้องฟังก่อนปฏิรูป” และขอให้ถอด “ณาตยา แวววีรคุปต์” พิธีกรรายการ และบก.ข่าวสังคม ออกจากหน้าที่พิธีกร
ร้อนถึงองค์กรวิชาชีพสื่อต้องออกแถลงการณ์ปกป้อง จี้ถามจุดยืนสื่อจาก “บิ๊กตู่” รวมถึงนักข่าวภาคสนามหลายคนได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อประท้วงกรณีนี้อีกด้วย
(อ่านประกอบ : "พันเอก"อ้างคำสั่ง"นาย"ตบเท้าบีบThaiPBSถอด "ณาตยา-รายการเสียงปชช." )
ย้อนไปให้ไกลกว่านั้นสักหน่อย ในการประชุมคณะรัฐมนตรีช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม มีคำสั่งของ “บิ๊กตู่” ให้ “เนติบริกร” ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พิจารณากฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้นำเสนอข่าวมีความขัดแย้ง รวมไปถึงสั่งทุกส่วนราชการห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์อย่างเคร่งครัด
(อ่านประกอบ : เมื่อ“บิ๊กตู่”กำชับขรก.แก้ปัญหา“สื่อ” บิดเบือน-ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ?)
ถือเป็นปรากฏการณ์ร้อนในแวดวง “สื่อสารมวลชน” ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชี้แจงให้ชัดเจนถึงนโยบายเกี่ยวกับสื่อ
ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่ากำลัง “คุกคาม-ปิดกั้น” การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่ออยู่ในขณะนี้ !
อ่านประกอบ :
“ผอ.ฟ้าวันใหม่”กังขากสท.ภาพรวมดีแต่ถูกปรับ ยันจุดยืนเลือกข้างชัดเจน
“Peace TV-ฟ้าวันใหม่”สงครามเย็นสื่อ? หลังยุคสลายสีเสื้อ-คืนความสุข
เบื้องหลัง!บทสนทนา "ทหาร"บีบผู้บริหารไทยพีบีเอสสะดุ้ง-"ณาตยา"ถอนตัว!
โฆษกทบ.เพิ่งรู้!ทหารบีบ TPBS ถอด "ณาตยา"-ยันคสช.ไม่ได้สั่งปล่อยทำกันเอง
แง้มห้องประชุมไทยพีบีเอส! ล้วงเหตุผลเปลี่ยนตัวพิธีกรปกป้อง"ณาตยา"
ส.นักข่าวจ่อชงเลิกประกาศคสช.จำกัดสิทธิสื่อ-ชี้ปม“ณาตยา”รุนแรงยอมไม่ได้