ยิงสองแม่ลูกดับ-ครูสตรีสาหัส หลังวิสามัญฯ 2 ผู้ต้องหาคดีมั่นคง 1 วัน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีเหตุสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายรายในลักษณะก่อเหตุต่อเนื่องกัน โดยเป็นการก่อเหตุหลังจากเจ้าหน้าที่กระทำการวิสามัญฆาตรกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 2 ราย และจับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 5 คนใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพียง 1 วัน
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 15 พ.ย.57 เวลา 09.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิง นางศิริรัตน์ แซ่ชั้น อายุ 35 ปี และ นางสาลินี แซ่ท่อง อายุ 55 ปี ทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 112 112 บ้านทุ่งมยุรา หมู่ 12 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ขณะที่ทั้งสองกำลังขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันกลับจากซื้อกับข้าวที่ตลาด กม.29 เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) จุดเกิดเหตุอยู่ในช่วงกิโลเมตรที่ 31 หมู่ 2 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
ทั้งนี้ นางศิริรัตน์ ซึ่งเป็นลูกสาว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วนนางสาลินี เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลเบตง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ทั้งคู่ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากซื้อกับข้าวที่ตลาด โดย นางสาลินี ซึ่งเป็นมารดา เป็นผู้ขับขี่ ส่วนนางศิริรัตน์นั่งซ้อนท้าย ในที่เกิดเหตุจึงพบถุงกับข้าวและอาหารสดกระจายเกลื่อน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ยิงครูสตรีสาหัสคาปั๊มหลอดโคกโพธิ์
ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเช่นกัน ขับขี่รถไปจอดที่หน้าจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบปั๊มหลอด ใกล้กับโรงเรียนนิคมมิตรภาพ 148 บ้านโคกอ้น หมู่ 6 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จากนั้นใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นางอิศรา ไชยฤทธิ์โชค อายุ 53 ปี ครูโรงเรียนบ้านควนแตน หมู่ 4 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย ครูอิศรา เป็นเจ้าของปั๊มหลอดดังกล่าว
หลังก่อเหตุคนร้ายได้ทิ้งใบปลิวเขียนด้วยลายมือว่า "จับมั่ว ยิ่งมั่ว" แล้วขี่รถหลบหนีไปทางนิคมเทพา อ.เทพา จ.สงขลา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง ขณะที่อาการของครูอิศราค่อนข้างสาหัส เนื่องจากถูกยิงเข้าที่ศีรษะ แพทย์โรงพยาบาลโคกโพธิ์ต้องส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลปัตตานี
ยิงกล่องปริศนาพลาดเตะบึ้มที่รือเสาะ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.มารุต นิลโกสีย์ ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ใช้อาวุธปืนยิงวัตถุต้องสงสัยที่คนร้ายนำไปวางไว้ริมถนนสายสวนพิธาน ช่วงบ้านบลูกา หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ แล้วเกิดพลาดเท้าไปเตะระเบิดแสวงเครื่องอีกลูกหนึ่ง จนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบบริเวณโคนป้ายบอกทางโค้งริมถนน มีหลุมระเบิดลึก 20 เซนติเมตร กว้าง 80 เซนติเมตร บนเสาใกล้ๆ กันพบข้อความที่ถูกพ่นด้วยสีสเปรย์สีแดงว่า "ปัตตานีเมอร์เดกา" หรือ "เอกราชปัตตานี" ที่ข้างเสามีกล่องกระดาษสีขาวสำหรับใส่แบตเตอรี่รถยนต์วางอยู่ 1 ใบ ซึ่งเป็นวัตถุต้องสงสัยที่ ชรบ.ตรวจสอบก่อนหน้านี้ แล้วพยายามยิงทำลาย แต่เดินไปเตะระเบิดอีก 1 ลูกที่วางดักไว้จนเกิดระเบิดเสียก่อน
ภายในกล่องดังกล่าวมีกระป๋องสีสเปรย์อีก 2 กระป๋อง และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องกะทิยี่ห้อหนึ่ง หนัก 0.5 กิโลกรัม กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจมีระเบิดซุกซ่อนอยู่อีก จึงตัดสินใจใช้ไดนาไมต์แปะติดที่กล่องแบตเตอรี่ แล้วจุดชนวนระเบิดทิ้ง ก่อนเข้าตรวจสอบเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน อย่างไรก็ดี ในกล่องกระดาษไม่มีระเบิด
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ใหญ่บ้านได้ให้เพื่อน ชรบ.ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะแล้ว ทราบชื่อคือ นายดอเลาะ แวซู อาการไม่สาหัส
จากการสอบสวน นายรอยาลี มูซอ ผู้ใหญ่บ้านบลูกา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำ ชรบ. 6 คนเดินลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางในหมู่บ้าน เมื่อถึงบริเวณป้ายบอกทางโค้ง พบวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องกระดาษสำหรับใส่แบตเตอรี่รถยนต์วางอยู่ จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนลูกซองยิงทำลายแต่ไม่ระเบิด เขา และ ชรบ.จึงได้พากันเดินเข้าไปตรวจสอบ
ทว่า นายดอเลาะ แวซู ซึ่งเป็น ชรบ.เดินพลาดไปเตะเชือกที่คนร้ายผูกไว้ที่กล่องกระดาษกับกระป๋องกะทิยี่ห้อหนึ่งที่ฝังไว้ คาดว่าเป็นการจุดชนวนแบบกระตุก จึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้นายดอเลาะถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วิสามัญฯ2ศพที่หนองจิก-คุมตัวอีก5
สำหรับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน โดยเฉพาะเหตุยิงครูสตรีที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และยิงสองแม่ลูกเสียชีวิตที่ อ.เบตง จ.ยะลานั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคาดว่าน่าจะเป็นการตอบโต้กรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 2 ราย จากการปิดล้อมตรวจค้นแล้วยิงปะทะที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.วันศุกร์ที่ 14 พ.ย. โดยเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ปกครอง เข้าติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวโยงคดีความมั่นคงที่บ้านโคกโหนด ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และได้เกิดการยิงปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายรุสลี แบรอสะแม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงหลายหมาย
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกราย คือ นายอับดุลเราะห์มาน เจ๊ะแต อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ 3 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตาย เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเช่นกัน และมีหมายจับมากถึง 84 หมาย
ส่วนอีก 5 คนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ก่อนการปะทะ คือ ดุลเลาะ กีแย นายนัสรุดิน สะมะแอ นายยะห์ยา บือราเฮง นายอับดุลรอแม บือราเฮง และ นายรอโซ บือราเฮง
โฆษกกอ.รมน.แจงเกลี้ยกล่อมก่อนปะทะ
วันเดียวกัน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการจับกุมบุคคลเป้าหมายที่มีหมายจับของทางราชการ โดย 5 คนยินยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่อีก 2 คนไม่ยอมมอบตัว จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น
ทั้งนี้ การปฏิบัติการเป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในการทำงานข่าวเชิงรุก ซึ่งหน่วยรับทราบมาว่าจะมีผู้ก่อเหตุรุนแรงเคลื่อนไหวรวมตัวกันวางแผนก่อเหตุในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง และใช้เวลาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวนานหลายชั่วโมง โดยมีการเชิญผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนมาเกลี้ยกล่อมด้วย ขณะที่ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงบางรายมีชื่ออยู่ในปฏิทิน 100 รายชื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตัว
สั่งคุมเข้ม"ครู-พระ"ตั้งด่านสกัดเพิ่ม
มีรายงานว่า หลังคนร้ายลอบยิงเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งเป็นราษฎรผู้บริสุทธิ์และครูอย่างต่อเนื่อง พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ( ผอ.รมน.ภาค 4) ได้สั่งการให้หน่วยกำลังปฏิบัติดังนี้ 1.ให้จัดชุดและใช้กำลังลาดตระเวนเคลื่อนไหวบนถนน เส้นทางที่ล่อแหลมต่อการกระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ ทั้งครู พระ ราษฎรผู้บริสุทธิ์ 2.ปฏิบัติตามแผน 710 คือ ตั้งด่านตรวจและจุดตรวจจุดสกัดทุกพื้นที่
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เน้นเรื่องการลาดตระเวน โดยใช้กำลังที่มีอยู่สนับสนุนการปฏิบัติอย่างเต็มที่
โค่นต้นยางชาวบ้านโคกโพธิ์กว่าร้อยต้น
สำหรับเหตุก่อความไม่สงบอื่นๆ ยังมีอีกประหราย เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี รับแจ้งจาก นายประกูล ศรีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านบ่อหว้า หมู่ 4 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ ว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบโค่นต้นยางพาราของ นางสำรวย หนูสีแก้ว อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 4 ต.ปากล่อ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบต้นยางพารา พื้นที่ 2 ไร่ อายุประมาณ 2 ปี ถูกโค่นล้มทั้งแปลง เสียหายประมาณ 143 ต้น
ตามยึดสิ่งของคนดูต้นทางปล้นรถนักเรียน
วันเดียวกัน ชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พร้อมด้วยตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้คุมตัว นายอิบรอเฮง มะแอ ไปตรวจค้นเสื้อผ้าและสิ่งของที่ใช้ในวันเกิดเหตุปล้นรถรับส่งนักเรียน และฆ่า นายอนันต์ ขวัญจุล เมื่อวันที่ 11 ก.ย.57 ก่อนนำรถไปก่อเหตุระเบิดและสังหารคนในเทศบาลตำบลมะกรูด อ.โคกโพธิ์
ทั้งนี้ จุดตรวจค้นเป็นไปตามคำรับสารภาพของนายอิบรอเฮง ที่ขนำไม่มีเลขที่ และบ้านเลขที่ 138/1 หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย โดยนายอิบรอเฮงอ้างว่ามีหน้าที่ดูต้นทางในเหตุการณ์ปล้นรถของนายอนันต์
ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดหมวกกันน็อคสีดำแบบครึ่งใบ มีกระจกบังลมจำนวน 1 ใบ, เสื้อยืดคอกลมสีน้ำตาลแขนสั้น 1 ตัว, กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน 1 ตัว และเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำแขนยาว 1 ตัว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ปั๊มหลอดใน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่คนร้ายบุกยิงครูสตรีอาการสาหัส
ขอบคุณ : ภาพจากกู้ชีพ-กู้ภัยสันติปัตตานี และเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ