"อดุลย์"สั่งสอบอุยกูร์ล่องหน ตำรวจยันไม่เกี่ยว"ค้ามนุษย์"
"อดุลย์" สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง "มุสลิมอุยกูร์" หนีจากบ้านพักเด็กฯสงขลานับร้อย พร้อมประสานตำรวจ ตม. ตชด.เร่งติดตาม แจงตัวเลขหลบหนี 146 คน คงเหลือ 49 คน ผบช.ภาค 9 รับลูกเรียกประชุมทุกหน่วยทันที สรุปเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมเข้มงวดมากขึ้น ตำรวจยืนยันไม่เกี่ยวขบวนการค้ามนุษย์ เหตุเป็นมุสลิมร่ำรวย ไม่ใช่เหยื่อนำพา แจงข่าวรถตู้มารอรับ แค่จ้างมาพาหนี
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ยอมรับว่ากลุ่มมุสลิมไม่ปรากฏสัญชาติที่เป็นผู้หญิงและเด็กเกือบ 200 คนซึ่งถูกฝากไว้ที่บ้านพักเด็กและสตรีสงขลา ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมานั้น หนีหายไปจากบ้านพักเด็กฯกว่า 100 คนจริง จึงได้ประสานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) ให้ช่วยติดตามกลับมา และหาสาเหตุของการหลบหนีว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่
"ได้รับรายงานจากศูนย์ พมจ.สงขลา (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา) แล้ว ซึ่งทาง พม.ช่วยรับเด็กและสตรีมาดูแล แต่ภายหลังได้หายไปจากบ้านพักเด็กฯ จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบ โดยประสานไปยังตำรวจในพื้นที่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้ช่วยกันค้นหา" รมว.พม.ระบุระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า การหายตัวไปเป็นการหลบหนีไปเองหรือมีขบวนการนำพาในลักษณะของการค้ามนุษย์ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องรอการตรวจสอบ และในส่วนของ พม.รับผิดชอบเฉพาะเด็กและสตรีเท่านั้น
เมื่อซักว่านักสิทธิมนุษยชนห่วงการถูกส่งกลับไปประเทศจีน เพราะทางการไทยเชื่อว่ามุสลิมไม่ปรากฏสัญชาติกลุ่มนี้เป็นอุยกูร์ หลบหนีมาจากมณฑลซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และทางการจีนก็ยืนยันตลอดว่าเป็นชาวอุยกูร์และขอให้ส่งตัวกลับ รัฐบาลไทยมีท่าทีเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.อ.อดุลย์ ตอบว่า "ต้องรอพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อยก่อน"
แจงยอดหลบหนี146คน-เหลือ49
ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ ได้ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ พม. ที่กระทรวงฯ โดยมีการรายงานข้อมูลเรื่องมุสลิมไม่ปรากฏสัญชาติว่า ส่วนที่เป็นผู้หญิงและเด็กซึ่งอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและสตรีสงขลานั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 195 คน ได้หลบหนีออกจากบ้านพักฯซึ่งจัดเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวรวม 8 ครั้ง จำนวน 146 คน เหลือเพียง 49 คน
ในที่ประชุม พล.ต.อ.อดุลย์ ได้สั่งให้ประสานงานกับ บช.ภ.9 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 (ตม.6) และกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 (ตชด.ภาค 4) ให้จัดตั้งกองอำนวยการเพื่อเร่งค้นหาผู้หลบหนี และนำตัวกลับมาอยู่ในความดูแลโดยด่วน เพื่อติดตามพิสูจน์สัญชาติ รวมทั้งได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯดูแลคนที่เหลือต่อไป พร้อมทั้งร่วมกันหามาตรการป้องกันแก้ไขเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ ขอให้ทาง พมจ.สงขลา แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงด้วย อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อดุลย์ ย้ำว่า กระทรวง พม.ให้การดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่กลุ่มคนดังกล่าวตามหลักมนุษยธรรม แต่ไม่มีอำนาจในการควบคุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ผบช.ภ.9 เรียกประชุมทุกฝ่ายทันที
วันเดียวกัน พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แล้ว และทางตำรวจพร้อมดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง พม. ตม. ตชด. กองทัพเรือ และอัยการ เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดทันที พร้อมหาแนวทางแก้ไขร่วมกันด้วย
ทั้งนี้่ ในส่วนของ บช.ภ.9 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 ที่รับผิดชอบเรื่องการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ เป็นผู้ดูแลเรื่องมุสลิมไม่ปรากฏสัญชาติที่หายตัวไป
"สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ คือ ผู้หญิงและเด็กมุสลิมที่อยู่ในบ้านพักเด็กและสตรีสงขลา ไม่ได้ถูกควบคุมในลักษณะกักขัง แต่เป็นแค่การดูแลควบคุมให้อยู่ภายในอาคารที่พักปกติ ทำให้เกิดการหลบหนีขึ้นได้ ซึ่งในเรื่องนี้ที่ประชุมคงต้องคุยกันเพื่อหาแนวทางในการดูแลให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น" ผบช.ภ.9 ระบุ
ไม่เกี่ยวค้ามนุษย์-มีฐานะ"ไม่ใช่เหยื่อ"
จากนั้นได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ บช.ภ.9 ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พุทธิชาต กล่าวว่า ผลการประชุมแบ่งได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ เรื่องแรก มาตรการในการดูแลผู้หญิงและเด็กที่เหลืออยู่ 40 กว่าคน ซึ่งเดิมมีฝ่าย ตม.ส่งกำลังเข้าไปดูแล ที่ประชุมได้สรุปให้เพิ่มมาตรการในการดูแลให้เข้มงวดขึ้น โดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจท้องที่และ ตชด.เข้าไปสนับสนุน เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก
เรื่องที่สอง คือ การติดตามตัวกลุ่มที่หลบหนีออกไป ซึ่งเชื่อว่ายังคงหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง จึงได้ขอประสานความร่วมมือกับทางฝ่ายข่าวและกำลังเจ้าหน้าที่ของทั้งกองทัพเรือ ตชด.และฝ่ายปกครอง ในการร่วมกันติดตามและหาข่าวสาร คาดว่าคงใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ส่วนประเด็นการหลบหนีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าอาจมีขบวนการค้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น พล.ต.ต.พุทธิชาต กล่าวว่า จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลกลุ่มเหล่านี้มาตั้งแต่ต้น ทราบว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ชาวต่างด้าวไม่ปรากฏสัญชาติธรรมดา แต่มีเงินและมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ช่วงถูกจับกุมก็อ้างตัวว่าเป็นชาวตุรกี สมาชิกในกลุ่มหลายคนโดยเฉพาะที่เป็นแกนนำเป็นคนมีความรู้ พูดได้หลายภาษา เชื่อว่าการหลบหนีที่เกิดขึ้นเกิดจากการดำเนินการของพวกเขาเอง เป็นลักษณะติดต่อว่าจ้างคนภายนอกที่รู้จักให้มาช่วยเหลือในการพาหลบหนี
"มีครั้งหนึ่งที่มีการหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถนำตัวกลับมาได้ พบว่ามีรถตู้มาคอยรับและพาหลบหนี จากการสอบสวนทราบว่าพวกเขาเป็นผู้ว่าจ้างรถตู้ให้มารับ เพื่อช่วยนำพาหลบหนีออกไปเอง ไม่ได้มีขบวนการค้ามนุษย์มาเกี่ยวอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ" รองผบช.ภ.9 ระบุ
ยอมรับยังมีปัญหาเรื่องพิสูจน์สัญชาติ
พล.ต.ต.พุทธิชาต กล่าวอีกว่า มุสลิมไม่ปรากฏสัญชาติกลุ่มนี้ เดิมอ้างว่าเป็นชาวตุรกี แต่ทางประเทศตุรกีก็ยังไม่ยืนยัน ขณะที่ทางการจีนได้เข้าร่วมตรวจสอบ และอ้างว่าเป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งเป็นคนของประเทศจีน แต่ทุกอย่างยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ทำให้ทั้งหมดต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของทางการไทยมาตั้งแต่เดือน มี.ค.
"ถ้าเป็นไปได้ การประชุมร่วมเพื่อแก้ปัญหาในครั้งต่อไป อยากให้มีผู้แทนหน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมด้วย จะได้ช่วยกันดูแล" รองผบช.ภ.9 ระบุ
อนึ่ง กลุ่มมุสลิมไม่ปรากฏสัญชาติกลุ่มนี้ ถูก ตม.ควบคุมตัวได้ที่ อ.รัตภูมิ และ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อเดือน มี.ค.57 จำนวน 295 คน ฐานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นได้มีการแยกกลุ่มคนดังกล่าวไปควบคุมตัวไว้ โดยผู้ชายถูกคุมตัวในห้องกัก บก.ตม.6 จ.สงขลา ส่วนเด็กและผู้หญิงถูกแยกไปคุมตัวไว้ที่บ้านพักเด็กและสตรีสงขลา ซึ่งอยู่ในความดูแลของ พม.
ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ทางการไทยยังไม่สามารถผลักดันมุสลิมกลุ่มนี้ออกจากประเทศได้ เพราะมีปัญหาเรื่องการพิสูจน์สัญชาติ โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นชาวตุรกี เชื้อสายอนาโตเลีย แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยัน ขณะที่ทางการจีนก็สงสัยว่าเป็นชาวอุยกูร์ที่หลบหนีออกจากมณฑลซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน จึงต้องการขอตัวกลับประเทศ
หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มภาพอิศรา
อ่านประกอบ :
"มุสลิมอุยกูร์"หายปริศนานับร้อย หวั่นถูกส่งกลับจีนละเมิดกติกาสากล
กรรมการสิทธิฯพบ2ปม"อุยกูร์"ล่องหน เตรียมเรียก"ตม.-พัฒนาสังคมฯ"ชี้แจง