กสทช.ตั้งกก.สอบ 'บ.คราวน์ฯ' เซ็นเอ็มโอยู 2 พรรคการเมือง ตั้งจุดเเลกคูปองทีวี
เลขาธิการ กสทช. สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงด่วน กรณีบ. คราวน์ เทค แอดวานซ์ บริษัทเข้าร่วมโครงการฯ ทำ MOU กับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อใช้ที่ทำการพรรคในแต่ละจังหวัดเป็นจุดแลกคูปอง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วนกรณีบริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลกับสำนักงาน กสทช. ไปทำ MOU กับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อใช้ที่ทำการพรรคในแต่ละจังหวัดเป็นจุดแลกคูปอง
โดยคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ได้แก่ คณะทำงานเพื่อตรวจสอบการใช้คูปองและสินค้าคงคลังในโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ซึ่งมีนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานโทรคมนาคมเป็นประธาน ส่วนคณะทำงาน ประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือผู้แทน น.ส.บุญยืน ศิริธรรม นางมณี จิรโชติมงคลกุล น.ส.ชลดา บุญเกษม และผู้บริหารสำนักงาน กสทช.
"คณะทำงานดังกล่าวจะต้องรายงานผลการตรวจสอบว่าการดำเนินการของบริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด เป็นการผิดต่อ TOR ที่บริษัททำกับสำนักงาน กสทช. หรือมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่ มาที่เลขาธิการ กสทช. ภายใน 2 วัน"
เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น จากการติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการแลกคูปองดิจิตอลทีวี และเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคูปองดิจิตอลทีวี พบว่ามี หลายบริษัทรับแลกคูปองโดยไม่ได้มีการขอเอกสารจากเจ้าบ้านประกอบการแลก และไม่ได้มีการตรวจสอบสถานะคูปองตามขั้นตอน
กรณีเช่นนี้ สำนักงาน กสทช. ขอเตือนไปยังบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ กับสำนักงานฯ ว่า เมื่อมีประชาชนมานำคูปองมาแลกกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ หรือใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ หรือใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อทีวีดิจิตอล บริษัทต้องตรวจสอบหลักฐาน และขอหลักฐานจากประชาชนตามขั้นตอน เพื่อนำมาประกอบในการขึ้นเงินกับธนาคารกรุงไทย หากไม่มีเอกสารประกอบและตรวจสอบไม่พบว่ามีการดำเนินการตามกระบวนการ สำนักงาน กสทช. จะไม่จ่ายเงินให้
สำหรับประชาชนเอง เมื่อได้รับคูปองในล็อตแรกนี้แล้ว นายฐากร ระบุว่า อยากให้ประชาชนใช้สิทธิของตัวเองให้เต็มที่ โดยนำคูปองไปแลกด้วยตนเอง อย่าให้มีคนมาชี้นำเรา เพราะแต่ละบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้สิทธิประโยชน์ไม่เท่ากัน อยากให้ประชาชนเลือกแลกคูปองตามความต้องการและความพอใจของประชาชนเอง ณ จุดให้บริการ ได้แก่ โลตัส, บิ๊กซี, เดอะมอลล์, แม็คโคร, โฮมโปร, เพาเวอร์บาย, ร้านอมรศูนย์รวมอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์, ไอทีซิตี้, เซเว่น อีเลฟเว่น, แฟมิลี่มาร์ท, ร้านหนังสือนายอินทร์, Index Living Mall, Tops, บมจ. อสมท.(Mcot), Mega Home, บริษัท เจ ไอ บี คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แอดไวซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด, Mega market รวมถึงร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัด โดยจุดรับแลกคูปองทุกแห่งจะมีสัญลักษณ์ สัญลักษณ์รับแลกคูปองแสดงอยู่หน้าร้าน โดยประชาชนสามารถนำคูปองไปใช้ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558
"วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 สำนักงานฯ จะเชิญผู้ประกอบการโครงข่าย ผู้ประกอบการดิจิตอลทีวีทั้ง 27 ช่อง มาประชุมหรือแนวทางการแจกจ่ายคูปองในล็อตที่ 2 นี้ด้วย ทั้งนี้ ประชาชนที่มีบ้านอยู่ใน 21 จังหวัดแรกที่มีการแจกคูปอง หากยังไม่ได้รับคูปอง ให้รีบติดต่อขอรับคูปอง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ดูแลพื้นที่ที่บ้านของท่านตั้งอยู่" เลขาธิการ กสทช. กล่าว เเละว่า กรณีที่ติดต่อไปยังไปรษณีย์แล้วปรากฏไม่ว่ามีชื่อว่าได้รับคูปองขอให้รีบแจ้งมายัง Call Center สำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 ได้ทันที เพื่อสำนักงานฯ จะได้รีบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและออกคูปองให้ใหม่ในกรณีที่ตรวจสอบพบว่ามีการพิมพ์คูปองตกหล่นรายชื่อครัวเรือนนั้นๆ จริง
ทั้งนี้ กรณีที่มีปัญหาในการติดตั้งคูปองขอให้ติดต่อยัง Call Center ผู้ให้บริการโดยตรง ซึ่งจะมีแจ้งไว้ที่กล่องผลิตภัณฑ์ หรือหากพบปัญหาอื่นก็สามารถแจ้งมาที่ Call Center สำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 ได้